ปีที่แล้วดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN INDEX) เคยทำจุดสูงสุดที่ 1,525 จุด ปัจจุบันดัชนีอยู่ที่ 1,168 จุด คิดเป็นการติดลบถึง 23.4%
นักลงทุนหุ้นเวียดนามหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าการลงทุนระยะยาวในหุ้นเวียดนามดีจริงหรือ?
เพราะในโลกอินเตอร์เน็ตหลายคนบ่นขาดทุน
ยิ่งปลายปีที่แล้ว-ต้นปีนี้ บางสื่อบอกว่าเวียดนามจะเป็นเหมือนต้มยำกุ้ง หุ้นกำลังดิ่งยาว
หุ้นเวียดนามผลตอบแทนแย่จริงหรือ?
วันนี้แอดอยากชวนเพื่อนๆ มาวัดระยะดูผลตอบแทนดัชนีหุ้นเวียดนามที่ผ่านมา
เรียงอันดับผลตอบแทน ทั้งแบบ YTD แบบ 5 ปี และแบบ 10 ปี กัน
YTD-ปัจจุบัน (ต้นปี-16 ก.ค.66)
1. LAOS +38.9%
2. VIETNAM +11.93%
3. PHILIPPINES +0.6%
4. INDONESIA +0.3%
5. SINGAPORE +0.1%
6. MALAYSIA -4.3%
7. THAILAND -9.6%
5 ปี-ปัจจุบัน
1. VIETNAM +25.18%
2. INDONESIA +17.0%
3. LAOS +12.0%
4. SINGAPORE -1.5%
5. THAILAND -9.2%
6. PHILIPPINES -10.5%
7. MALAYSIA -19.5%
10 ปี-ปัจจุบัน
1. VIETNAM +134.9%
2. INDONESIA +52.3%
3....
โลกในมุมมองของ Value Investor 15 กรกฎาคม 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ในช่วง 4-5 ที่ผ่านมานี้ การลงทุนในตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะยากขึ้นทุกที ไม่ใช่เพราะว่าดัชนีหุ้นไทยไม่ไปไหนเลยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะว่ากลยุทธ์การลงทุนแบบ VI แนว “ซุปเปอร์สต็อก” ที่ผมใช้มานานและได้ผลดีมากมาตลอดนั้น เริ่มได้ผลน้อยลงมาก เหตุผลสำคัญผมคิดว่าเกิดจากการที่หุ้นซุปเปอร์สต็อกในตลาดหุ้นไทยเดิมนั้น “อิ่มตัว” แล้ว ราคาได้ปรับตัวขึ้นมามากจนราคาไม่ถูกอีกต่อไป บางตัวก็อาจจะเรียกว่าแพงแล้ว
ในขณะเดียวกัน หุ้นซุปเปอร์สต็อก “รุ่นใหม่” ก็หาแทบไม่ได้ในสายตาของผม จริงอยู่ ยังมีกิจการที่ดีเยี่ยมที่อาจจะกำลังเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ราคาหุ้นกลับปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าพื้นฐาน นอกจากนั้น การเติบโตระยะยาวมากก็ยังไม่แน่นอน เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีหุ้นดิจิทัลหรือไฮเทคที่มีความสามารถและ/หรือความได้เปรียบที่ยั่งยืนจริง ๆ ดังนั้น การลงทุนก็เป็นความเสี่ยงเพราะหุ้นมี Margin of Safety ต่ำมาก ผมจึงไม่ลงทุน และก็พลาดที่จะได้ปผลตอบแทนที่รวดเร็วแบบ VI รุ่นใหม่หลาย ๆ คนทำได้ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่เจ็บตัวเมื่อหุ้นเหล่านั้นหลายตัวตกลงมาจนแทบหายนะในช่วงเร็ว ๆ นี้
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาน่าจะอย่างน้อย 5 ปี ของผมต้องถือว่าย่ำแย่ ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1.8% ต่อปี แม้ว่าจะยังดีกว่าดัชนีตลาดที่...
