bitkub
โลกในมุมมองของ Value Investor       6 พฤศจิกายน 2564 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร การประกาศเข้าซื้อหุ้นบิทคับออนไลน์จำนวน 51% ด้วยเงิน 17,850 ล้านบาท ของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์หรือ  SCBX เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เคยประกาศปรับโครงสร้างจากการเป็นธนาคารให้เป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินเมื่อเร็ว ๆ  นี้  เหตุผลเพราะว่านั่นเป็นเครื่องแสดงว่ากลุ่ม SCBX  “เอาจริง” กับการมุ่งหน้าไปสู่  “โลกใหม่” ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วซึ่งในที่สุดอาจจะ Disrupt หรือทำลายธนาคาร “แบบเก่า” ได้  นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง  แต่อีกประเด็นหนึ่งก็คือ  การที่บิทคับออนไลน์ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มซื้อขายเหรียญดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้กลายเป็น  “ยูนิคอร์น” ตัวใหม่  เพราะมูลค่าของบริษัทจะเท่ากับ 35,000 ล้านบาทหรือมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่จะวิเคราะห์หรือวิจารณ์ดีลนี้   ผมอยากจะให้ทำความเข้าใจกับ  “โลกใหม่” ที่โลกและโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพย์สินต่าง ๆ  ในโลกนี้กำลัง “ถูกทำให้เป็นดิจิทัล” อย่างรวดเร็วหรือก็คือการทำให้เป็น  “โลกเสมือน” คู่ไปกับ “โลกจริง” อย่างที่มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก เพิ่งจะประกาศเป็นวิสัยทัศน์ของเฟซบุคว่าจะนำบริษัทเข้าสู่โลกของ “Metaverse” หรือ “อาณาจักรของโลกเสมือน” พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น  “Meta” แต่ผมเองคงไม่ไปไกลถึงขนาดว่าโลกจะเป็นอย่างไรในอนาคต ...
หุ้นเวียดนาม
เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดทั่วโลก  โดยเพิ่มขึ้น 7.6% MoM และ +30.8% YTD   วันนี้ VN index ปิดที่ 1456.51 จุด PYN Elite ให้มุมมองว่า เวียดนามพุ่งแรงอีกครั้งเพราะ  1. ความเชื่อมั่นในการเปิดเศรษฐกิจและอัตราการเร่งฉีดวัคซีน  2. ผลประกอบการไตรมาส 3 ดีเกินคาด 3. แผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกใหม่ ของรัฐบาล ---- All Time High แล้วแพงไหม? PYN Eliteให้มุมมองว่า แม้หุ้นเวียดนามจะ All Time High แต่ VN Index ซื้อขายที่ Forward P/E ปี 2022 แค่ 13.6 เท่า ซึ่งมาพร้อมกำไรบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง  แนวโน้มเติบโต สภาพคล่องรายวันอยู่ในระดับสูงที่ ~38,300 ล้านบาท (€1.0 bn) โดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ รายงานเงินไหลเข้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนในท้องถิ่น รัฐบาลเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.16 ล้านล้านบาท ($35 bn, 10% ของ GDP)  ซึ่งหากได้รับการอนุมัติก็คาดว่าจะเพิ่มการโตของGDP เวียดนาม 1% ต่อปี ในช่วงปี 2564-2568 ขอบคุณข้อมูลจาก : PYN-Elite http://www.pyn.fi/wp-content/uploads/PYN-Elite-Monthly-Review_October_2021_EN_V3.pdf?fbclid=IwAR1oP39IP3Gq_ansucoWo7HavEMTqGl4A_Mx3kW6PKNTlDU6-dBoUVW8w0Q ---- อย่าลืมทุกวันอาทิตย์...
