โลกในมุมมองของ Value Investor 21 พฤษภาคม 2565
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตกกันระเนระนาดอานิสงค์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนและสาเหตุอื่น ๆ อีกหลายเรื่องที่ประดังกันเข้ามาพร้อมกันจนบางคนบอกว่าเป็นเหตุการณ์ “Perfect Storm” หรือเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นประเภท “หนึ่งในร้อยปี”
การตกลงมาของตลาดหุ้นอเมริกาในรอบนี้ผมคิดว่าเข้าข่ายเป็น “ตลาดหมี” แล้วโดยเฉพาะในตลาดหุ้นแนสแด็กที่เป็นตัวแทนของหุ้นไฮเท็คและเป็นหุ้น “เก็งกำไร” สูง ส่วนหุ้น S&P ซึ่งเป็นหุ้นที่เป็นตัวแทนของทั้งประเทศนั้น “หมีก็รออยู่ที่หน้าประตู” แล้ว ในขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ของประเทศอย่างดาวโจนส์ซึ่งเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ของประเทศและของโลกนั้น ไม่ช้าก็เร็วก็คงจะเป็น “ตลาดของหมี” ในที่สุด
คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะ VI ก็คือ แล้วตลาดหุ้นไทยจะกลายเป็นหมีตามไปหรือไม่? เราควรจะทำอย่างไรกับหุ้นและการลงทุนของเรา ลองมาวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นกัน มองในแง่ของประวัติศาสตร์ดัชนีตลาดหุ้นของหลาย ๆ ประเทศ ไม่ต้องพูดถึงเหตุการณ์หรือเหตุผลมากมายที่มีคนพูดถึงกันมากแล้ว
ตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงตั้งแต่ปี 2009 หลังจากวิกฤติซับไพร์มที่ทำให้ดัชนีหุ้นตกลงมาประมาณ 40% นั้น เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาตลอดจนถึงสิ้นปี 2021 โดยที่มีการ “ปรับตัว” หรือหุ้นตกหนักถึงหนักมากเป็นระยะโดยเฉพาะในช่วงต้นปี 2020 ที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ที่หุ้นตกหนักถึงกว่า 30% ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 3-4 เดือน
การปรับตัวขึ้นของหุ้นเป็น “ตลาดกระทิง” ตั้งแต่ปี 2009 ถึงสิ้นปี...
-VinMart+ 2601 สาขา (ภายใต้การดูแลของ Masan Group)
-Bach Hoa Xanh 2147 สาขา(ภายใต้การดูแลของ Mobile World Investment Corp)
-Circle K 415 สาขา(ภายใต้การดูแลของ Circle K Vietnam)
-Co.op Food 394 สาขา(ภายใต้การดูแลของ Saigon Co.op Food)
-Satra Foods 187 สาขา(ภายใต้การดูแลของ Saigon Trading Group)ขอบคุณข้อมูลจาก: Statista (update Apr. 2022)______
หาหุ้นไปกับสัมมนา Super stock เวียดนาม อเมริกา จีน และ Live อับเดททุกเดือน พร้อมสิทธิ์พิเศษ VVI membership คลิ๊ก: https://bit.ly/3F3mTKn
มือใหม่ลงทุนหุ้นเวียดนาม ดูคลิปย้อนหลังกว่า 35 ตอน 40 ช.ม. คลิ๊ก: https://bit.ly/316AyPX
#VietnamVI #VVI #VietnamValueInvestor #StockUpdate #VietnamStock #หุ้นเวียดนาม...
ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจสมัคร Tour learn earn more จนเต็มใน 45 นาที่แรกของเปิดรับสมัคร 🙏 โปรดติดตามโปรแกรม Tour learn earn more. ครั้งต่อไปของเรา ที่นี้ ไวๆนี้ คะท่านที่สมัคร ในvvi membership จะได้รับสิทธิพิเศษในการสมัครก่อนใครพร้อมส่วนลดเช่นเดิมคะ
สนใจสมัครvvi membership คลิ๊กลิงค์เลยคะ https://bit.ly/3F3mTKn
.-Pharmacity 1000 สาขา-Long Chau 535 สาขา-An Khang 210 สาขา-Guardian 98 สาขา-Medicare 77 สาขา-Phano Pharmacy 62 สาขา.ขอบคุณข้อมูลจาก: Statista (update Apr. 2022).______.
