หุ้นเวียดนาม

ช่วงนี้เป็นฤดูประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก VVI ขอนำรายได้ กำไรหุ้น รายตัวมาฝากค่ะ โดยได้การข้อมูลได้รับการสนับสนุนจาก Finansia Syrus ค่ะ Corporate News: Sao Ta Foods ( หุ้น FMC - อาหารทะเล)ผลประกอบการไตรมาส 2Q21 รายได้+33% YoYกำไรสุทธิ +58.1% YoYบริษัทกล่าวว่ากำไรบริษัทเพิ่มขึ้นจากการธุรกิจเลี้ยงกุ้งดีขึ้น และราคาวัตถุดิบกุ้งยังอยู่ในระดับสูง 1H21, 6 เดือนแรก รายได้สุทธิ +34% YoYกำไรสุทธิ +22.5% YoYการเติบโตของบริษัทในครึ่งปีแรกหนุนโดยธุรกิจส่งออกทั้งอาหารทะเล และสินค้าเกษตร Tien Phong Plastic ( หุ้น NTP - พลาสติก)ผลประกอบการไตรมาส 2Q21 รายได้ +8.5% YoYกำไรหลังหักภาษี +9% YoYต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 31.4% ใน 1Q21 เป็น 22.9% ใน 2Q21 1H21, 6 เดือนแรก รายได้ +9.7% YoYกำไรหลังหักภาษี +32% YoY Petrovietnam Transportation Corporation ( หุ้น...

Corporate News: 22 ก.ค.64 ·        Phu Nhuan Jewelry Joint Stock Company (#PNJ - เครื่องประดับ) เผยรายได้ 6M21 อยู่ที่ 50% YoY เป็น 11.6 ล้านล้านดอง กำไรหลังหักภาษีเพิ่มขึ้น 67.4% YoY เป็น 7.3 แสนล้านดอง เท่ากับ 60% ของประมาณการทั้งปี รายได้จากการค้าปลีกเพิ่มขึ้น 47% YoY รายได้จากการค้าส่งเพิ่มขึ้น 29% YoY  และรายได้จากการของทองคำแท่งเพิ่มขึ้น 73% YoY ในโครงสร้างรายได้ สัดส่วนรายได้จากทองคำแท่งเพิ่มขึ้นจาก 23% เป็น 26.6% แต่สัดส่วนรายได้จากค้าปลีกลดลงจาก 58% เป็น 57% สัดส่วนรายได้จากค้าส่งลดลงจาก 16.6% เป็น 14.2% ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ Covid-19 บริษัทเปิดบริการ delivery PNJ4H ทำให้รายได้จากช่องขายออนไลน์โต 317% YoY ในเดือนมิถุนายน ·        OPC Pharmaceutical Joint Stock Company (#OPC - ผลิตยา) จบไตรมาส 2Q21 บริษัทมีรายได้ทรงตัวที่ 1.9 แสนล้านดอง ต้นทุนการผลิตลดลงเยอะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจาก 36.5% เป็น 39.4% กำไรหลังหักภาษีลดลง 20% YoY เป็น 1.6 หมื่นล้านดองเพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วง Covid-19 จบ 6 เดือนแรก...

 Vietnam Today สรุปจาก บทวิเคราะห์จากFINANSIA SYRUS SECURITIES PCL Market Summary: ·         ดัชนี VN-Index เพิ่มขึ้น 2.29% เป็น 1273.3 จุด และดัชนี HNX-Index เพิ่มขึ้น 3.10% เป็น 301.1 จุด ·         วัสดุก่อสร้าง (+5.3%) การเงิน (+3.2%) สินค้าฟุ่มเฟือย (+3.2%) ดูแลสุขภาพ (-0.2%) Corporate News: ·         Duc Giang Chemicals Group JSC (DGC - เคมีภัณฑ์) เผยรายได้ไตรมาส 2Q21 อยู่ที่ 2 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 29% YoY กำไรหลังหักภาษี 3.3 แสนล้านดอง เพิ่มขึ้น 24% YoY ซึ่งสูงสุดในประวัติการณ์ บริษัทกล่าวว่าปริมาณการขายฟอสฟอรัสเหลือง กรดฟอสฟอริกที่สกัด อื่นๆ เพิ่มขึ้น บวกกับการใช้นวัตกรรมการผลิตใหม่ช่วยให้บริษัทลดต้นทุน และลดราคาขาย สะสม 6 เดือนแรก บริษัทมีรายได้ 3.9 ล้านล้านดอง กำไรหลังหักภาษี 6.2 แสนล้านดอง เพิ่มขึ้น 29% YoY และ 33% YoY ตามลำดับ หรือคิดเป็น 53%...

