โอกาสในการเติบโต ของธุรกิจร้านขายยาในเวียดนาม

0
1563

.

.

ร้านขายยา (Drug Store) มีการขยายตัวอย่างมาก จากข้อมูลขององค์กรวิจัยตลาด IQVIA ในปี 2559 เวียดนามมีร้านขายยา 55,300 แห่ง โดยมีร้านค้า 185 แห่งในเครือร้านขายยาสมัยใหม่ ในปี 2564 จำนวน ร้านขายยาทั้งหมดลดลงเหลือ 44,600 แห่ง แต่จำนวนร้านค้าในเครือข่ายร้านขายยาแบบสมัยใหม่เพิ่มข้ึน 1,600 แห่ง 

.

ในปี 2565 จำนวนเครือข่ายร้านขายยาสมัยใหม่ขนาดใหญ่ยังเพิ่มข้ึนอย่างต่อเนื่อง นับถึงเดือน กรกฎาคม 2565

จำนวนร้านค้าในเครือ Pharmacity เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 40 

ร้านค้าในเครือ Long Chau เพิ่มข้ึนมากกว่าร้อยละ 70 

และร้านค้าในเครือ An Khang เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2564 

ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ในเวียดนามให้ความสนใจท่ีเปิดเครือข่ายร้านขายยา อาทิ บริษัท Wincommerce ซึ่งเป็น เจ้าของร้านสะดวกซื้อ Winmart ที่มีร้านค้า 3,000 แห่ง และบริษัท Viettel ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายค้าปลีกของร้าน โทรคมนาคม 370 แห่ง 

บริษัทหลักทรัพย์ SSI กล่าวว่า ร้านขายยา แบบสมัยใหม่กำลังได้รับส่วนแบ่งการตลาดจากร้านขายยา แบบดั้งเดิมเนื่องจากรัฐบาลค่อยๆ ออกกฎระเบียบที่เข้มงวด ข้ึนสำหรับผู้ค้าปลีกยา โดยกำหนดให้มีการควบคุมยาที่ซื้อ ตามใบส่ังแพทย์อย่างเข้มงวดมากขึ้น การบริโภควิตามินหรือ อาหารเสริมที่เพิ่มข้ึนในช่วงการระบาดของ COVID-19 ยังเร่ง 

การเปิดร้านค้าปลีกยา

ปัจจุบัน เครือข่ายร้านขายยายังกระจายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตนเอง (Personal Care) ขนมและเครื่องดื่ม ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และผลกำไร แม้ความสามารถในการจับจ่ายของผู้บริโภคเวียดนามจะ ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แต่การใช้จ่ายด้านเวชภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะทรงตัวเนื่องจากยาเป็น สินค้าที่มีความจำเป็น 

นับถึงเดือนธันวาคม 2565 เครือข่ายร้านขายยา Long Chau ของบริษัท FPT Digital Retail Company (FRT) ได้ทะลุ 1,000 ร้านค้าอย่างเป็นทางการ ครอบคลุม 63 จังหวัดและเมืองต่างๆ ในเวียดนาม ซึ่งเกินร้อยละ 125 ของแผนในปี 2565 นอกจากนี้ บริษัท FPT ยังคาดว่าจะเพิ่มจำนวนร้านค้าทั้งหมดเป็น 3,000 แห่งในอีกห้าปีข้างหน้า 

นักวิเคราะห์ของบริษัท MB Banking Securities (MBS) กล่าวว่า ในขณะที่กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ ของ FRT กาลังชะลอตัวลง เนื่องจากความอิ่มตัวของตลาด กลุ่มธุรกิจยาจะผลักดันการเติบโตกำไรของบริษัท FRT ในระยะยาว บริษัท FRT จะยังคงเปิดร้านขายยา Long Chau เนื่องจากสัดส่วนของร้านขายยาแบบสมัยใหม่ ในปัจจุบันมีเพียงประมาณร้อยละ 5 

เครือข่ายร้านขายยา An Khang โดยบริษัท Mobile World Investment Company (MWG) ซึ่งมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งจาก 178 ร้านในปี 2564 เป็น 529 ร้านในปี 2565 และในปี 2566 เครือข่ายร้านขายยา An Khang คาดว่าจะขยายตัวต่อไป ด้วยข้อได้เปรียบของบริษัท MWG ในการมีฐานลูกค้าจากเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ An Khang จะได้รับ ประโยชน์ในการเพิ่มการขายผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง จากนั้นจะเป็นการเพิ่มอัตรากำไร 

