Crossing the Street: วิธีสร้างความสำเร็จในการลงทุนที่เวียดนาม (ตอน 1)

0
2533

ถ้าไทยเป็นแดนแห่งสตรีตฟู้ด อเมริกาเป็นแดนแห่งเสรีภาพ แอดขอยกให้เวียดนามเป็นแดนแห่ง “มอเตอร์ไซต์” ที่ทำให้การข้ามถนนแต่ละครั้งมันทั้งวุ่นวายและเสี่ยงชีวิต

หากเทียบการลงทุนก็คงเหมือนหนังสือที่แอดเพิ่งสั่งซื้อ  “Crossing the Street: How to make a success of investing in Vietnam

เวียดนามเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักลงทุน แต่เช่นเดียวกับตลาดชายขอบอื่นๆ

“โอกาสไม่ได้หมายความว่ามันจะง่าย”

การลงทุนในประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และน่าตื่นเต้นนี้อาจเปรียบได้กับประสบการณ์ในการพยายามข้ามถนนที่เต็มไปด้วยมอเตอร์ไซต์ที่ต้องเผชิญกับความกลัวและใช้ประสบการณ์

Crossing the Street โดย Andy Ho คือคู่มือการลงทุนในเวียดนามที่ตรงไปตรงมาและนำไปปฏิบัติได้

เขียนโดยนักลงทุนที่มีประสบการณ์เกือบสองทศวรรษ ความท้าทายและการก้าวข้ามนำไปสู่รางวัลอย่างปลอดภัย

ปัจจุบัน เวียดนามติดอันดับหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เช่นเดียวกับจีนเมื่อสองทศวรรษก่อน

ประเทศกำลังประสบกับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีประชากรที่ร่ำรวยเพิ่มขึ้นเกือบ 100 ล้านคน เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญในเอเชีย และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้จะมีการระบาดใหญ่ทั่วโลก

นักลงทุนจากทั่วโลกได้รับทราบถึงโอกาสที่มีมากมายในระบบเศรษฐกิจของเวียดนาม

Crossing the Street น่าจะให้ประโยชน์กับพวกเราโดยไม่ต้องถูกรถชน

ผลตอบแทน VOF:LSE (VINACAPITAL) ที่คุณ Andy Ho สีส่วนดูแล 10 ปีนี้ เพิ่มถึง +365.4% ทีเดียว การศึกษาแนวคิดของคนที่ประสบความสำเร็จในเวียดนาม น่าจะเป็นหนึ่งใจ Shortcut ให้เรา

แต่เนื่องจากหนังสือเปิดตัว 22 มิ.ย. นี้ แอดมินเลยแปลบทสัมภาษณ์คุณ Andy Ho เกี่ยวกับหนังสือและการลงทุนในเวียดนาม จาก Youtube: WTFinance (1 มิ.ย.64) มาให้อ่านก่อนค่ะ ดังนี้ค่ะ

อะไรคือแรงจูงใจในการเขียนหนังสือของคุณ?

ผมอยู่ที่เวียดนามมาตั้งแต่ปี 2547 (17 ปี)

ผมมาจากอังกฤษและผมเป็นส่วนหนึ่งของทีมการลงทุนใน Private Equity และหุ้น

ปี 2550 ผมมาที่เมืองหลวงเวียดนาม เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุน และตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้ทำสิ่งต่างๆ มากมายการลงทุน ซึ่งผู้ถือหุ้นของเรา ลูกค้าของเราอยู่ในอังกฤษ จักร ยุโรป ญี่ปุ่น และพวกเขามักจะอยากรู้อยากเห็นสิ่งที่เราไปลงทุนในเวียดนาม และ ผมได้ตอบคำถามประเภทนี้ได้มากมายในโรดโชว์

ผมก็เลยคิดว่ามันน่าจะดีหากเราสามารถใส่ความคิดเหล่านี้ลงไปได้กระดาษ ที่สามารถแบ่งปันให้กับนักลงทุนจำนวนมากได้อ่านความท้าทายที่เราเผชิญในเวียดนาม

ทำไมเวียดนามมีความโดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่ที่อื่น?