จากบทสัมภาษณ์  FM 96.5 รู้ใช้เข้าใจเงินวันนี้อ.ดร.นิเวศน์ให้มุมมองต่อหุ้นเวียดนามวันนี้ว่า ถ้าดูภาพเล็กสถานการณ์อาจดูรุนแรง แต่ผมดูภาพใหญ่ ระยะยาว ภาพเล็กเหมือนกับคลื่นซัดเข้ามา แต่ว่าสุดท้ายมันจบที่ภาพใหญ่ ภาพใหญ่ของโควิดเป็นภาพระดับโลก ไม่สามารถแก้ได้ด้วยประเทศใดประเทศหนึ่ง  ตอนนี้ระดับโลกอาจไม่ Peak แต่ Peak ในไทย (ในเวียดนาม)  ประเด็นตอนนี้คนหลีกเลี่ยงกันว่าจะไม่เป็นที่โหล่  ยังไงก็จบ แต่ถ้าจบช้าสุดจะ suffer หนักสุด ขากลับจะยาก  วันนี้ผมดูตลาดเวียดนามตกใจ ลงไป 3% ช่วงนี้ลงหนักมากเลย  เหลือ 1,200 กว่า จาก 1,400 เค้าตกหนักกว่าเรา  คำถามก็คือ ทำไมตกหนัก? บ้านเค้านักเก็งกำไรรายจิ๊บ รายจ๊อย พวกนี้ประเภทตกใจหนีเลย บ้านเราตกใจไม่หนีนะ เราไม่กลัว เค้าใช้ Margin เยอะด้วย ตลาดบางกว่าเรา กลุ่มคนเล่นหุ้นไม่เยอะ  คำถามก็คือ ตกมาแล้วใครจะกลับไปก่อน? ผมก็คิดว่าถ้าพื้นฐานเค้าดีกว่า เค้าก็กลับเร็วกว่าเรา    อย่าไปห่วงมากหรอก โควิดยังไงก็จบ ถึงวันนั้นอาจมีคนชู 2 นิ้ว บอกว่าเย้ ผมจัดการได้แล้ว จริงๆ ไม่ต้องจัดการมันก็จบ เพราะวัคซีนเต็มโลกแล้ว แต่วันนี้มันยังไม่พอ เวียดนามลงเยอะ น่าจะเป็นโอกาส  เศรษฐกิจไม่ได้อิงกับการท่องเที่ยว  จริงๆ เค้าปิดมากกว่าไทย   ส่วนตัวแอดวันนี้ก็โอนไปลงทุนหุ้นเวียดนามเพิ่ม และได้เริ่มขายหุ้นไทยออกบางส่วนเผื่อจะมีจังหวะเพิ่มพอร์ตที่นั่น  สำหรับแอดแล้วชอบการลงทุนระยะยาวแบบ DCA  สุด เพราะเวลาหุ้นตกเราก็จะไม่เครียด และเป็นจังหวะที่ได้เก็บเพิ่ม  เวลาหุ้นขึ้นเราก็ไม่รู้สึกตกรถ  แม้เวียดนามจะมีโอกาสมากในระยะยาว...