Baillie Gifford
โลกในมุมมองของ Value Investor       30 ตุลาคม 64 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในช่วงที่หุ้นดิจิตอลและหุ้นไฮเท็คทั้งหลายโดยเฉพาะที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก “บูม” หนักจนอาจจะเป็น  “ฟองสบู่” นั้น  นักลงทุนทั่วโลกต่างก็สนใจที่จะลงทุนในหุ้นเหล่านั้น  แต่เนื่องจากความรู้เกี่ยวกับธุรกิจและตัวหุ้นมีจำกัด  คนจำนวนมากจึงสนใจที่จะลงทุนผ่านกองทุนรวมที่บริหารโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีผลงานการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้อย่างชัดเจนเป็นที่ประจักษ์  และกองทุนหรือคนที่เป็นผู้บริหารที่โดดเด่นที่สุดอย่างน้อย 2 รายก็ปรากฏขึ้น  หนึ่งในนั้นก็คือกองทุน  ARK Invest ซึ่งทำผลงานการลงทุนในหุ้นไฮเท็ค-เปลี่ยนโลกได้โดดเด่นโดยเฉพาะในปี 2020 ที่กองทุนหลาย ๆ กองให้ผลตอบแทนเป็น 100-200% ในปีเดียว  อย่างไรก็ตาม สถิติการลงทุนของ Ark นั้นยังสั้นมากไม่ถึง 10 ปี  และในช่วงนั้น  มีหลายปีและหลายช่วงที่กองทุนก็ไม่ได้มีผลงานโดดเด่น  ตั้งแต่ต้นปี 2021 นี้กองทุนก็ยังติดลบอยู่ขณะที่ดัชนีหลัก ๆ ของโลกกลับบวกค่อนข้างดี   ดังนั้น  ผลงานหรือฝีมือการลงทุนของ Cathie Wood ยังคงต้องรอการพิสูจน์ต่อไป อีกกองทุนหนึ่งที่เน้นในหุ้นไฮเท็คหรือ “หุ้นแห่งอนาคต” คล้ายกับกองทุน ARK และก็มีผลงานยอดเยี่ยมเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2020 ในระดับ 100% เหมือนกันก็คือกองทุนของ Baillie Gifford...
โลกในมุมมองของ Value Investor    22 ตุลาคม 64 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร การประกาศผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ของแบ้งค์ชาติให้คนสามารถกู้เงินเต็ม 100% ของราคาบ้านได้จากเดิมที่กู้ได้ตั้งแต่ 70-90% ทำให้หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นการสร้างบ้านหรือคอนโดขายปรับตัวขึ้นกันจำนวนมากโดยเฉพาะบริษัทที่เป็นผู้นำและมีขนาดใหญ่  ปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่แทบจะเลิกสนใจในหุ้นกลุ่มนี้มานานมากแล้วเพราะมันเป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ “อิ่มตัว” ยอดขายทั้งอุตสาหกรรมน่าจะไม่เพิ่มมาหลายปีและน่าจะลดลงไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ ในอนาคต  บริษัทจดทะเบียนต่างก็มียอดขาย “เท่าเดิม” มาไม่น้อยกว่า 4-5 ปีขึ้นไปเช่นเดียวกับกำไรที่ทรง ๆ อยู่เท่าเดิมในช่วงเวลาเดียวกัน  รายที่ดีขึ้นก็เป็นข้อยกเว้นและก็น่าจะเป็นเรื่องชั่วคราว  อนาคตก็คงโตต่อไปไม่ไหว  หลาย ๆ  บริษัทเริ่มหันไปทำอย่างอื่นเพิ่ม เช่น  ทำห้างสรรพสินค้า หรือทำโรงพยาบาล เป็นต้น  ในส่วนของเจ้าของหุ้นหรือผู้บริหารเองนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจและอาจจะ “ถอดใจ” ที่จะ  “ดูแลหุ้น”  ที่ส่วนใหญ่ก็ “ไม่ไปไหน” มาหลายปี  พวกเขาคงเลิกคิดที่จะได้เงินจากราคาหุ้นแต่ใช้วิธีรับเงินจากการจ่ายปันผลโดยการประกาศจ่ายปันผลที่ดีเมื่อเทียบกับราคาหรือมูลค่าหุ้นของบริษัทมากกว่า  ดังนั้น  สำหรับนักเก็งกำไรแล้ว  หุ้นอสังหาจึงอยู่ “นอกสายตา”  แต่สำหรับ VI อย่างผม  นี่อาจจะเป็นหุ้นที่ “ลงทุนได้” ถ้าราคาหุ้นถูกพอที่จะเก็บลงทุนระยะยาวเพื่อ “กินปันผล” ที่คุ้มค่า  เหตุผลก็เพราะหุ้นขายบ้านจัดสรรโดยเฉพาะที่มีขนาดใหญ่และอยู่มานานมากนั้น  มีคุณสมบัติที่จะทำรายได้และกำไรที่สม่ำเสมอและในระดับสูงและน่าจะนานพอสมควรต่อไปในอนาคต  เหตุผลก็เพราะว่าการแข่งขันโดยรายใหม่ ๆ ...