จริงๆ เพราะผมเป็นคนเวียดนาม ผมโตมาในต่างประเทศแต่ได้มีโอกาสทำงานกับบริษัทข้ามชาติในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ  เพราะผมเป็นคนเวียดนาม ผมจึงรู้สึกว่าคุณค่าที่ผมทำจะสูงขึ้นถ้าอยู่ในเวียดนามมากกว่าในสหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษ  ผมและภรรยาจึงย้ายไปเวียดนาม และเรารู้สึกว่านี่เป็นที่ของเรา

และที่โชคดีอีกอย่างก็คือเวียดนามเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา 10-20 ปี

ปี 2020 เป้นปีที่ยากลำบากมากสำหรับชาวเวียดนาม แต่ GDP ก็ยังเติบโตที่ 2.9% ปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 6-7%

สภาพแวดล้อมที่เราอยู่กำลังเติบโตประมาณ 6-8% ต่อปี

โอกาสในการลงทุนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในโครงสร้างพื้นฐาน ธนาคาร สุขภาพ สินค้า มีมากมาย

ผมคุยกับทีมของเราอีกคน วันที่ผมมาเวียดนามที่นั่นครั้งแรก (เมื่อ 17 ปีที่แล้ว) ตอนนั้นมีประมาณ 26 บริษัท ในตลาดหุ้น

ขณะนี้มีบริษัทจดทะเบียนมากกว่า 750 แห่ง

ขนาดของบริษัท 26 แห่งเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ตอนนั้นมีมูลค่าเท่ากับ 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่วันนี้รวมเป็น 207,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้น 2,797 เท่า) มหาศาล

การเติบโตและโอกาสในการสร้างความมั่งคั่ง บอกตามตรงนั่นคือสิ่งที่ดึงดูดใจผม

และผมคิดว่าในอีก 5-10 ปี  มันจะดำเนินต่อไปแบบนี้

หนังสือคุณบอกว่าตลาดการเงินในเวียดนามมันอยู่มาแค่ 20 ปีเอง ?

ก็อย่างที่คุณว่านั่นแหละ ศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาลเพราะมันใหม่มาก ช้ากว่าที่อื่น 20 ปี (หมายถึงเปิดประเทศ) มันน่าสนใจมาก

สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต่างชาติกลัวกับเวียดนามคือมีรัฐบาลเดียวผูกขาด (คอมมิวนิสต์)  ?

ใช่ ผมคิดว่ามีข้อกังวลมากมายภายในเวียดนาม มันเป็นตลาดเกิดใหม่ ชายขอบ (Frontier)

ระบบการเมืองพรรคเดียว กฎเกณฑ์ ความผันผวน และมีหลายประเด็นมากมายที่ต้องกังวลในฐานะนักลงทุน

แต่ผมคิดว่าสิ่งที่นักลงทุนที่ต้องทำคือ “จัดลำดับความสำคัญว่า อะไรเป็นความเสี่ยงสูง เทียบกับผลตอบแทนที่คุณจะได้รับ”

 “ใช่ ความเสี่ยงอยู่ตรงนั้น เช่นเดียวกับในประเทศจีน ลาว กัมพูชา

แต่ความเสี่ยงที่มี เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่คุณจะได้รับ มันมากเกินพอที่จะชดเชย

ความเสี่ยงยังอยู่ แต่เราจะยังลงทุน

ถ้าวันหนึ่งความเสี่ยงยังอยู่ แต่ผลตอบแทนน้อย  เราคงไม่เสี่ยง

อะไรในเวียดนามที่ต่างจากที่อื่นอีกบ้าง?

เอกลักษณ์ที่ผมพบในเวียดนาม คือ ผู้นำที่เป็นผู้หญิงเยอะมาก

บริษัทชั้นนำในเวียดนามนำโดยผู้หญิง

ถ้าคุณมองไปรอบ ๆ เปอร์เซ็นต์ของบริษัทจดทะเบียน Top 50 Market cap

มีผู้หญิงสูงกว่าประเทศอื่นที่ผมเคยเห็นมาก ผมคิดว่ามาจากสองสิ่ง

ยุค 60 เมื่อผู้หญิงเหล่านี้แต่งงานสามีเป็นส่วนหนึ่งของสงคราม และผู้ชายจำนวนมากเสียชีวิตระหว่างสงคราม ผู้หญิงจึงต้องรับภาระครอบครัว เป็นผู้นำของครอบครัว และนำธุรกิจที่พวกเขามีอยู่ จึงกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง

