ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร โลกในมุมมองของ Value Investor 10 สิงหาคม 62 คนที่ลงทุนในหุ้นปิโตรเคมี  น้ำมัน  และถ่านหิน  รวมถึงหุ้นที่ขายสินค้าที่เป็นโภคภัณฑ์บางอย่างนั้น  ในช่วงนี้คง “เจ็บตัว” กันไม่น้อย  เพราะราคาหุ้นตกลงมาหนัก  หุ้นที่ตกลงมามาก ๆ  หลายตัวนั้น  เป็นหุ้นขนาดใหญ่ถึงใหญ่มาก  เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี  มีผลการดำเนินงานที่ดีมาหลาย ๆ  ปี  บางแห่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นหน่วยงานรัฐที่มีบรรษัทภิบาลดี  ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ  หุ้นมีราคาถูกมากและมีการจ่ายเงินปันผลที่สูงถึงสูงมากอย่างสม่ำเสมอ  อย่างไรก็ตาม  ตัวเลขผลประกอบการล่าสุดนั้นดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไป  มันลดลงอย่างมาก  อานิสงค์จากราคาสินค้าที่ลดลงและปัจจัยอื่น ๆ  ที่ไม่เอื้ออำนวย  ราคาหุ้นที่เคยปรับตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ  หรือทรงตัวมานาน  ตกลงมาอย่างแรง  คนที่ถือหุ้นที่ “ดีและถูก” และพอใจกับปันผลที่ได้รับ  และ “สบายใจ” กับการลงทุนในหุ้นเหล่านี้แทนที่จะเป็น “หุ้นปั่น” ที่ต้องคอยกังวลตลอดเวลาต่างก็รู้สึกประหลาดใจและตกใจที่พบว่า  “หุ้นดี มั่นคงและราคาถูก”   เหล่านี้  ก็มีความเสี่ยงที่จะตกลงไปได้มากอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้  ประเด็นก็คือ  บางคนอาจจะไม่รู้หรือไม่เข้าใจว่านี่คือหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีวิธีคิดและการประเมินแตกต่างจากหุ้นแบบอื่น  การใช้หลักการวิเคราะห์ “มาตรฐาน” ที่นักวิเคราะห์ใช้กันนั้นมักจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ หุ้นสินค้าโภคภัณฑ์นั้น  โดยธรรมชาติมักจะเป็นหุ้นแนว  “วัฎจักร” ที่ผลประกอบการมักจะขึ้น ๆ  ลง...
โลกในมุมมองของ Value Investor      3 สิงหาคม 62 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร หุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตัวหลัก ๆ ที่ทำคอนโดและบ้านขายนั้น  ต้องถือว่าเป็นหุ้นกลุ่มที่มีราคาถูกที่สุดกลุ่มหนึ่งในตลาดหุ้นไทย  หุ้นหลัก ๆ  ที่เป็นผู้นำและมีผลงานที่ดีเป็นที่ยอมรับของคนซื้อบ้านประมาณซัก 10 ตัวนั้น  มักมีราคาถูกมากจนไม่น่าเชื่อ  ค่า PE ของหุ้นมักจะไม่เกิน 10 เท่า  บางตัวแค่ 6-7 เท่า  ค่า PB ก็มักจะไม่เกิน 1 เท่า  ที่เกินก็ไม่มากเป็นหลาย ๆ  เท่าอย่างในกลุ่มอื่น  ที่สำคัญ  ผลตอบแทนจากปันผลต่อราคาหุ้นหรือ Dividend Yield ก็มักจะสูงมาก  ส่วนใหญ่น่าจะเกิน 5%  ต่อปี  บางตัว 7-8% ก็มี  ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทที่แข็งแรงพอสมควรคือมีหนี้ไม่เกิน 1 เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้น  และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ  ตัวเลขทั้งหมดนั้นไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นในปีนี้  แต่มันเป็นมาน่าจะไม่ต่ำกว่า 4-5 ปีแล้ว  ทำไมหุ้นจึงถูกมากทั้ง ๆ  ที่ตัวเลขผลประกอบการก็ดูดีมาก  ความสามารถหรือความแข็งแกร่งในการแข่งขันของแต่ละบริษัทก็ดู  “ดี” แต่ละบริษัทก็มี...