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติทั่วไป ในปี 2565 ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรม (IIP) คาดว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 ซึ่งการผลิตยา เวชภัณฑ์ และสมุนไพรมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 19.2 นักวิเคราะห์ กล่าวว่า นี่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับธุรกิจค้าปลีกจำนวนมากที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการดำเนินการ ในส่วนเภสัชภัณฑ์ 

การสำรวจที่จัดทำโดยบริษัท Vietnam Report Company (Vietnam Report) แสดงให้เห็น ว่าค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของผู้บริโภคเวียดนามเพิ่มขึ้นจาก 16.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2560 เป็นมากกว่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 โดยคาดว่าจะแตะระดับ 23.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 และ 33.8 พันล้าน เหรียญสหรัฐในปี 2573 

เวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศท่ีมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก การรับรู้ ของผู้บริโภคเก่ียวกับการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นและรายได้ของผู้คนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ และเภสัชภัณฑ์ต่อหัวปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย 

อย่างไรก็ตาม นาย Vu Dang Vinh ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัท Vietnam Report กล่าวว่า ความท้าทายสี่อันดับแรกที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจของผู้ประกอบการด้านยาและเวชภัณฑ์ ได้แก่ ต้นทุนโลจิสติกส์ท่ีเพิ่มขึ้น การแข่งขันระหว่างบริษัทในอุตสาหกรรม ต้นทุนวัตถุดิบ และแรงกดดัน จากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น 

วิเคราะห์ผลกระทบ… 

ในปัจจุบัน เภสัชกรรมถือเป็นสาขาที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นหน่ึงในตลาดท่ีมีศักยภาพมาก ที่สุดในเวียดนาม องค์กร UQVIA Institute ได้จัดอันดับให้เวียดนามอยู่ในกลุ่ม Pharmerging Market ซึ่งเป็นกลุ่ม 17 ประเทศที่มีการเติบโตของเภสัชกรรมมากที่สุดในโลก รายได้จากเภสัชกรรมคาดว่าจะอยู่ที่ 7.51 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 คิดเป็นร้อยละ 1.78 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศเวียดนาม ซึ่งตลาดเภสัชกรรมของ นครโฮจิมินห์คิดเป็นร้อยละ 30-40 ทั้งประเทศ โดยมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น รายได้ต่อหัวที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และความต้องการด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนที่เพิ่มข้ึน เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาอุตสาหกรรมยาในประเทศ นอกจากนี้ แนวโน้มของประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นยังเร่ง การพัฒนาอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ เมื่อจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มข้ึน การใช้จ่ายด้านสุขภาพก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

โอกาสและแนวทาง…

ในช่วงปี 2564-2565 เครือข่ายร้านค้าปลีกเวชภัณฑ์ เช่นเครือ Pharmacity เครือ Long Chau หรือเครือ An Khang ล้วนมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 

คาดว่า ตลาดเวชภัณฑ์ในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 140,000 พันล้านเวียดนามดอง การค้าปลีกเวชภัณฑ์คิดเป็นประมาณ ร้อยละ 12 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขนาดการขายปลีกยายังเล็กและยังมีช่องว่างสาหรับการเติบโต 

แนวโน้มการเติบโตของ เครือข่ายร้านค้าปลีกยาสมัยใหม่ (Drug store) ซึ่งมีสาขาครอบคลุมท่ัวเวียดนาม ทำให้ร้านค้า Drug Store เป็น ช่องทางกระจายสินค้า ยา เครื่องสำอางค์ และผลิตภัณฑ์ดูแลที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทยท่ีต้องการขยาย ตลาดในสินค้าดังกล่าวในเวียดนาม 

.

.

ขอบคุณข้อมูลจาก: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์

.

______________________________

 VVI Membership 

ดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ https://class.vietnamvi.com

หรือ ติดตามเราได้ที่

– Youtube: youtube.com/c/vietnamvi 

– Line Official Account: @vietnamvi 

www.vietnamvi.com

– ห้องคุยหุ้นเวียดนามฯ facebook.com/groups/473890360486727

– E-mail: info@vietnamvi.com