"Bamboo Airways" บินเที่ยวแรกแล้ววันนี้
"Bamboo Airways" สายการบินน้องใหม่สัญชาติเวียดนาม เสร็จสิ้นเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในวันนี้ ที่บินจาก โฮจิมินห์ซิตี้ มายัง ฮานอย
"Bamboo Airways"กลายเป็นสายการบินลำดับที่ 5 ของเวียดนามหลังจาก
Vietnam Airlines,
Jetstar Pacific Airlines,
Vietjet Aviation
Vietnam Air Services Co.
"Bamboo Airways"
ลงนามข้อตกลง ที่จะจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 20 ลำ...
บทเรียนการลงทุนจากปี 2561
ดร. นิเวศน์เหมวชิรวรากร
ในสงครามนั้นมีคำพูดสำคัญข้อหนึ่งก็คือ “สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร” เรื่องหุ้นเองนั้นบ่อยครั้งก็มีการเปรียบเทียบกับสงครามเนื่องจากการลงทุนนั้นเป็น “กิจกรรมแห่งการต่อสู้” ที่รุนแรงคล้ายๆกับสงครามดังนั้นในแวดวงหุ้นเองคนก็มักจะพูดว่าตราบใดที่คุณยังลงทุนอยู่เช่นยังถือพอร์ตลงทุนหุ้นจำนวนมากไว้หรือถือหุ้นบางตัวไว้ก็จงอย่าคิดว่าคุณประสบความสำเร็จทำเงินมากมายแล้วเหตุผลก็เพราะว่าพอร์ตและ/หรือหุ้นที่มีกำไรมหาศาลนั้นอาจจะตกลงมาอย่างแรงจนกำไรหดหายหรือกลายเป็นขาดทุนได้ดังนั้นจงอย่าชะล่าใจและเปิดตัวเองให้อยู่ในความเสี่ยงที่สูงกว่าที่ควรจะเป็นการลงทุนในหุ้นนั้นเราควรที่จะ “ถ่อมตน” อยู่เสมอตราบที่เรายังคงลงทุนอยู่และนี่ก็คือบทเรียนแรกที่ผมคิดว่าเราน่าจะได้จากการลงทุนในช่วงปี 2561 ที่ VI จำนวนมากรวมถึง “เซียนหุ้น” ขาดทุนหรือมูลค่าพอร์ตลดลงมามากแทบจะเป็น “หายนะ”
ในการลงทุนนั้นผมคิดว่ามันเป็นกิจกรรมระยะยาวหรือแม้แต่ตลอดชีวิตแม้แต่คนที่ “เล่นสั้น” ซื้อขายหุ้นรายวันแต่ถ้าเขาก็ทำแบบนั้นเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานหรือ “ตลอดชีวิต” มันก็คือเกมระยะยาวเช่นเดียวกันเหนือสิ่งอื่นใดก็คือหากเราเป็นคนที่มีเงินเหลือเก็บจากการทำงานใช้แรงงานเงินที่เหลือเก็บนั้นโดยนิยามก็คือเงิน “ลงทุน” เพราะคงไม่มีใครเก็บเป็นเงินสดที่เป็นธนบัตรมันจะต้องถูกนำไปฝากธนาคารหรือซื้อตราสารทางการเงินหรือนำไปซื้อทรัพย์สินเพื่อการลงทุนซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ดังนั้นโดยนิยามแล้วทุกคนที่มีเงินเหลือเก็บก็เป็นคนที่ต้องลงทุนหรือเป็นนักลงทุนและเป็นนักลงทุนระยะยาวตลอดชีวิตผลตอบแทนที่เราได้รับจากการลงทุนนั้นในบางช่วงก็ดีเลิศหรือดีบางช่วงก็แย่หรือแย่มากถ้า“บังเอิญ” ว่าเราทำผลตอบแทนได้ดีเยี่ยมมายาวอาจจะเป็น 10 ปีก็จงอย่าคิดว่าเรา “เก่งมาก” หรือเป็น “เซียน” แม้ว่าจะมีคนอื่นยกย่องชื่นชมเราเพราะเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเช่นในปี 2561 เราอาจจะ “แพ้” กำไรที่เคยทำมาได้หายหมดหรือลดลงมากจนทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นนั้นไม่ได้สูงกว่าปกติเท่าไรนักและนี่ก็คือสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นตลอดเวลาและเกิดขึ้นกับ “เซียน” ระดับโลกด้วย
