.
ในปี 2560 ไทยเบฟเวอเรจกรุ๊ป (ไทยเบฟ) เข้าซื้อหุ้น 54% ใน Saigon Beer - Alcohol - Beverage Corporation หรือ SABECO (HOSE: SAB) ในราคา 4.8 พันล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน Thaibev ถือหุ้นใน SAB มากกว่า 343.6 ล้านหุ้นผ่านบริษัทในเครือ Vietnam Beverage Co., Ltd. และโดยเฉพาะในปี 2565 นี้ Sabeco ได้จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 3 ครั้ง
โดยในวันที่ 7 มกราคม 2565 Sabeco ได้จ่ายเงินปันผลงวดแรกของปี 2564 เป็นเงินสดในอัตรา 20% ซึ่งสอดคล้องกับผู้ถือหุ้น 1 หุ้นที่จะได้รับ 2,000 VND การชำระเงินครั้งนี้ทำให้ Vietnam Beverage ได้รับเงินปันผลมากกว่า 6.87 แสนล้านดอง
ต่อมาวันที่ 3 มีนาคม...
.
VPB: Vietnam Prosperity Joint Stock Commercial Bankแบงค์ใหญ่ขวัญใจรายย่อยโดดเด่นเรื่อง Consumer Finance
.Vietnam Prosperity Joint Stock Commercial Bank หรือ VPBank เป็นธนาคารพาณิชย์ในเวียดนาม ซึ่งโดดเด่นด้าน Consumer Finance โดยมีบริษัทลูกคือ FE credit ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในเวียดนาม
.
VPB โดยรวมทั้งบริษัท มีส่วนแบ่งตลาดที่ 5% เน้นลูกค้ารายย่อย (Retail) และ SME เป็นหลัก นอกจาก FE credit แล้ว VPB ยังมีบริษัทลูกที่ทำ AMC อีกด้วย
.
สัดส่วนรายได้ VPB มาจาก1. การปล่อยกู้ ~80% 2. ค่าธรรมเนียมสุทธิ ~20% โดยรายได้ครึ่งหนึ่งมาจากขายประกัน AIA
.
การปล่อยกู้ของบริษัทแบ่งได้เป็นสองส่วนคือ1. การปล่อยกู้ผ่าน VPB คิดเป็น 80% ของการปล่อยกู้ทั้งหมด โดยมี NIM อยู่ที่ 5% 2. การปล่อยกู้ผ่าน FE...
เจ้าจักรวาล เคมีภัณฑ์ เวียดนาม
.
DGC : DUC GIANG CHEMICALS GROUPก่อตั้งปี 1963
> DGC เป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ฟอสฟอรัสชั้นนำของเวียดนามรวมถึงปุ๋ยและเคมีภัณฑ์อื่นๆซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเกษตรอาหารอิเล็กทรอนิกส์การผลิตและการก่อสร้างทั่วไป> นอกจากสินค้าอุตสาหกรรมแล้ว DGC ยังผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคเช่น ผงซักฟอกสารฟอกขาวน้ำซักผ้าน้ำยาปรับผ้านุ่มและน้ำยาล้างจานเป็นต้น
.
ผลประกอบการ
รายได้รวมปี 2020 = 9,355 ล้านบาทปี 2021 = 14,326 ล้านบาท (เติบโต +53.1% YoY)9M2022 = 16,700 ล้านบาท (เติบโต +86% YoY)
กำไรปี 2020 = 1,360 ล้านบาทปี 2021 = 3,582 ล้านบาท (เติบโต +163.4% YoY)9M2022 = 6,803 ล้านบาท (เติบโต +318% YoY)
งบการเงินMarket cap 30,705 ล้านบาทP/E 3.57 เท่า ROE 74.83%.
(Cr. Vietstock, Stockbiz 28/11/22)
.
—————————
..
VVI Membership คลิ๊กดูรายละเอียดและสมัครได้ที่
https://class.vietnamvi.com
.