โลกในมุมมองของ Value Investor 17 กรกฎาคม 64 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ช่วงโควิดผมได้อ่านหนังสือที่ได้รับจากเพื่อน VI ที่ส่งมาให้หลายเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้มีเวลาอ่านเล่มหนึ่งชื่อ “Upheaval” เขียนโดย Jared Diamond นักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ “Guns Germs And Steal” ที่โด่งดังหลายปีก่อน  หนังสือเล่มนี้พูดถึง “วิกฤติ” โดยเฉพาะของประเทศต่าง ๆ  และจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชาติพ้นจากวิกฤติ ตัวอย่างของประเทศที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงในหนังสือรวมถึง การสงครามระหว่างฟินแลนด์กับสหภาพโซเวียตในช่วงก่อนและต่อไปจนจบสงครามโลกครั้งที่ 2   ญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่ในสมัยเมจิจนกลายเป็นมหาอำนาจและแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2  เยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและการรวมชาติเยอรมันตะวันออกกับตะวันตกภายหลังสงครามเย็น  อเมริกาในประเด็นเรื่องความไม่เสมอภาคและปัญหาเรื่องชนชั้นในสังคม  แต่ประเทศที่ผมสนใจมากกว่าก็คือวิกฤติของประเทศกำลังพัฒนาที่มีหลายสิ่งหลายอย่างคล้ายกับประเทศไทยโดยเฉพาะในด้านของการเมืองที่มักจะเกิดการรัฐประหารและการปกครองในระบบเผด็จการยาวนานซึ่งนำประเทศไปสู่วิกฤติและหนทางที่ประเทศเหล่านั้นออกจากวิกฤติและก้าวหน้าต่อไปในปัจจุบัน  โดยตัวอย่างก็คือ  ประเทศชิลีและอินโดนีเซียในยุคนายพลปิโนเชต์และซูฮาร์โตตามลำดับ คำว่า “Upheaval” นั้น  หมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงและอย่างกะทันหัน  เป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่เลวร้ายก่อให้เกิดปัญหา  ความยากลำบาก  เกิดทุกข์เข็น  ความสับสนโกลาหลและความกังวลในวงกว้างและมักจะต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน  ตัวอย่างเช่นในตอนนี้  ในระดับโลก  การเกิดการระบาดของโควิด-19 ก็ต้องถือว่าเป็น Upheaval ที่ “โลก” ต้องต่อสู้แก้ไขให้โรคนี้สงบลง  เช่นเดียวกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่ทำให้โลกร้อนขึ้นก็ถือว่าเป็น Upheaval เช่นเดียวกันและเป็นเรื่องของ “โลก” ไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่งที่จะสามารถแก้ไขให้สำเร็จได้ด้วยตนเอง  ทั้งโลกต้องร่วมมือกัน  ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ “ยากและท้าทาย” แต่ก็ต้องทำให้ได้ ...

ในการลงทุนหุ้นระยะยาว นอกจากปัจจัยในการเติบโตของประเทศ  การเติบโตของบริษัทจดทะเบียน อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะสำคัญเช่นกันคือ ความสามารถในการจัดการวิกฤตซ้ำซ้อน ที่จะสะท้อนภาวะผู้นำของประเทศนั้นๆ   ต่อให้จบวิกฤตโควิด อนาคตย่อมมีโจทย์ใหม่ๆ มาให้ผู้นำแก้ปัญหาความไว้ใจในผู้นำประเทศก็คงไม่ต่างกับความไว้ในผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนที่เราลงทุน ตอนนี้เวียดนามและไทยเจอวิกฤตโควิด 19 เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็มีจุดแข็งในการรับมือโควิด 19 แตกต่างกัน ??จุดเด่นไทย: โรงพยาบาลมากกว่า ดีกว่า ได้มาตรฐานกว่าเพื่อนเวียดนามแอดที่มีเงินหน่อยก็บินมารักษาเมืองไทย ศัลยกรรมตกแต่งที่ไทย จำนวนเตียงโรงพยาบาลเอกชนคิดเป็นแค่ 3% ของโรงพยาบาลในประเทศ  Health care index ไทย อันดับที่ 13 ของโลก ขณะเวียดนามได้แค่ 66 ของโลก  จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ไทยมากกว่าและมืออาชีพกว่า จำนวนหมอต่อประชากรไทยมีมากกว่าเวียดนามกว่า 5 เท่า (ปี 2019 หมอต่อประชากร 10,000 คน ไทย 1.7 คน เวียดนาม 8.8 คน)  มีความยืดหยุ่น สร้างสรรค์ ประนีประนอม  ?? จุดเด่นเวียดนาม: แม้จะช้าในตอนแรก แต่พอรู้ตัวว่าวัคซีนคือทางออกเดือนที่แล้ว ผู้นำประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงต่างประเทศต่างเร่งเจรจาขอความช่วยเหลือในการทำเข้าวัคซีนแบบอัตราเร่ง มีความร่วมมือกันทุกภาคส่วน มีนโยบายที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการ Lock down และ เรื่องวัคซีน หลังจากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูง  —— สรุปสถานการณ์โควิด...