ปี 2561 นั้นผมคิดว่ามันเป็นปีที่ “หมดรอบ” ในหลายๆเรื่องความหมายก็คือสิ่งต่างๆที่มักเคลื่อนไหวเป็นวัฏจักรดี-ร้ายนั้นหมุนมา “ครบรอบ” เช่นแรงเก็งกำไรในหุ้นแบบต่างๆที่ทำให้หุ้นขึ้นไปแรงมากเป็นเวลาหลายปีพอถึงปี 2561 มันก็ถึงจุดสุดยอดและก็เริ่มปรับตัวลงแรงและดูจะไม่สามารถดีดตัวขึ้นในระยะสั้นอย่างที่เคยเป็นอีกดังนั้นผมคิดว่ามันน่าจะ “จบรอบ” หรือ “อวสาน” และต้องรอเวลาอีกนานพอสมควรกว่าที่จะกลับมาเป็นขาขึ้นรอบใหม่และการที่มันจบรอบหรือ “สงครามสงบ” แม้ว่ามันจะเป็นเรื่อง “ชั่วคราว” นี้เองผมจึงคิดว่าเราน่าจะมาทบทวนดูว่าเราได้รับบทเรียนอะไรบ้าง
จากประสบการณ์ของผมเองนั้นผลงานการลงทุนที่ดีนั้นมักจะเกิดขึ้นเพราะหุ้นบางตัวที่มีขนาดใหญ่สามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นต่อเนื่องยาวนานซึ่งนั่นช่วยทำให้ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตเติบโตหรือต้านทานภาวะเลวร้ายของตลาดได้ถ้าจะพูดภาษาสงครามหน่อยก็อาจจะบอกว่าเรามี “เรือธง” ที่ยิ่งใหญ่ที่คอยค้ำจุนหรือปกป้องน่านน้ำหรือเขตสงครามที่ทำให้กองทัพประสบความสำเร็จและยืนหยัดอยู่ได้เรือธงนั้นเองก็ “ถูกถล่ม” เช่นเดียวกันแต่มันไม่จมและมันพร้อมที่จะกลับมาสู้รบอย่างห้าวหาญต่อไปอย่างไรก็ตามมีโอกาสเสมอที่มันอาจจะถูกถล่มจนจมลงแบบเดียวกับที่เรือบิสมาร์กที่ยิ่งใหญ่ของเยอรมันถูกรุมล่าจนจมลงมาแล้วในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
บทเรียนที่ว่าเราต้องมีเรือธงหรือหุ้นที่ยิ่งใหญ่หรือหุ้นที่ในช่วงเวลายาวนานระดับหนึ่งสร้างผลงานที่น่าประทับใจจนทำให้ผลงานโดยรวมของเราดีต่อเนื่องยาวนานนี้ผมคิดว่ามันเป็นบทเรียนที่ปีเตอร์ลินช์พูดไว้ในหนังสือเรื่อง One Up On Wall Street ที่เขาเล่าว่าการเติบโตหรือผลตอบแทนของหุ้นจำนวนมากหรือส่วนใหญ่ของเขานั้นก็ไม่ได้สูงผิดปกติอะไรมัน“ธรรมดา” มากเหตุผลก็อาจจะเป็นว่าเขาถือหุ้นเป็นพันตัวซึ่งมันยากมากที่จะมีผลงานดีทุกตัวแต่หุ้นที่ทำให้พอร์ตเขาดูดีมากก็คือหุ้นบางตัวที่เขาถือไว้จำนวนมากตั้งแต่ราคายังต่ำและบริษัทที่อาจจะเพิ่ง “Turnaround” หรือเติบโตนั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆทุกปีในอัตราที่สูงและกลายเป็น “หุ้น 10 เด้ง” และนี่คือหุ้นที่เขาถือยาวนานติดต่อกันหลายปีผลก็คือผลตอบแทนระยะยาวที่ดีมากของเขาส่วนสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนในหุ้นแบบนี้
บทเรียนสำคัญต่อมาก็คือการ “หลีกเลี่ยงหายนะ” จากหุ้นที่เราลงทุนนี่ก็คือจะต้องประเมินความเสี่ยงของหุ้นทุกตัวว่ามันเป็นอย่างไรความเสี่ยงสูงแค่ไหนและต้องเป็นความเสี่ยงทุกด้านรวมถึงความเสี่ยงที่เราใช้ Leverage หรือการกู้ยืมเงินมาลงทุนหรือการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีการเพิ่มอัตราความเสี่ยงขึ้นไปสูงมากเช่นการใช้บล็อกเทรดเป็นต้นและนอกจากความเสี่ยงของตัวกิจการและตัวหลักทรัพย์เองแล้วเราก็ยังต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิด Fraud หรือการโกงและการหลอกลวงในเรื่องต่างๆรวมถึงระบบบัญชีของบริษัทโดยเฉพาะเวลาที่เราดูแล้วมัน “Too good to be true” หรือมันดูดีจนไม่น่าเป็นไปได้ในช่วงปี 2561 และก่อนหน้านั้น 2-3 ปีดูเหมือนว่าเราจะพบหุ้นประเภทนี้ค่อนข้างมาก