ผมความรู้สึกว่าภาวะผู้นำของผู้หญิงมีมากมาย พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก

เราพบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ระดับบน เป็นผู้นำที่มีความมุ่งมั่น พวกเขามีสมาธิมาก  ในขณะที่ผู้ชายเมื่อประสบความสำเร็จพวกเขากลายเป็นคนไม่โฟกัส เล่นกอล์ฟ ไปงานปาร์ตี้  ผมเกาหัวว่า ดูสิ ผมในฐานะนักลงทุนต้องการให้คุณต้องมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจไม่ใช่จากสนามกอล์ฟ  สิ่งนี้ผมพบคือผู้ชายเอเชียและผู้ชายเวียดนามด้วย

บางคนเมื่อพวกเขากลายเป็นประสบความสำเร็จที่พวกเขามักจะกลายเป็นไม่โฟกัส และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการจะลงทุนกับบริษัทที่ต้องการคนที่ใช่มากๆ

ในหนังสือมีพูดถึงพัฒนาการเป็นผู้ประกอบการของเวียดนาม ? 

(ระยะแรก)  ผู้ประกอบการเวียดนามไปในวันแรก ที่การค้าขายไม่ได้มาก  

คุณอาจส่งโทรทัศน์ให้ญาติที่เวียดนามจากอังกฤษ  และสิ่งที่ญาติคุณทำได้คือ เก็บโทรทัศน์ไว้ที่บ้าน ขายโทรทัศน์ หรือแยกชิ้นส่วนโทรทัศน์เพื่อขาย นั่นคือทั้งหมดของธุรกิจ  

(ระยะที่ 2)  ต่อมา 10-20 ปี พวกเขาเริ่มมองว่าถ้าสามารถผลิตสินค้า และบริการพื้นฐานเพื่อเศรษฐกิจภายในประเทศได้ ต้องเริ่มต้นลงทุน ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปของผู้ประกอบการ คือเราจะผลิตสินค้าส่งออกไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตัวอย่างซัมซุงตอนนี้ผลิตมากกว่า 50% ของสมาร์ทโฟนจากเวียดนาม

โทรศัพท์ถือว่าผลิตโดย บริษัท เกาหลีใต้  แต่ชิ้นส่วนทั้งหลาย กำลังถูกผลิตโดยชาวเวียดนาม

(ระยะที่ 3)  ฉันต้องการผลิตให้โลกเอง  คุณต้องจัดการด้วยนโยบายธนาคาร  การกำกับดูแลตามมาตรฐานในสหรัฐอเมริกาและยุโรป องค์การอาหารและยา ซึ่งคนต่างชาติที่มีประสบการณ์สามารถช่วยคุณขยายไปทั่วโลกได้

 ในส่วนของไพรเวทอิควิตี้ ที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง คือการควบคุมดูแลกิจการ สร้างมันขึ้นมาแล้วขายในตลาดหุ้น (เป็นสาธารณะ)

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้ถือหุ้นของเราชื่นชมเรา  เพราะพวกเขาเผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก  ความรู้และประสบการณ์ทำให้ฉลาด การลงทุน ในอนาคตก็เป็นอย่างนั้น

—-

เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างยาว ขอตัดเป็น 2 ภาคนะคะ

โดยภาคแรกช่วยปูพื้นการลงทุนเวียดนาม ภาค 2 จะเป็นเป็นประสบการณ์การลงทุนที่เจ็บปวด และกลยุทธ์ในเวียดนาม  

โปรดติดตามอ่านต่อพรุ่งนี้ค่ะ

Youtube: WTFinance (1 มิ.ย.64)


สำหรับเพื่อนๆ สนใจเรียนรู้หุ้นเวียดนาม สามารถดูรายละเอียดและสมัครกลุ่มปิด! ปรับทัพลงทุนหุ้นเวียดนาม อเมริกา จีน ได้ที่: https://bit.ly/316AyPX

ท่านสามารถติดตามข่าวสารจาก VietnamVI ได้ที่Website: https://www.vietnamvi.com

Facebook: https://www.facebook.com/vvinvestor/

Line: @vietnamvi https://lin.ee/47V0kep

YouTube: https://youtube.com/c/vietnamvi

FB กลุ่มคุยหุ้นเวียดนามฯ: https://web.facebook.com/groups/4738903604867