หาหุ้นไปกับสัมมนา Super stock เวียดนาม อเมริกา จีน และ Live อับเดททุกเดือน พร้อมสิทธิ์พิเศษ VVI membership คลิ๊ก: https://bit.ly/3F3mTKn.มือใหม่ลงทุนหุ้นเวียดนาม ดูคลิปย้อนหลังกว่า 35 ตอน 40 ช.ม. คลิ๊ก: https://bit.ly/316AyPX.#VietnamVI #VVI #VietnamValueInvestor #StockUpdate #VietnamStock #หุ้นเวียดนาม #Pharmacy #LongChau #AnKhang #MWG #FRT
REE เป็นหนึ่งในหุ้นบริษัทแรกๆที่ผมศึกษาตอนเริ่มลงทุนที่เวียดนาม (ราวปี 2015) สาเหตุเพราะเป็นหุ้นที่ นลท. เวียดนามเองไม่ค่อยสนใจ คงเป็นเพราะ Business model ที่ไม่ Sexy และน่าเบื่อ รวมถึง FOL ที่เต็มไปแล้ว เและไม่มีแรงซื้อจากต่างชาติมาช่วย Drive ราคาหุ้น ทำให้ราคาหุ้นซื้อขายกันที่ PE ต่ำมาก (forward PE < 8) ในตอนนั้น
——————————
REE business in 2015 คือ
1. M&E REE เป็นบริษัทรับเหมารายใหญ่ทางด้านระบบ Mechanical and electrical ในอาคารเช่น Office building โรงแรม และ สนามบิน
2. Office leasing ให้เช่า Office โดยมีพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 110,000 ตร.ม.
3. Utility โดย REE เข้าไปถือหุ้นบริษัทผลิตไฟฟ้าและบริษัทผลิต/จำหน่ายน้ำประปา ซึ่ง Investment ก้อนใหญ่จะอยู่ที่ โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน Pha...
***ขออภัยผู้สมัครเต็มแล้วค่ะ***
Tour Learn Earn More in Ho Chi Minh City,
เตรียมสมัครทริปสัมมนา Tour Learn Earn More in Ho Chi Minh City, 12-14 ก.ค. 65 จัดโดย VVI GROUP ร่วมกับ Viet Capital Securities (VCSC)
รายละเอียด HIGHLIGHT
- ได้เวลาปิดจอดูหุ้นแล้วไปเที่ยว “วิกฤตหรือโอกาสในการลงทุนหุ้นเวียดนามท่ามกลางความผันผวน”
- Update สาระความรู้ ศึกษาธุรกิจ สภาพการแข่งขันหุ้นไปพร้อมกับการท่องเที่ยวเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญสุดของเวียดนาม
- เรียนรู้-แลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนกับเพื่อนนักลงทุน คุยกันสดๆ พร้อมใช้ชีวิตร่วมกันในต่างแดน
- พบบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ถามตรงกับผู้บริหาร
- Company visit ชมธุรกิจ บริษัทที่น่าสนใจในตลาดหุ้น- สถานที่จัดสัมมนา Sheraton Saigon Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาว กลางเมือง ทั้งสะดวกทั้งใกล้สถานที่สำคัญในการหาหุ้น และอาหารอร่อย
-...