บทเรียนอีกเรื่องหนึ่งที่ควรจะจดจำก็คือหุ้นที่มี “คนเชียร์กันอื้ออึง” นั้นก็เป็นไปตามที่บัฟเฟตต์เคยพูดไว้ว่าเรามักจะต้องจ่ายเงินซื้อแพงเกินไปและทำให้เรา “เสียเงิน” ช่วงก่อนหน้านี้เราได้เห็นว่ามีหุ้นขนาดกลางและเล็กจำนวนไม่น้อยที่ถูกเชียร์กันอย่างกว้างขวางว่าจะเติบโตยิ่งใหญ่เหมือนอย่างหุ้นที่ยิ่งใหญ่ในต่างประเทศโดยนักลงทุนนักวิเคราะห์ผู้บริหารบริษัทและสื่อต่างๆซึ่งทำให้ราคาหุ้นถูกไล่ขึ้นไปสูงมากแต่แล้วเมื่อตัวเลขผลประกอบการที่ทยอยออกมาไม่รองรับราคาหุ้นก็ปรับลดลงมาหนักมากซึ่งทำให้คนที่ตื่นเต้นกับเสียงเชียร์และเข้ามาซื้อหุ้นขาดทุนจำนวนมาก
อีกบทเรียนหนึ่งที่ปี 2561 ตอกย้ำก็คือการคาดการณ์ภาวะตลาดหุ้นนั้นเป็นเรื่องที่มีประโยชน์น้อยในการลงทุนส่วนใหญ่แล้วโอกาสที่จะถูกหรือผิดนั้นเท่าๆกันและบ่อยครั้งถึงคาดถูกก็ไม่มีประโยชน์เพราะเราเป็นนักลงทุนที่เลือกลงทุนเองไม่ใช่คนที่ซื้อกองทุนรวมอิงดัชนีปี 2561 นั้นคนส่วนใหญ่น่าจะคาดในช่วงต้นปีว่าจะเป็นปีที่ดีเพราะดัชนีหุ้นก็เพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตามเมื่อหมดปีผลปรากฏว่าดัชนีก็ตกลงมา “แรง” คือประมาณ 11% แต่ถ้ามองจากประวัติศาสตร์การตกแค่นี้ก็ถือว่า “ธรรมดา” เป็นแค่ Correction หรือการ “ปรับตัว” ของตลาดหุ้นอย่างไรก็ตามถ้ามองในภาพเล็กลงมาและในสายตาของนักลงทุนส่วนบุคคลจำนวนมากแล้วปี 2561 น่าจะถือว่าเป็นปี “วิกฤติ”...
เทียบ Top 10 สินค้าส่งออก
ไทย Vs. เวียดนาม
ไทยขายรถแพ้เวียดนามขายมือถือ
บ.ญี่ปุ่นมองเวียดนามน่าลงทุนที่สุดในเอเชีย
ผลสำรวจของเอ็นเอ็นเอเผย บริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจการในเอเชียมองว่า เวียดนาม เป็นจุดหมายด้านการลงทุนที่น่าดึงดูดใจที่สุด เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง รวมถึงสถานะอันแข็งแกร่งในฐานะศูนย์กลางการผลิตและตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่
ผลการเลือกประเทศน่าลงทุนของผู้ตอบแบบสอบถาม ดังนี้
อันดับ 1 : เวียดนาม 35.7%
อันดับ 2 : อินเดีย 17.8%
อันดับ 3 : จีน 12.6%
อันดับ 4 : ไทย 7.3%
อันดับ 5...
BLS : เหล่ากูรูคาด หุ้นเวียดนามอาจโผบิน 18% ปีนี้!
Bloomberg ได้สำรวจมุมมอง นวค. โดยคาดว่าดัชนี VN ของเวียดนามจะ +18% ไปปิดที่ 1049 สิ้นปีนี้ (ณ ปัจจุบัน 898)
และคาดการณ์อีกว่าดัชนี VN อาจ double ได้ใน 3-5 ปีข้างหน้า...
9 เรื่องเด่น ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ปี 2018
ช่วงนี้ยังอยู่ในบรรยากาศของปีใหม่ 2019
แต่เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่าปีที่แล้วเรากับเวียดนามมีกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์อะไรร่วมกันบ้าง ว่าแล้วเราไปทบทวนกันดีกว่าค่ะ
...Continue Reading
VOVWORLD.VN
จุดเด่นที่น่าสนใจของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยปี 2018
(VOVWORLD) - ท่ามกลางบรรยากาศที่ชื่นมื่นของปีใหม่ 2019 ทางผู้จัดทำรายการขอทบทวนกิจกรรมที่น่าใจของความสัมพันธ์เวี.....