ผ่านไปแล้วนะคะกับทริปสัมมนา VVInvestor day 28-30 กรกฏาคม 2562Tour. Learn. Earn more in Ho Chi minh City 2019VVI in association with Viet Capital Securities ----ขอบคุณ: -----พี่เอก ธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ SVPและผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขาในประเทศเวียดนาม สำหรับการพูดคุย Update ภาพรวมตลาดหุ้นและเศรษฐกิจประเทศเวียดนาม - พี่แจ๊ค วิศวกร ปันยารชุน สำหรับการแชร์แนวคิดและข้อมูลเด็ดๆ ในตลาดหุ้นเวียดนามปี 2019 - คุณสตางค์ วิวัฒน์ เจริญวัฒน์ และ คุณเจ๊กกี้ สุธน สิงหสิทธางกูร สำหรับการแชร์ประสบการณ์และวิธีการเลือกหุ้นลงทุนหุ้นเวียดนามที่ผ่านมา และขอบคุณผู้สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ บริษัท ShareInvestor: SI.com(Thailand) Co., Ltd. --------------Special Thanks:-------------- - Viet Capital Securities (VCSC) for helping us organized our event. - Mr. Loc...
โลกในมุมมองของ Value Investor       28 กรกฎาคม 62 ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร The Postman Always Ring Twice ​ปรากฏการณ์ที่หุ้น  “นางฟ้า”  ขนาดเล็ก-กลาง ที่เคยร้อนแรงราคาพุ่งขึ้นเป็นหลาย ๆ  เท่าตัวในเวลาไม่นานแต่แล้วก็ตกลงมาอย่างหนักเกินกว่า 50% หรือบางตัวกลับมาที่ราคาเดิมและกลายเป็น  “นางฟ้าตกสวรรค์”  จนคนหลายคน “เลิกเล่น” หรือ “สาปส่ง” ไปเลยทำให้หุ้นเหงาไปพักใหญ่  แต่แล้วในช่วงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์มานี้ หุ้นหลายตัวในกลุ่มก็เริ่มกลับมาคึกคักใหม่  ราคาปรับตัวขึ้นอย่างแรงพร้อมกับปริมาณซื้อขายที่คึกคัก  ดูเหมือนว่าคนที่เคยเล่นทั้ง “ขาเล็ก” และ “ขาใหญ่” กำลังกลับมา  สตอรี่และการเติบโตของบริษัทที่เคยขายได้ในช่วงก่อนหน้านั้นที่ถูกทำลายโดยผลประกอบการที่น่าผิดหวังกำลังถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่  ประกอบกับผลประกอบการที่น่าจะ “ดีขึ้น” ในไตรมาศล่าสุด  น่าจะเป็นแรงกระตุ้นที่อาจจะทำให้หุ้นกลับมาเป็น  “นางฟ้า” ใหม่  ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้ Background ของตลาดหุ้นที่ดีขึ้น  ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น  และนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้าตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งที่รอคอยกันมานาน ​นั่นทำให้ผมนึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เคยดูตอนไปเรียนที่อเมริกาใหม่ ๆ เมื่อเกือบ 40 ปีมาแล้วชื่อ  The Postman Always Ring Twice ซึ่งฉายผ่านช่อง HBO หรือ Cinemax ผมก็จำไม่ได้  หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีฉากเซ็ก(แบบซาดิสม์)และความรุนแรงที่ในยุคนั้นดูเหมือนว่าจะต้องดูได้เฉพาะผู้ใหญ่และดูกันตอนดึกผ่านช่องทีวีที่ต้องจ่ายเงินรายเดือน  เนื้อเรื่องก็จะเป็นเรื่องชู้สาวระหว่างลูกจ้างหนุ่มที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้ากับภรรยาสาวสวยของเจ้าของร้านอาหารที่เป็นชายแก่  