SAMSUNG> มูลค่าโครงการ 3 พันล้าน USD> เปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ เพิ่มเติมจากโทรศัพท์มือถือและเครื่องใช้ภายในบ้าน
LG> มูลค่าโครงการ 1 พันล้าน USD> ขยายฐานในตลาด สินค้า แผง OLED ขนาดเล็ก-กลาง
LEGO> มูลค่าโครงการ 1 พันล้าน USD> เปิดโรงงานใหม่ในเวียดนาม แทนการขยายโรงงานเดิมในจีน
FOXCONN> มูลค่าโครงการ 300 ล้าน USD> ขยายฐานการผลิตเดิม จ้างงานเพิ่มอีก 30,000 คน
และ
APPLE> มูลค่าโครงการ 1.1 พันล้าน USD*> จำนวนเงินที่ Dragon Capital คาดว่า ซัพพลายเออร์ของ Apple เช่น BYD, Compal, Luxshare, Goertek, Wistron, Pegatron จะใช้ ในการลงทุนเผื่อผลิต Apple watch, Macbook และ อุปกรณ์อื่นๆ
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Dragon Capital (Nov 2022)
.
_______
.
.
VVI Membership...
สรุปหุ้น KBC แบบรู้ครบ จบในภาพเดียว
.
ผู้พัฒนานิคมฯ ที่พร้อมเติบโตไปกับ FDI เวียดนามแบบรู้ครบ จบในภาพเดียว
KBC: KINHBAC CITY DEVELOPMENTก่อตั้งปี 2002
.
> KBC เป็นหนึ่งในผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม> และยังเป็นผู้พัฒนา ลงทุน และซ่อมแซม โครงสร้างพื้นฐานในเวียดนาม อาทิ การก่อสร้างสวนสาธารณะเชิงอุตสาหกรรม ศูนย์กลางด้านการค้า ทำเหมืองแร่> KBC ได้ประโยชน์ไปกับการเติบโตของ FDI ในเวียดนาม จากบริษัทต่างชาติที่ย้ายฐานการผลิตสินค้าจากจีนมายังเวียดนาม เนื่องจากปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐ รวมถึงค่าแรงงาน และต้นทุนอื่นๆ ที่ถูกกว่า อาทิเช่น Foxxconn และ Goertek ที่เป็น Supplier หลักของ Apple ก็ได้ย้ายมา และยังมีแผนที่จะขยายโรงงานอีก .
> ณ สิ้นปี 2021 KBC มี:พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม (Industrial Park) จำนวน 32,600 ไร่ (หรือ คิดเป็นกว่า 4.22% ของพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งประเทศ)พื้นที่เขตเมืองเพื่อการพัฒนา (Urban Area) จำนวน...
โลกในมุมมองของ Value Investor 26 พฤศจิกายน 2565
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
การตกลงมาของหุ้นเมตาหรือเฟซบุคในช่วงประมาณ 1 ปี เศษ ๆ ที่ผ่านมานั้น เป็นสิ่งที่เตือนให้นักลงทุนตระหนักว่า มูลค่าของหุ้นนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้มหาศาลไม่ว่าหุ้นอาจจะดูว่าดีหรือแข็งแกร่งแค่ไหน ราคาของหุ้นเมตาตกลงมาจากจุดสูงสุดเมื่อต้นเดือนสิงหาคมปีที่แล้วที่ประมาณ 380 ดอลลาร์เหลือเพียง 110 เหรียญ หรือตกลงมาประมาณ 70% และนั่นทำให้มาร์คซักเกอร์เบิร์ก ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ก่อตั้งตกอันดับจากคนที่รวยที่สุดอันดับ 5 ของโลกในปีที่แล้วและเหนือกว่าวอเร็นบัฟเฟตต์ที่อยู่อันดับ 6 กลายเป็นอันดับที่ 27 ของโลก ในขณะที่บัฟเฟตต์ก็ยังอยู่ประมาณ Top 5 หรือ 1 ใน 5 อันดับแรกของโลก ตามที่เขาก็อยู่มาหลายสิบปีแล้ว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หุ้น MORE ที่มีราคาซื้อขายประมาณ 2.9 บาทต่อหุ้นได้ตกลงมาเหลือเพียง 58 สตางค์ภายในเวลาไม่กี่วัน หรือลดลงถึง 80% เมื่อเกิดเรื่องการซื้อขายหุ้นที่ “ผิดปกติ” และกำลังถูกตรวจสอบจากทางการว่าอาจจะผิดกฎหมาย ผลก็คือ ความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้นใหญ่หลายคนหรือหลายครอบครัวหดหายไป “หลายพันล้านบาท” ในชั่วข้ามคืน
มาซาโยชิซันเป็นคนที่ “รวยที่สุดของญี่ปุ่น”...