โลกในมุมมองของ Value Investor 7 พ.ค. 2565
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
นักลงทุน VI ระยะยาวมากเป็น 10 ปีขึ้นไปนั้น เวลาที่จะลงทุนควรที่จะเลือกตลาดหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไปเช่นเดียวกัน และตลาดหุ้นที่จะมีลักษณะอย่างนั้นได้ก็ควรที่จะอยู่ในประเทศหรือเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตเร็วและจะเติบโตต่อเนื่องไปอย่างน้อยอีก 10 ปีเช่นเดียวกัน เพราะเศรษฐกิจที่โตเร็วและมีขนาดใหญ่พอนั้นจะทำให้มูลค่าของตลาดหุ้นหรือดัชนีตลาดหุ้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเติบโตถึงจุดหนึ่งแล้ว มันก็มักจะเติบโตช้าลงและอาจจะหยุดโตเลย อย่างไรก็ตาม บางประเทศนั้นเนื่องจากโตเร็วมาก เมื่อโตถึงจุดหนึ่งคนก็ร่ำรวยและประเทศกลายเป็นประเทศ “พัฒนาแล้ว” แต่บางประเทศก็อาจจะโตไม่เร็วพอจึงเป็นได้แค่ “คนชั้นกลางค่อนข้างดี” แต่ประเทศโตช้าหรือหยุดโตแล้ว ซึ่งในทางวิชาการเรียกว่าเป็น “Middle Income Trap” หรือประเทศที่ติด “กับดักรายได้ชั้นกลาง”
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ระยะเวลาของการเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นว่ามันจะโตแค่ไหนและยาวแค่ไหน? มาศึกษาประวัติศาสตร์ดัชนีตลาดหุ้นของประเทศที่โตเร็วหรือเคยโตเร็วกัน 3 ประเทศคือ ญี่ปุ่น ไทย และเวียดนาม ซึ่งผมพบว่ามีรูปแบบคล้ายคลึงกันมากอย่างไม่น่าเชื่อและดูเหมือนว่าประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศเช่นเกาหลีหรือไต้หวันก็มีพฤติกรรมใกล้เคียงกัน มันคงมีเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์อยู่แต่ผมศึกษาไม่ไหว
การเติบโตของตลาดหุ้นซึ่งสะท้อนจากการเติบโตของเศรษฐกิจนั้นดูเหมือนว่าจะโตเร็วต่อเนื่องจากวันที่ “เริ่มการพัฒนา” ไปยาวนานถึงประมาณ 40 ปี โดยที่ 20 ปีแรกจะเป็นช่วงโตเร็วมากที่สุด และ 20 ปีหลังจะโตช้าลง บางทีก็ช้าลงมากแต่บางแห่งก็ช้าลงไม่มากขึ้นอยู่กับศักยภาพของคนและระบบการปกครองของประเทศ ...
ดัชนี VN index ของเวียดนามในเดือน เม.ย. 65 ได้ตกลงมาค่อนข้างแรงคือจาก ระดับ 1525 จุด ณ วันที่ 4 เม.ย. 65 ลงมาที่ 1311 จุด (25 เม.ย. 65) คิดเป็นการดิ่งลงกว่า 214 จุดสาเหตุหลักน่าจะมาจาก 2 ประเด็นคือ
Transparency ทางรัฐบาลต้องการเพิ่มความโปร่งใสและธรรมาภิบาลโดยได้มีการจับกุมและลงโทษเจ้าของรวมถึงผู้บริหารของที่ Manipulate ราคาหุ้น (ปั่นหุ้น)โดยบริษัทที่เข้าข่ายและมีการดำเนินการไปแล้วมี 3 กลุ่มบริษัท คือ FLC (รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้อง ROS, AMD, HAI เป็นต้น) ,Louis holding (บริษัทที่ข้องเกี่ยวคือ TGG, BII, SJF APG เป็นต้น)อีกบริษัทที่โดนคือ Tri Viet Securities และมีข่าวว่าอาจะมีบริษัทที่จะโดนข้อหานี้เพิ่มอีกด้วยIllegal Bond Issuance โดยที่ผู้บริหารบริษัท Tan Hoang Minh (บริษัทนอกตลาด) ถูกดำเนินการทางกฎหมายเนื่องการออก...
>>> STOCK UPDATE – VHM <<<
~ อัพเดทข่าวหุ้น VINHOMES ~
.
Vinhome (VHM) ปรับเป้าผลประกอบการของปี 2022 ลงโดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 75 ล้านล้านดอง (-12% YoY) และ กำไรสุทธิที่ 30 ล้านล้านดอง (-23% YoY) นับเป็นการหยุดสถิติกำไรสุทธิที่เติบโตติดต่อกันมา 4 ปี โดยไม่ได้ให้เหตุผลของการลดประมาณการลง
.