ซึ่งในที่สุดก็ร่วมกันวางแผนฆ่าสามีเพื่อหวังอยู่กินกันและเป็นเจ้าของร้านอาหารเอง  รอบแรกของการพยายามฆ่าโดยการทุบด้วยลูกเหล็กห่อผ้านั้นเกิดความผิดพลาดแต่ในครั้งที่สองก็ทำสำเร็จโดยแสร้งว่าเป็นอุบัติเหตุรถยนต์  และแม้ว่าตำรวจจะสงสัยแต่ก็ไม่มีหลักฐานพอ  เมื่อทั้งสองอยู่กินกันแล้ว  วันหนึ่งก็เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ทำให้ฝ่ายหญิงถึงแก่ความตาย  คราวนี้ตำรวจสามารถ “พิสูจน์” ให้ศาลยอมรับว่าฝ่ายชายเป็นคนฆ่าทั้ง ๆ  ที่ไม่จริง  และเขาถูกตัดสินประหารชีวิต  ถ้าคิดแบบคนไทย  นี่ก็เหมือนกับว่าเป็นการ “ใช้กรรม” ที่ไปฆ่าสามีของเขา  เพราะถึงจะรอดจากคราวก่อน  ในที่สุดก็ต้องชดใช้กรรมที่ไม่ได้ก่อในคราวนี้ ​ในหนังไม่มีบทของบุรุษไปรษณีย์ตามชื่อเรื่อง  แต่เป็นเรื่องที่ว่าสิ่งต่าง ๆ  นั้น  ถ้ามันจะเกิดบางทีก็ “หนีไม่พ้น”  สามีที่เป็นเจ้าของร้านนั้นโดนวางแผนฆ่าครั้งแรกก็ไม่ตาย  แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะมันต้องมี  “ครั้งที่สอง”  ตัวเอกที่ฆ่าคนแล้วรอด  สุดท้ายก็ต้องถูกประหารในครั้งที่สองแม้ว่าจะไม่ผิดในคดีนี้  นี่เป็นที่มาของชื่อหนังที่มีความหมายว่าบุรุษไปรษณีย์เวลามาส่งเมล์ลงทะเบียนนั้น  เขาจะต้องกดออดหรือสั่นกระดิ่งอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่สองเพื่อให้แน่ใจว่ายังไงเจ้าของบ้านก็จะต้องได้ยินและออกมารับเมล์เสมอ  นี่ก็คล้ายกับการเปรียบเปรยว่า  บุรุษไปรษณีย์ก็เหมือนพระเจ้าหรือโชคชะตาที่จะมาตัดสินกรรมของคนเสมอ   ​ผมเองคงประทับใจกับเนื้อเรื่องและโดยเฉพาะชื่อหนังเรื่องนี้พอสมควร  ประสบการณ์ในชีวิตก็มักจะพบกับสิ่งที่จะต้องเกิดซ้ำสองหรืออาจจะมากกว่านั้นโดยเฉพาะในเรื่องของหุ้นและการลงทุน  เหตุผลน่าจะเป็นเรื่องของจิตวิทยาของคนที่มักจะจำในสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเร็ว ๆ  นี้...
โลกในมุมมองของ Value Investor 21 กรกฎาคม 62 ก่อนที่จะเข้าไปวิเคราะห์หุ้นที่จะลงทุน สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะทำก่อนเพื่อเป็นการประหยัดเวลาและไม่ทำให้ “หลงผิด” ไปกับหุ้นก็คือ การตรวจสอบว่าบริษัทและตัวหุ้นนั้นมีอะไรที่ “ผิดปกติ” หรือไม่? โดยที่ความผิดปกตินั้น อาจจะเป็นได้ทั้งการที่บริษัททำได้ดีกว่าปกติหรือแย่กว่าปกติเมื่อเปรียบเทียบกับสถานะของบริษัทหรือ “ธรรมชาติ” ของอุตสาหกรรม หรือไม่ก็เป็นการผิดปกติในด้านของราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นที่อาจจะมากเกินกว่าขนาดของ Market Cap. หรือเป็นเรื่องของมูลค่าของหุ้นที่อาจจะใหญ่โตจน “เป็นไปไม่ได้” เป็นต้น และถ้าจะว่าไปแล้ว อะไรก็ตามที่ผมรู้สึกว่า “ผิดปกติ” ผมก็จะเก็บความคิดนั้นไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนตัวเองว่า เราอาจจะมีโอกาสวิเคราะห์หุ้นตัวนั้นผิดได้ เราจะต้องระมัดระวังมากขึ้น การ “จับผิด” ตัวหุ้นที่เห็นได้ง่ายและชัดเจนที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดวันต่อวัน หุ้นตัวไหนที่มีปริมาณการซื้อขาย “มากกว่าปกติมาก” นั้นน่าจะวัดจากปริมาณการซื้อขายหุ้นเทียบกับ Market Cap. ของหุ้นของบริษัท โดยทั่วไป...