โลกในมุมมองของ Value Investor 19 พฤศจิกายน 2565
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนมาแล้วที่ผมเริ่มออกจากบ้านไปบรรยาย ทำงาน และพบปะเพื่อนฝูงและร่วมงานสังคมที่ค่อนข้างจะ “จำเป็น” หลังจากที่ต้องอยู่กับบ้านและออกนอกบ้านเฉพาะที่จำเป็นและ/หรือไปเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ที่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนอื่นมานานกว่า 2 ปี
สิ่งที่ผมรู้สึกก็คือ “ความมีชีวิตชีวา” ที่กลับคืนมาหลังจากที่หายไปกว่า 2 ปี ที่ไม่ได้สัมผัสกับตัวตนจริงของคนหรือเพื่อนฝูงที่มามีกิจกรรมร่วมกัน ไม่ใช่เจอกันแต่ในภาพหรือไม่ได้เห็นหน้าตากันเวลาผมพูดหรือเวลาเขาพูดและคนอื่นนั่งฟัง เหตุผลที่คนอยากเจอ “ตัวเป็น ๆ” มากกว่าภาพดิจิทัลหรือเจอกันใน “เมตาเวอร์ส” นั้น คงอยู่ใน “ยีน” ของคนหรือสัตว์ทุกชนิด และนี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ “โลกในเมตาเวอร์ส” ที่เฟซบุคพยายามทำนั้นดูเหมือนจะล้มเหลว “ไม่เป็นท่า” และราคาหุ้นตกลงมาถึง 70% ในเวลาแค่ปีเดียว
นับจากวันนี้ไปผมคิดว่าโลกและประเทศไทยจะ “เปิด” มากขึ้นเรื่อย ๆ และคงไม่กลับไปปิด ๆ เปิด ๆ อย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่โควิด-19 ระบาดรุนแรงและมีคนเจ็บหนักและล้มตายกันมากอีกต่อไปแล้ว โดยเหตุผลที่สำคัญไม่ใช่เพราะการระบาดของโควิดจบลง แต่เป็นเพราะโควิดคล้าย ๆ กับจะกลายเป็นไข้หวัดธรรมดาที่ไม่ทำให้คนติดเจ็บหนักหรือตายได้ง่าย ๆ และดังนั้น คนก็จะเลิกกลัวและกลับมาใช้ชีวิตปกติที่เคยทำตลอดมานับหมื่นปีจนถึงปัจจุบัน
นั่นก็คือ การติดต่อมีความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดแบบ “ตัวเป็น ๆ” ...
โลกในมุมมองของ Value Investor 12 พฤศจิกายน 2565
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่ได้ปรับตัวขึ้นเป็นเรื่องเป็นราว บางช่วงก็ขึ้นบ้าง แต่แล้วก็มักจะปรับตัวลงกลับไปที่เดิมหรือต่ำกว่า เป็นแบบนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่คนเล่นหุ้นก็ไม่ได้หมดความสนใจ ตลาดหุ้นยังคึกคักพอสมควร เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือ มีหุ้นส่วนหนึ่งที่มีการปรับตัวหวือหวาขึ้นสูงมาก บางทีเป็นหลาย ๆ เท่าตัวภายในเวลาไม่นาน—แล้วก็ตกลงมาอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น และบางตัวก็ราคาสูงลิ่วอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม หุ้นที่ราคาสูงลิ่วและ “แพงจัด” คือมีค่า PE สูงกว่าหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันเป็นเท่าตัวหรือมากกว่านั้น หรือบางตัวมีค่า PE “หลุดโลก” คือมีค่า PE สูงเป็น 50-100 เท่า ก็เริ่มทยอยปรับตัวลดลงมาเรื่อย ๆ และเรื่องราวต่าง ๆ ก็เริ่มที่จะจางหายไป
หุ้นทั้งหมดนั้น ผมเรียกว่าเป็น “หุ้นสตอรี่” หรือหุ้นที่มีสตอรี่หรือมีเรื่องราวที่น่าสนใจที่ผู้บริหารหรือนักลงทุนโดยเฉพาะที่เป็นรายใหญ่สร้างหรือผลิตขึ้น เพื่อที่จะบอกว่า หุ้นตัวนี้จะ “โตระเบิด” และกำไรจะเพิ่มมหาศาลปีละหลายสิบหรือเป็นร้อย ๆ เปอร์เซ็นต์ในอนาคตที่ยาวนานและนักเล่นหุ้นโดยเฉพาะรายย่อยต่างก็เชื่อและเข้าไปซื้อหุ้นจนทำให้ราคาขึ้นไปสูงมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ดูเหมือนว่าเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้น แน่นอนว่าบริษัทอาจจะทำโครงการเหล่านั้น แต่ผลที่ได้รับก็คือ รายได้และกำไรที่คาดว่าจะได้ก็ไม่ปรากฏเป็นเรื่องเป็นราว หุ้นจำนวนมากถูกขายทิ้งและราคาดิ่งลงมาต่อเนื่อง ลองมาดูว่ามีหุ้นกลุ่มไหนบ้าง
หุ้นกลุ่มแรกก็คือ หุ้นการเงินหรือหุ้นไฟแนนซ์ที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมใกล้ชิดจากแบ้งค์ชาติ ...