มีคำถามจากมือใหม่ว่า ค่าเงินเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นเวียดนาม อเมริกา จีนหรือหุ้นต่างประเทศอย่างไร วันนี้ จะเล่าให้ฟังแบบจบในโพสต์เดียว หลักมันมีอยู่ว่าจะซื้อหุ้น หรือ ETF หรือกองทุนต่างประเทศ ไม่ว่าจะผ่านโบรกเกอร์หรือกองทุนไหนก็ตาม เขาต้องเอาเงินเราไปแลกเงินประเทศนั้นๆ หากเงินบาทบ้านเราอ่อนค่า ไปแลกเป็นเงินต่างประเทศ มันก็ได้เงินน้อยลง ยิ่งเงินประเทศที่เราจะลงทุนแข็งค่าขึ้นอีกด้วย เราก็จะแลกเงินเขาได้น้อยลงไปอีก ดังนั้นเวลาซื้อหุ้นในประเทศเขาเราก็จะได้จำนวนหุ้น น้อยลงนั้นเอง ยกตัวอย่างได้แบบง่ายๆ โดยไม่นำค่า Fee มารวมคิด ตัวอย่างเช่นอัตราแลกเปลี่ยน 30 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ ต้องการซื้อหุ้น A ราคาหุ้นละ 10 ดอลลาร์ จำนวน 100 หุ้น ต้องใช้เงิน 3000 บาท ต่อมาเงินบาทอ่อนค่าเป็น 35บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ ต้องการซื้อหุ้น A ราคาหุ้นละ 10 ดอลลาร์ จำนวน 100 หุ้น ต้องใช้เงิน 3500 บาท ดังนั้นเราต้องจ่ายเงินเพิ่ม 500 บาท จึงอาจไม่เป็นผลดีต่อนักลงทุนหุ้นต่างประเทศหากค่าเงินบาทอ่อน แต่จะเป็นผลดีต่อนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศอยู่แล้ว เพราะจากกรณีดังกล่าว หากนักลงมีหุ้น A อยู่ก่อนแล้ว แม้หุ้นไม่ขึ้น...