จัดอันดับม.ปลายดีที่สุดในโลก เวียดนาม แซงขึ้น ส่วนไทยอันดับร่วง OECD ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลจากรายงาน Universal Basic Skills What Countries Stand To Gain ซึ่งได้มีการวิเคราะห์และจัดอันดับระบบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายใน 76 ประเทศทั่วโลก และพบว่ามี 20 ประเทศอันดับแรก ที่สามารถจัดระบบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายดีที่สุดในโลก ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ อันดับ 1 ประเทศสิงคโปร์ อันดับ 2 เกาะฮ่องกง อันดับ 3 ประเทศเกาหลี อันดับ 4 ประเทศญี่ปุ่น อันดับ 5 ประเทศไต้หวัน อันดับ 6 ประเทศฟินแลนด์ อันดับ 7 ประเทศเอสโตเนีย อันดับ 8 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 9 ประเทศเนเธอร์แลนด์ อันดับ 10 ประเทศแคนาดา อันดับ 11 ประเทศโปแลนด์ อันดับ 12 ประเทศเวียดนาม ***** อันดับ 13 ประเทศเยอรมนี อันดับ 14 ประเทศออสเตรเลีย อันดับ 15 ประเทศไอร์แลนด์ อันดับ 16 ประเทศเบลเยียม อันดับ 17 ประเทศนิวซีแลนด์ อันดับ 18 ประเทศสโลวีเนีย อันดับ 19...
++ Final Call- 5 วันสุดท้ายก่อนปิดรับ ++ ทริปสัมมนา Tour-Learn-Earn more in Ho Chi Minh City จัดโดย VVI GROUP ร่วมกับ Viet Capital Securities (VCSC) ในวันที่ 28-30 กรกฏาคม 2562 Update สาระความรู้หุ้นเวียดนาม ศึกษาธุรกิจ สภาพการแข่งขันหุ้นเวียดนามไปพร้อมกับการท่องเที่ยวเมืองโฮจิมินห์ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจของเวียดนาม สนใจคลิ๊ก:http:// https://forms.gle/BV3Ww6vJh7Kh3bDc9
หุ้นโรงไฟฟ้า ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร โลกในมุมมองของ Value Investor       ​ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้  หุ้นที่มีจำนวนมากขึ้นและมี Market Cap. ขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ไทยก็คือหุ้นที่ผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าและผู้ใช้ทั้งในและต่างประเทศ  ผมจะเรียกง่าย ๆ  ว่า “หุ้นโรงไฟฟ้า” ซึ่งในระยะหลัง ๆ  นี้ก็กลายเป็นกลุ่มหุ้นที่มีความโดดเด่นมากขึ้นเรื่อย ๆ   เหตุผลก็คงเป็นเพราะว่าราคาของหุ้นกลุ่มนี้มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วจนแทบจะกลายเป็น “หุ้นนางฟ้า” ทั้ง ๆ  ที่ก่อนหน้านี้ภาพของหุ้นโรงไฟฟ้าก็คือเป็นหุ้น  “Defensive” ที่มีผลการดำเนินงานสม่ำเสมอไม่ผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจหรือตลาดหุ้นมากนัก  เช่นเดียวกับราคาหุ้นที่มักจะไม่ค่อยปรับตัวไปไหนไกล  ไม่เหมาะกับนักเก็งกำไรที่ต้องการทำเงินอย่างรวดเร็ว  คนที่ลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้ามักคาดหวังที่จะได้ผลตอบแทนจากปันผลพอ ๆ  กับหรือมากกว่ากำไรจากราคาหุ้น  ซึ่งโดยทั่วไปก็มักจะได้ผลตอบแทนรวมไม่เกิน 10-20% ต่อปี  อย่างไรก็ตาม  ช่วงนี้หุ้นโรงไฟฟ้าเปลี่ยนไป  ดูเหมือนว่ามันกำลังทำตัวเหมือน “Super Stock” ที่ทำให้เจ้าของบางคนกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับต้น ๆ  ของเมืองไทย  มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น ​ ข้อแรกก็คือ  บริษัทที่ผลิตไฟฟ้าขายนั้น  เริ่มที่จะเข้าไปผลิตไฟ้ฟ้าจากพลังงานทดแทนที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานแสงแดด...

MOST POPULAR