หุ้นของธนาคารเวียดนามที่อยู่บนอันดับเชิงบวก (overweight)ของ JP Morgan มี Vietcombank (HoSE:VCB), Techcombank (HoSE:TCB), ACB(HNX:ACB) และในผลประเมินระดับกลาง(neutral) คือ VP Bank(HoSE:VPB) ได้รับการคาดการณ์การเติบโตที่ 14-68% ในอีก12 เดือนข้างหน้า 

เมื่อไม่นานมานี้ Asia-Pacific Securities Research Department ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของ JP Morgan ได้เปิดเผยรายงานแรกที่เป็นความคิดเห็นเชิงบวก เกี่ยวกับภาคส่วนการธนาคารของเวียดนาม โดยเฉพาะที่ยักษ์ใหญ่ด้านการเงินกล่าวว่า ธนาคารของเวียดนามกำลังกลายเป็นหนึ่งตัวอย่างเล็กๆที่รวมทั้งการเติบโตแบบ high profit และ stable profit ในระยะยาวไว้ด้วยกัน จากมุมมองของ JP Morgan สิ่งเหล่านี้พร้อมกับวงจรเครดิตที่ดี จะเป็นปัจจัยที่จะนำมาซึ่งผลกำไรที่สำคัญให้กับการธนาคารของเวียดนามตลอดทั้งปี
หุ้นของธนาคารเวียดนามที่อยู่บนอันดับเชิงบวก (overweight)ของ JP Morgan มี Vietcombank (HoSE:VCB), Techcombank (HoSE:TCB), ACB(HNX:ACB) และในผลประเมินระดับกลาง(neutral) คือ VP Bank(HoSE:VPB) ได้รับการคาดการณ์การเติบโตที่ 14-68% ในอีก12 เดือนข้างหน้า
สถาบันการเงินสหรัฐฯประมาณการณ์ว่าธนาคารต่างๆที่อยู่ในข่ายการวิจัยจะบันทึก ROE 15-21% ในช่วง 2 ปี การควบคุมสินเชื่อ การโตขึ้นสองเท่า(CAGR) ด้วย16%ในอีกห้าปีข้างหน้า รวมกับการเติบโตของ nominal GDP 9% จะเป็นแรงขับเคลื่อนของธนาคารต่างๆ และยังรักษาอัตราส่วน NIM ที่เหมาะสม(3.58% ยกเว้น VPB) แม้ว่าความต้องการฝากเงินจะลดลง(22%) ความสมดุลของการชำระเงิน(2.5% ของ GDP)นั้นเป็นสิ่งสำคัญของสภาพคล่องและการเติบโตของระบบ โดยเฉพาะในบริบทของ 94%ของสินเชื่อคงค้างต่อการระดมทุน (LDR)
การคาดการณ์อัตรา nominal GDP เติบโตสูงและบัญชีเดินสะพัดเกินดุลของเศรษฐกิจ เป็นใจให้การคาดการณ์การเติบโตของรายได้และสินเชื่อในเวียดนามมีน้ำหนักมากขึ้น อย่างไรก็ตามสัดส่วนของสินเชื่อคงค้างต่อ GDP โดยประมาณ 104%นับว่าสูง เท่ากับ 2,500 USA ต่อคน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยให้อัตราการเพิ่มขึ้นลดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
การมีปัจจัยวงจรเครดิตที่ดีเป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของระบบการธนาคารเวียดนาม ภาคส่วนนี้เคยมีปัญหาของคุณภาพทรัพย์สินในช่วงปี2011-2012 แต่ก็ได้รับการจัดการที่ดี หัวใจของการแก้ไขปัญหานี้ คือการแนะนำ VAMC ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ขยายระยะการชำระหนี้สูญ 5 ปี นอกจากนี้ธนาคารยังได้ขายหนี้และรายงาน VAMC บอนด์ ซึ่งทำให้รายได้ที่ยั่งยืนเติบโตไปได้
JP Morgan คาดการณ์ CAGR ของหุ้นทั้ง 4 ตัวในข่ายการวิจัย จะอยู่ที่ประมาณ12% ในระยะปี 2019-2021 CAGR สำหรับสินเชื่อ 16% และ NIM จะลดลง 6-13 basis points (ยกเว้น VPB) การขยายสินเชื่อการค้าปลีกจะดึงดูดผลกำไร การขจัดหนี้สูญ VAMC จะนำมาซึ่งกลุ่มเป้าหมายสำหรับการเติบโตของรายได้
Charter capital ของธนาคารเหล่านี้ (ในช่วงของการเคลื่อนย้ายจาก Basel1สู่ Basel2)แม้จะยังต่ำ การสร้างอัตราส่วนกองทุนขั้นต่ำที่เหมาะสม (CAR) ประมาณ12.2% อย่างไรก็ตาม RoE ที่สูง เงินปันผลที่จำกัด (0-17%)และการโตของทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงที่เหมาะสม (13-19%)จะช่วยให้ความต้องการกองทุนหลักของธนาคารได้รับการประกัน
สัดส่วนเครดิตของเศรษฐกิจเวียดนามอยู่ที่ 104%ของการปรับปรุง GDP นับว่าสูงซึ่งอาจจะมาจาก ประสิทธิภาพของการใช้ทุนต่ำในรัฐวิสาหกิจ สินเชื่อรายย่อยเติบโตอย่างรวดเร็วในปีก่อน อย่างไรก็ตามการยกระดับผู้บริโภคที่สูงขึ้น จะจำกัดการเติบโตและนำไปสู่หนี้สูญในที่สุด
JP Morgan ยังบอกถึงความเสี่ยงเมื่อลงทุนกับธนาคารของเวียดนาม เรื่องแรกคือ
การพิจารณาการจัดอันดับที่ตกต่ำลงของ17 ธนาคารของ Moody เนื่องจากการชำระหนี้รัฐที่ล้าช้า ไม่ว่าความตกต่ำใดๆก็สามารถเป็นผลกระทบเชิงลบกับหุ้นได้ เรื่องที่สองคืออัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างชาติ สามารถลดผลกำไรบนสกุลเงินดอลล่าห์สำหรับนักลงทุน เรื่องที่สามคือ เวียดนามคือหนึ่งในประเทศที่อยู่ใน watch list ของกองคลังสหรัฐฯกับการจัดการทางการเงิน และเรื่องที่สี่คือ การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และความสมดุลของการชำระเงิน สามารถนำไปสู่การกระชับสภาพคล่องและการเติบโตของเครดิตของการธนาคารเวียดนามเอง

และ

1 ปีมีครั้งเดียวเท่านั้น! วันรวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนามปี 62
รวมพลรับความรู้-รับศักราชใหม่ กับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และกูรูการลงทุนหุ้นเวียดนามชั้นนำ

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2562
 เวลา 9.00-17.00 น.  โรงแรมเอเชีย (ติดรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี)ค่าสัมมนารวมอาหารว่าง 2 มื้อ และอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ 2,500 บาท

รายละเอียดและใบสมัคร

คลิ๊ก: 

http://bit.ly/32fIaOn