คุณบิวถาม อ.ดร. นิเวศน์ในรายการรู้ใช้เข้าใจเงินวันนี้ว่า ควรขายหุ้นไทยออกไป 50% ของพอร์ตแล้วเอาเงินไปลง ETF เวียดนามลงแบบ Long term ระยะยาวไหม? อาจารย์มีความเห็นอย่างไร? เรื่องส่วนตัวจริงๆ ถ้าคุณยังเป็นหนุ่มสาวแล้วมีเงิน แล้วคุณบอกว่าจะสร้างพอร์ตชีวิต ถึงวันที่ผมอายุ 50 แล้วพอร์ตผมใหญ่พอ คุณไปได้เลย ในระยะยาวยังไงก็โต  แต่บางคนอายุ 50 จะ 60 คุณไปอย่างนั้นไม่ได้ ตอบยากนะ เราบอกให้ฟัง ในแง่ของการลงทุนตอนนี้ประเทศไทยสู้เค้าไม่ได้หรอก เพียงแต่เมืองไทยคุณก็ต้องลงทุนเพราะใช้เงินบาท ไปต่างประเทศนี่ถ้าวันไหนจะเอาเงินกลับเดี๋ยวโดนภาษี หลายเรื่อง. ผมพูดแต่ภาพ เวียดนามตอนนี้ก็ลงนะ Lockdown เค้าเคยขึ้นไป 1400 ตอนนี้เหลือ 1300 แต่ 1300 ก็สูงมากนะ เพราะไม่กี่เดือนก็ยัง 1200   ถามว่าไปได้ไหม ก็ไปได้นะ เป็นโอกาส ผมก็ดูอยู่ว่าจะไปเพิ่มไหม ก็เป็นจังหวะ เพราะเรารู้ว่าระยะยาวยังไงก็ไม่เป็นไร อาจารย์คิดว่าเค้าจะกดลึกไหมมากไหมคะ  อย่างเวียดนามมีโอกาสไป 1000 ต้นๆ ไหม? เวียดนามเป็นตลาดที่เก็งกำไรสูงมาก เม็ดเงินเค้ายังไม่ stable แบบเรา ของเรานี่ยังมีสถาบันดีกว่า จะลงทุนเวียดนามต้อง prepare ต้องพร้อม ต้องใจเย็น...

โลกในมุมมองของ Value Investor    10 กรกฎาคม 64 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร โลกต่อสู้กับโควิด-19 มาประมาณปีครึ่งแล้ว  ในช่วงแรกนั้น  ประเทศในเมืองหนาวที่เจริญแล้วและ/หรือประเทศที่มีวัฒนธรรมแบบตะวันตกที่มักจะอยู่ใกล้ชิดและสัมผัสกันมากต่างก็ประสบกับการระบาดอย่างหนัก  ดังนั้น  พวกเขาจึงต้อง “ต่อสู้” ซึ่งก็พบว่าไม่มีวิธีอื่นที่จะดีไปกว่าการใช้ “อาวุธ” ที่คิดค้นขึ้นด้วยเทคโนโลยี  “ไฮเท็ค” ซึ่งเป็น  “จุดแข็ง” ของมนุษย์ที่สามารถเอาชนะปรากฏการณ์ของ  “ธรรมชาติ”  มากมายมาแล้ว  สิ่งนั้นก็คือ  การผลิต “วัคซีนรุ่นใหม่” ที่สามารถจะทำได้เร็วและมากพอที่จะป้องกันคนไม่ให้ถูกโรคร้ายเข้ามาทำร้ายร่างกายได้  พวกเขารู้ว่า  การ “ป้องกันตัว” โดยการสวมหน้ากากหรืออยู่ห่างกันอย่างที่เรียกว่า “Social Distancing” นั้น  เป็นได้แค่ “มาตรการชั่วคราว” ที่จะชะลอไม่ให้คนติดเชื้อกันเร็วมากจนระบบสาธารณสุขรับไม่ไหว  และก็เป็นไปตามคาด  วัคซีนถูกคิดค้นและผลิตขึ้นอย่างรวดเร็ว  การฉีดให้กับประชาชนเป็นไปอย่างกว้างขวาง  การติดเชื้อโควิดลดลงอย่างรวดเร็ว  หลาย ๆ แห่งยกเลิก “มาตรการชั่วคราว” เช่นการสวมหน้ากากหรือการแยกห่างจากกัน  แน่นอน  โควิดไม่ได้หายไป  ยังมีการติดเชื้อจำนวนไม่น้อยแต่ก็น้อยกว่าช่วงแรกที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนมากอย่างเทียบกันไม่ได้  อย่างไรก็ตาม  คนที่ติดเชื้อก็มักจะเป็นคนที่  “ไม่ยอมฉีดวัคซีน”  หรือยัง “ไม่ถึงคิวฉีด” ซึ่งรวมถึงคนที่อายุยังน้อยเกินไปด้วย  และในกรณีของคนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนซึ่งจะเป็นด้วยเหตุผลใดก็ตาม  รัฐบาลเองก็คงทำอะไรไม่ได้  เพราะนั่นเป็น “สิทธิ” ส่วนบุคคลที่ไม่มีใครมาบังคับได้ ...