โลกในมุมมองของ Value Investor 6 พฤศจิกายน 2565
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
การเป็น “นักลงทุนแบบ VI” ที่มุ่งมั่นและทุ่มเทของผมในวัยตั้งแต่ 44 ปีมาจนถึงวันนี้ ชีวิตและความคิดของผมแทบทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ผมยังเป็นคนที่มัธยัสถ์ มีความคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ มีความรับผิดชอบและมีวินัยสูง และเป็นคนที่ “ชอบลงทุน” นั่นคือ เสียสละการบริโภคในวันนี้เพื่อสิ่งที่มากกว่าในวันข้างหน้า หรือลำบากวันนี้เพื่อที่จะสบายในวันข้างหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนก็คือ การเปลี่ยนจาก “นักสู้” เป็น “นักเลือก” หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องกว่าก็คือ เป็น “นักเลือก-ก่อนที่จะสู้” และนั่นนำมาสู่ภาคปฏิบัติที่สำคัญมากก็คือ ก่อนที่จะทำอะไร ผมจะ “คิดก่อนทำ” ไม่ใช่ “คิดก่อนว่าจะทำอย่างไร” แต่มักจะเป็น “คิดก่อนว่าจะทำหรือไม่”
เดี๋ยวนี้ผมจะไม่ทำอะไรที่ไม่ได้มีความหมายหรือเป็นประโยชน์อะไรในชีวิตเพียงพอที่จะทำ หรือทำแล้วก็ไม่รู้สึกว่าทำง่ายหรือสนุกที่จะทำ ตัวอย่างง่าย ๆ ก็คือ ให้ไปสอนคอร์สเกี่ยวกับการทำธุรกิจหรือการลงทุนซึ่งจะต้องเตรียมการสอนออกข้อสอบตรวจข้อสอบและให้คะแนนกับนักศึกษาหรือคนที่เข้าอบรมที่ “จำเป็น” ต้องเข้ามาเรียนหรืออยากได้วุฒิ ในกรณีแบบนี้ ในอดีตผมทำมามาก โดยเฉพาะในช่วงที่ยังเป็น “นักสู้” ที่นอกจากทำงานเป็นลูกจ้างประจำในบริษัทเอกชนแล้วก็ยังสอนหนังสือเป็นงานเสริม เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ การจบปริญญาเอกทางการเงินมา ถ้าไม่สอนแล้วจะให้ทำอะไร? แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่ทำแล้ว
จริง ๆ แล้ว ช่วงที่เป็น VI ใหม่ ๆ ...
.
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 กำไรก่อนหักภาษีรวมของธนาคาร 28 แห่งมีมูลค่าถึง 192,500 ล้านดอง เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันในปี 2021
ธนาคารใดบ้างที่มีผลกำไรสูงสุด 10 อันดับแรก?
.
Vietcombank ยังคงเป็น "แชมป์" ของอุตสาหกรรมด้วยกำไรก่อนหักภาษีที่ 24,940 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 29% ในช่วงเวลาเดียวกัน ตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (เพิ่มขึ้น 31% yoy สู่ 13,664 พันล้านดอง)
.
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 ธนาคาร 7 แห่งบันทึกกำไรกว่า 10,000 พันล้านดอง ซึ่งได้แก่
Vietcombank (24,940 พันล้านดอง)
Techcombank (20,800 พันล้านดอง)
VPBank (19,837 พันล้านดอง)
MBBank (18,192 พันล้านดอง)
BIDV ( 17,677 พันล้านดอง)
VietinBank (15,764 พันล้านดอง)
ACB (13,503 พันล้านดอง)
.
ใน 10 อันดับแรกของธนาคารที่ทำกำไรได้มากที่สุด นอกเหนือจาก 7 ธนาคารข้างต้นแล้ว...