สัปดาห์ก่อนนายกรัฐมนตรีได้ประกาศ  “เปิดประเทศ” ให้ชาวต่างชาติที่มาจากประเทศที่มี “ความเสี่ยงต่ำ” และได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบถ้วนแล้ว  สามารถเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยได้อย่างไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป  ข่าวนี้ทำให้วันรุ่งขึ้นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น 10 จุด แม้ว่าจะไม่มาก  แต่เมื่อคำนึงถึงว่าดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศในวันนั้นต่างก็ไม่ดีนักก็ต้องถือว่านั่นเป็น “ข่าวดี” ที่ประชาชนและนักลงทุนต่างก็ตื่นเต้นที่คาดว่าภายในช่วงสิ้นปีนี้การท่องเที่ยวจะดีขึ้นมาก  และนั่นก็จะหมายถึงว่าเศรษฐกิจโดยรวมก็น่าจะเริ่มฟื้นตัวและจะดีขึ้นอีกมากในปีต่อไป  ราคาของหุ้นโดยรวมจึงปรับตัวขึ้น  และหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยตรงทั้งจากต่างประเทศและในประเทศก็ปรับตัวขึ้นไปมากยิ่งกว่า  นักวิเคราะห์และ “นักเก็งกำไร” ซึ่งมีเพิ่มขึ้นมากในช่วงโควิดต่างก็แนะนำให้ซื้อหุ้นและเข้าซื้อหุ้นโดยเฉพาะที่จะได้รับผลดีจากการเปิดเมืองโดยตรง  ยิ่งได้ผลดีมากเท่าไร  ก็น่าซื้อมากขึ้นเท่านั้น   แต่ผมเองกลับมีความรู้สึกว่านี่อาจจะเป็น “ความเสี่ยง” ที่จะซื้อหุ้นแพงที่เกิดจากแรงกระตุ้นของการเก็งกำไรและการมองโลกในแง่ที่ดีเกินไป ประเด็นของผมก็คือ  การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจนั้น  อาจจะดีขึ้นเร็วในช่วงแรก  อาจจะซัก 1 ปี  อานิสงค์ส่วนหนึ่งจาก  “Pent-Up Demand” หรือความต้องการที่เพิ่มขึ้นแรงทันทีเพราะกิจกรรมถูก “อั้นไว้” ไม่สามารถทำได้มานาน  แต่เมื่อได้ทำแล้ว  หลังจากนั้นความต้องการก็จะกลับสู่ภาวะปกติซึ่งก็อาจจะเติบโตช้าลงมากในปีต่อ ๆ ไปซึ่งน่าจะเกิดจากการที่ประชาชนมีหนี้สินมากขึ้น  รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้น  คนแก่ตัวลง  และอาจจะบริโภคสิ่งที่เคยบริโภคบางอย่างน้อยลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในช่วงเกือบ 2 ปีของการระบาดของโควิด-19  ทั้งหมดนั้นทำให้การเติบโตในระยะยาวซัก 3-4 ปีจากนี้อาจจะค่อนข้างต่ำ  ซึ่งทำให้บริษัทจดทะเบียนจำนวนมากไม่สามารถเติบโตได้มากนัก  และนั่นก็นำไปสู่มูลค่าหุ้นของกิจการที่จะ  “ไปไม่ไกล” จากระดับที่เคยสูงสุดก่อนหน้าที่จะเกิดโควิดระบาดเมื่อสิ้นปี 2562 ลองมาดูหุ้นที่น่าสนใจในแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะที่มีราคาเพิ่มขึ้นแรงเพราะผลของการประกาศเปิดเมือง  โดย “กรอบความคิด”...
วันนี้แอดนั่งดูค่าเงิน และผลตอบแทนหุ้นเวียดนามจากต้นปี ขอแบ่งตามกลุ่มนักลงทุนหุ้นเวียดนามแบบง่ายๆ เป็น 4 กลุ่ม 1. กลุ่มโอนเงินไปเวียดนาม แล้วลืมซื้อหุ้น กำไร +13.2% YTD 2. กลุ่มโอนเงินไปซื้อ VN30ETF (E1VFVN30) ที่เวียดนาม กำไร +56.21% YTD 3. กลุ่มซื้อ VN30 ETF ในไทย (DR: E1VFVN3001) กำไร +56.25% YTD 4. กลุ่มโอนเงินไปซื้อ Diamond ETF (FUEVFVND) ที่เวียดนาม กำไร +76.6% YTD — แต่ก่อน มักได้ยิน นลท. บ่นว่าลงทุนหุ้นเวียดนาม ได้กำไรหุ้นก็ขาดทุนค่าเงิน สุดท้ายไม่ได้อะไร เงินบาทนี่หล่ะเป็น Safe Heaven ที่แท้ทรู ตอนนี้ มักได้ยิน นลท. บ่นว่าโอนออก ตอนนี้ก็ขาดทุนค่าเงิน รอก่อนดีกว่า ไม่ก็ขายหุ้นเวียดนามทิ้ง เอาเงินกลับจะได้กำไรค่าเงิน แอดมินว่าการเดาค่าเงินมันยาก...