VHM วางแผนที่จะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์สำคัญในปีนี้โดยเน้นช่องทางขายทางออนไลน์และปรับปรุงคุณภาพการให้บริการในโครงการที่มีอยู่ปัจจุบัน รวมทั้งจะมีการขยายนิคมอุตสาหกรรมทางภาคเหนือที่เมือง Hai Phong และ Quang Ninh
.
credit: vnexpress , KTX Internews (25/4/22)
______
.
🔸 หาหุ้นไปกับสัมมนา Super stock เวียดนาม อเมริกา จีน และ Live อับเดททุกเดือน พร้อมสิทธิ์พิเศษ VVI membership
คลิ๊ก: https://bit.ly/3F3mTKn
.
🔸 มือใหม่ลงทุนหุ้นเวียดนาม ดูคลิปย้อนหลังกว่า 35 ตอน 40 ช.ม. คลิ๊ก: https://bit.ly/316AyPX
.
#VietnamVI #VVI...
โลกในมุมมองของ Value Investor 23 เมษายน 2565
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
สองสามวันที่ผ่านมามีหุ้นบางตัวถูกให้หยุดการซื้อขายหรือถูก SP 1 วัน เพราะราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาก “ผิดปกติ” ซึ่งเข้าข่ายเป็นหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูงผิดปกติที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ออกกฎเกณฑ์หลายข้อและหลายระดับในการที่จะป้องกันไม่ให้มีการเก็งกำไรมากเกินไปซึ่งอาจจะทำให้ราคาหุ้นขึ้นเกินพื้นฐานไปมากและอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนได้ เกณฑ์ที่ใช้นั้นมีหลายข้ออาจจะเริ่มตั้งแต่การดูปริมาณการซื้อขายและราคาหุ้นที่ “แพงเกินไป” วัดจากกำไรของบริษัทเทียบกับตัวชี้วัดเช่นค่า PE เป็นต้น และก็คงมีอย่างอื่นอีกที่ผมเองก็ไม่ได้ศึกษาติดตามมากนัก และเมื่อมีหุ้นที่เข้าเกณฑ์แล้ว ก็จะถูกเพิ่มเงื่อนไขในการซื้อขายเช่น ห้ามใช้มาร์จิน ต้องวางเงินสดเต็มจำนวน อะไรทำนองนี้ และสุดท้ายที่เป็น “มาตรการสูงสุด” เนื่องจากหุ้นอาจจะมีราคา “แพงสูงสุด” หรือเก็งกำไรสูงสุดไปแล้วก็คือการ “หยุดการซื้อขาย 1 วัน” ดังกล่าว
หลังจากการหยุดพักการซื้อขาย 1 วัน ดูเหมือนว่าราคาหุ้นไปได้ปรับลงเลย แต่กลับปรับตัวขึ้นไปมากยิ่งกว่าเดิม ซึ่งก็หมายความว่ามาตรการในการ “ลดการเก็งกำไร” ไม่ได้ผลเลย แต่อาจจะยิ่งเพิ่มการเก็งกำไรขึ้นไปอีก ผมเองดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็นมาตรการที่ “เบามาก” คล้าย ๆ กับคนทำผิดคดีข่มขืนแต่ถูกลงโทษตีก้นหนึ่งที และผมเองก็ไม่เข้าใจว่าการให้หยุดการซื้อขาย 1 วันนั้นจะทำให้คนคิดคำนึงว่ามันเป็นหุ้นเก็งกำไรที่นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงได้อย่างไร ว่าที่จริงคนอาจจะยิ่งคิดว่านี่คือหุ้นที่จะเก็งกำไรกันรุนแรงขึ้นและเขาอาจจะชอบที่จะเล่นเพิ่มขึ้น เพราะมันเหมือนเป็น “สป็อตไล้ท์” ส่องให้หุ้นเด่นขึ้นและเรียกให้คนเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้นด้วยซ้ำ
ผมเองไม่รู้ว่าหลังจากการหยุดซื้อขายหุ้น 1 วันไปแล้ว จะมีมาตรการอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีก็แสดงว่าหุ้นก็คงสามารถแสดงอภินิหารต่อไปได้เรื่อย ๆ จนวันหนึ่งอาจจะมีขนาดเป็นล้านล้านบาทและใหญ่ที่สุดในตลาดก็ได้ ...