Lockdown เวียดนามตอนนี้จริงจังมากค่ะ เพื่อนแอดเล่าว่าแถวบ้าน เคยมีร้านกาแฟแอบเปิด มีตำรวจ 5-6 คน บุกจับทั้งคนขาย-คนซื้อ กาแฟเลยค่ะ  (ราวกับบุกจับยาเสพติดเลยค่ะ) ดังนั้นเวลารัฐสั่งคนเวียดนามจะค่อนข้างจะกลัวและทำตาม  ตอนนี้ไปไหนแทบไม่ได้นอกจากซื้ออาหาร ซื้อยา หุ้น MWG ที่มี BHX สะดวกซื้อขายอาหารก็ All Time High ไปอีก ว่าด้วยเรื่องค้าปลีกเวียดนาม แอดอ่านบทความหนึ่งแล้วนึกถึงที่ อ.นิเวศน์ เคยบอกว่า ค้าปลีกท้องถิ่นเข้าใจผู้บริโภคดีกว่า  (นอกจากนี้รัฐเวียดนามยังมีกฏหมายแบบถ้าเป็นค้าปลีกเวียดนาม ขอขยายสาขาจะทำได้ภายในไม่กี่วัน แต่ถ้าค้าปลีกต่างชาติอาจใช้เวลาเป็นเดือน กฏแบบนี้ก็สร้าง DCA เข้าไปอีก)  ใครๆ ก็รู้ว่าค้าปลีกเวียดนามโอกาสมหาศาล แต่ “โอกาสไม่ได้แปลว่ามันจะง่าย”  เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่าตอนนี้ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกระดับโลก ที่ไปเวียดนามที่ไปเวียดนามต้องถอยทับ เมื่อเจอเจ้าถิ่น — ค้าปลีกของเวียดนามคือเค้กมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่ดึงดูดผู้ค้าปลีกจากต่างประเทศ  รายงานของบริษัทวิเคราะห์ตลาดระบุว่าเวียดนามเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากที่สุดในเอเชีย โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 37 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และมูลค่า 180,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2563 อย่างไรก็ตามไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ทุกรายที่จะประสบความสำเร็จในเวียดนาม  เหมือนกับที่ Walmart ต้องออกจากเกาหลีใต้  Family Mart ร้านสะดวกซื้อสไตล์ญี่ปุ่นต้องออกจากประเทศไทย Nielsen รายงานว่าการค้าปลีกแบบดั้งเดิม ซึ่งรวมถึงร้านขายของชำและตลาดดั้งเดิม ยังคงครองส่วนแบ่งตลาด 74% และมีอัตราการเติบโต 1% ต่อปี  ในขณะที่การค้าปลีกสมัยใหม่มีส่วนแบ่งการตลาด 26 เปอร์เซ็นต์ และ 12 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ขณะหุ้น...

เปิดตลาดดัชนี VN index ทั้งวันดูทรงๆ  แต่ก่อนปิดตลาด การเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น   กำลังขาย "มหาศาล"  ทำให้หุ้นขนาดใหญ่หลายตัวร่วง เมื่อสิ้นสุดวัน ดัชนี VN ร่วงลง 56.34 จุด (-3.99%) มาอยู่ที่ 1,354.79 จุด ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดของดัชนีนี้นับตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม (-6.67%) ) WHY? สาเหตุที่แน่ชัดในอาการเดาอารมณ์ Mr.Viet Market ไม่ง่าย  เพราะก่อนหน้านี้ยอดผู้ติดเชื้อ All Time High มาพักหนึ่ง ตัวเลขการฉีดวัคซีนก็ยังน้อยแต่ตลาดหุ้นก็โนสน โนแคร์ เด้งใส่หน้าคนรอย่อมาตลอด ส่วนหนึ่งอาจเพราะคาดว่า EPS ปีนี้ก็จะยังดีใช้ได้ (แม้จะมีการลดประมาณการ EPS และ GDP บ้างจากต้นปี) แอดขอสรุป WHY ดังนี้ค่ะ มีข่าวลือว่าจะ Lockdown แบบเข้มข้น การใช้ Margin อยู่ระดับสูงมาหลายวัน นักลงทุนรายย่อยจึงขายทำกำไรก่อนจะโดน Call Margin ตัวเลขนักลงทุนหน้าใหม่เปิดบัญชีหลักทรัพย์หุ้นเวียดนาม 6 เดือนนี้  มากกว่า 2 ปีรวมกัน  ( ปี 2019+2020 )...