เชื่อไหม! เวียดนามมีหุ้นจดทะเบียนมากกว่าไทย ขณะไทยมีหุ้น 763 ตัว (SET 582 ตัว , MAI 181 ตัว) เวียดนามมีหุ้นรวมกันถึง 1,658 ตัว วันนี้มี สรุป โพสต์เดียวจบ ครบ 1,658 ตัว ในตลาดหุ้นเวียดนาม - หุ้นอะไร - ทำอะไร - Mkt Cap เท่าไหร่ - ติด Foreign room ไหม? - P/E , P/B ปัจจุบัน-อนาคต เป็นอย่างไร? - ปันผล (%) - ROE ทุกอย่างครบจบในโพสต์นี้ค่ะ! พร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ เริ่มจากตลาด Ho Chi Minh Stock Exchange (HOSE) ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (อาจเทียบได้กับ SET ของไทย) ต่อมาเป็น Hanoi Stock Exchange...
TLH – เหล็ก : 9 M รายได้+ 14.6% กำไรขึ้นหลายเท่า (YoY)TNC – ยางพารา : เตรียมปันผล 6M รายได้ลด 14.6% กำไรลด 54% (YoY)AGG – อสังหาฯ : เตรียมเพิ่มทุน 1:1PTB - คาดปีนี้ รายได้และกำไรโต 26.1% YoY และ 51.9% YoY Corporate News: • Tien Len Steel (TLH – เหล็ก)รายได้เดือนกันยายน เป็นเดือนที่ 3 ที่รายได้บริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่กำไรหลังภาษีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าสะสม 9 เดือนแรก บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 14.6% YoY เป็น 3,283 พันล้านดอง (4,820 ล้านบาท) กำไรหลังภาษีเพิ่มขึ้นหลายเท่าเป็น 422 พันล้านดอง (620 ล้านบาท) •...
เวียดนามเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 960,000 บัญชี ในช่วง 9M21 มากกว่าจำนวนที่เปิดในช่วง 3 ปีก่อนรวมกัน! ราคาอสังหาฯยังไม่ขึ้นทันทีหลังเปิดเศรษฐกิจผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 – 12 เดือนราคาอสังหาจะปรับขึ้นราคาอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามมีการปรับขึ้นในช่วงระหว่าปี 2016 – 2019และจากปี 2020 จนถึงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้แต่เนื่องจากการระบาดที่รุนแรงของโควิดรอบสี่ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การปรับสูงขึ้นของราคาเป็นไปได้ยาก เวียดนามจะให้ใบอนุญาติคลื่นความถี่ 4G และ 5G ในไตรมาส 4/21 หุ้น SHB: ตลาดหลักทรัพย์สิงค์โปร์เห็นชอบให้ธนาคารออกหุ้นกู้ขายในต่างประเทศได้ เวียดนามมีบัญชีซื้อขายหลัททรัพย์ 960,000 บัญชีเปิดในช่วง 9M21 ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เวียดนามรายงานว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 22 มีนักลงทุนหน้าใหม่มาเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เป็นยอดรวม 960,000 บัญชี มากกว่าจำนวนที่เปิดในช่วง 3 ปีก่อนรวมกัน ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เวียดนามมีจำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์รวม 3.73 ล้านบัญชี ทั้งนี้จำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ในระดับที่ต่ำคือ 4.4% ซึ่งไม่ดึงดูดใจ ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อขายหุ้นกันมากขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลยังตั้งเป้าให้มี 3% ของประชากรเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นภายในสิ้นปีนี้ และจะให้เพิ่มขึ้นเป็น 5% ภายในปี 2025 (vnexpress) เวียดนามจะให้ใบอนุญาติคลื่นความถี่ 4G และ...

MOST POPULAR