กลยุทธ์การลงทุนหุ้นเวียดนาม 2019
2018 นับเป็นอีกสุดยอดปีแห่งความผันผวนของตลาดหุ้นเวียดนาม
แล้วเราจะใช้กลยุทธ์ไหนในการลงทุนหุ้นเวียดนามปี 2019?
รับฟังมุมมอง และสำรวจเทรนด์การลงทุนปีนี้กับ Anirban Lahiri, Managing Director - VNDIRECT
วันนี้ เวลา 15.00-16.00 ได้ที่ Facebook Live
www.facebook.com/investVN
---
VIETNAM INVESTMENT STRATEGY 2019
Livestream Session
Join Anirban Lahiri, Managing Director...
โลกในมุมมองของ Value Investor 5 มกราคม 2562
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
อาชีพน่าเบื่อกับ VI
ทุกสิ้นปีหรือต้นปีใหม่ของทุกปีผมจะต้อง “ทบทวน” ผลงานและกิจกรรมทางการลงทุนของผมว่าเป็นอย่างไร เหตุผลนั้น นอกจากจะต้องทำบันทึกเพื่อเอาไว้เขียนหนังสือแล้ว ยังเป็นการดูว่าเราได้ทำอะไรไปบ้างและมันถูกต้องหรือผิดพลาดอย่างไรเพื่อเก็บไว้เป็น “บทเรียน” สำหรับอนาคต
ปี 2561 นั้นน่าจะเป็นปีแรกในช่วงเวลา 22 ปี ที่ผมลงทุนเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ของเงินเก็บทั้งหมดในฐานะของ “VI” ที่ผม “ไม่ได้ทำอะไรเลย” นั่นก็คือ ผมไม่ได้ซื้อหรือขายหุ้นแม้แต่ตัวเดียว ผมรู้สึกว่าไม่มีหุ้นที่น่าสนใจพอที่จะซื้อเพื่อถือระยะยาวแบบ VI เพราะมันไม่มี Margin of Safety หรือส่วนต่างเพื่อความปลอดภัยเพียงพอ หุ้นที่ดีเป็นซุปเปอร์สต็อกก็มักจะมีราคาแพงค่า PE สูงตั้งแต่ 30 เท่าขึ้นไปซึ่งผมคิดว่าบางตัวราคาก็อาจจะยังพอยอมรับได้ว่าสมเหตุผล แต่ในสภาวะของเศรษฐกิจสังคมการเมืองของไทยมันก็อาจจะยังมีความเสี่ยง โอกาสขาดทุนในระยะยาวก็เป็นไปได้ไม่ต้องพูดถึงระยะสั้นที่อาจจะขาดทุนได้ง่าย ๆ ...
โอกาสลงทุนระยะยาว?
จากการที่หุ้นเวียดนามปรับตัวลดลง
- จากความกังวลในเรื่องสงครามการค้า
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
อย่างไรก็ดี หากประเมินภาพเศรษฐกิจของเวียดนามแล้ว จะเห็นว่ายังมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเป็นโอกาสสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาว มีปัจจัยสนับสนุนจาก
1. เศรษฐกิจปี 2561 โตสูงสุดในรอบ 11 ปี ที่ 7.08% (รัฐบาลคาดเพียง 6.7%)
2. เวียดนามได้เข้าร่วม CPTPP ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ใหญ่สุดอันดับ 3 ของโลก...
บินตรงอีกแล้ว!
ช่วงนี้ธุรกิจการบินเวียดนามคึกคัก เปิดบินตรงไทย-เวียดนาม เป็นว่าเล่นเลยนะคะ
ล่าสุดสายการบินบางกอกแอร์เวย์สได้เปิดเส้นทางบินใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ-คัมรัน
โดยเป็นเส้นทางการบินเชื่อมโยงไทยกับเวียดนามลำดับที่ ๔ ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส หลังจากที่สายการบินประสบความสำเร็จในการให้บริการเส้นทางบินกรุงเทพฯ-นครดานัง กรุงเทพฯ-เกาะฟูก๊วกและกรุงฮานอย-จังหวัดเชียงใหม่
“ไฮไลท์ด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของคัมรัน คือตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองญาจาง (Nha Trang) หรือ นาตรัง ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม มีความสวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็นริเวียร่าแห่งทะเลจีนใต้ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่หลากหลาย และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวยุโรป”
ส่วนตัวแอดมินว่าทะเลไทยสวยกว่า ตอนแอดไป ญาจาง (Nha Trang) คลื่นแรงมากค่ะ
ตอนนั้นเพื่อนเวียดนามบอกเค้าอยากพัฒนาให้ญาจางเหมือนพัทยาเมืองไทย ถ้าพูดถึงทะเลจริงๆ แอดชอบเมืองดานังมากค่ะ ชายหาดยาว...






