โลกในมุมมองของ Value Investor 8 กรกฎาคม 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นตกลงมาอย่างช้า ๆ ต่อเนื่องในช่วงเร็ว ๆ นี้ แต่ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายตัวที่เคยเป็นหุ้น “ดารา” ที่ราคาวิ่งขึ้นไปสูงเป็น “จรวด” ก่อนหน้านี้ กลับตกลงมาแรงต่อเนื่องจนแทบเป็น “หายนะ” ทำให้ผมรู้สึกว่า กลยุทธ์การลงทุน “ระยะยาว” ที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนอย่างมั่นคงจริง ๆ นั้น คงไม่ใช่การเลือกหุ้นลงทุนในหุ้นที่กำลังวิ่งขึ้นแรงและขายหุ้นก่อนที่มันจะลงไปอย่างหนักซึ่งเป็นกลยุทธ์ของ “นักเทรด” หรือ “นักซื้อขายหุ้น” ไม่ว่าจะเป็นนักเก็งกำไรหรือเป็น Value Investor เพราะผมคิดว่า คนที่ทำแบบนั้นคงจะ “เจ็บตัว” อย่างหนักเพราะขายไม่ทันและขาดทุนไปมาก ซึ่งน่าจะทำให้ผลตอบแทน “ระยะยาวแบบทบต้น” ของเขาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นอาจจะสูงมาก
ผมคิดว่ากลยุทธ์การลงทุนระยะยาวที่จะให้ผลตอบแทนที่ดี มีความมั่นคง และคนลงทุนจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของการขาดทุนอย่างหนักอย่างที่กำลังอาจจะเกิดขึ้นกับนักลงทุนบางคนในช่วงนี้ควรจะเป็นแนวการลงทุนแบบวอเร็น บัฟเฟตต์ ที่ทุกคนยกย่องชื่นชมว่าเป็นสุดยอดของการลงทุนระยะยาว แต่เป็นกลยุทธ์ที่น้อยคนที่จะใช้ หลายคนอาจจะคิดว่ามันยากและเหนือความสามารถของตนที่จะวิเคราะห์หุ้นได้เก่งขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม ผมเองคิดว่าคนจำนวนมากสามารถเลียนแบบกลยุทธ์ของบัฟเฟตต์ที่จะทำให้สามารถทำผลตอบแทนระยะยาวที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ และต่อไปนี้ก็คือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นหลักคิดและวิธีสำหรับการลงทุนระยะยาวที่น่าจะ “ง่ายและสั้นที่สุด” และก็เป็นกลยุทธ์ที่ผมเองใช้มายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว
หลักสำคัญข้อแรกก็คือ ต้องพยายามหลีกเลี่ยง “หายนะ” ของการลงทุน ซึ่งก็คือการหลีกเลี่ยงการลงทุนแต่ละครั้งในหุ้นแต่ละตัวที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป อาจจะเป็นเพราะตัวธุรกิจที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความผันผวนสูงและขณะที่ซื้อหุ้นนั้นราคาสินค้าอยู่ในภาวะสูงผิดปกติ ...
เปิดรับสมัครแล้ว!
รวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนาม 2023
27 ส.ค. นี้ 8.30-17.00 น.
1 ปี มี 1 ครั้ง
งานนี้ ครบ-จบ-ในวันเดียว
- รวมคนที่มี Passion สนใจลงทุนหุ้นเวียดนาม
- รวมมุมมอง ความรู้หุ้นเวียดนาม
- พบกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรและ Speaker ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ
Agenda
8.30 น. ลงทะเบียน
8.45 น. กว่า 7 ปี VVI 7 ปีแห่งโอกาส และความผันผวน
แอดมินเต๋า สติมา เมี้ยนละม้าย
8.50 น. หุ้นเวียดนามปัจจุบัน - อนาคต
คุณเอก ธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ (ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศเวียดนาม)
Mr. Eric Levinson ( Head of Business Development, VinaCapital )
Mr. Manh Nguyen ( Co-Portfolio Manager, VinaCapital...
– การลงทุนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศที่เราอาจต้องใช้เวลาการศึกษาข้อมูลที่มากกว่า จะดีกว่าไหมหากเราจะได้ศึกษาเรียนรู้การลงทุนจากนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ในหุ้น เวียดนาม อเมริกา จีน ทั้งผ่านทางเว็บไซต์ และ facebook group สมัครวันนี้รับพร้อมสิทธิ์พิเศษ ดังนี้
1 รับชมย้อนหลัง สัมมนา super stock เวียดนาม อเมริกา จีน ยาวกว่า 15 ชั่วโมง จากมากมายหลายกูรูผู้รู้เรื่องการลงทุน
2 เข้าร่วมกิจกรรม คนละตัว นำเสนอหุ้นคนละตัว เรียนรู้ไปด้วยกัน
3 ชมย้อนหลัง Live ที่ผ่านมาแต่ ต้นปี 2565 วิเคราะห์หุ้นรายตัว ตลอดจนคุยกับกูรูไทย เพื่อนนักลงทุนที่มากประสบการณ์และโบรกเกอร์เวียดนาม
4 พูดคุย ถามตอบในไลฟ์สด ประเด็นที่น่าสนใจที่เราจัดเป็นประจำทุกเดือนทุกเดือน
5 รับรางวัล และสิทธิ์พิเศษอื่นๆ เป็นประจำตามวาระและโอกาสที่เหมาะสม
6 สิทธิ์พิเศษร่วมสัมมนากับเราทั้งในประเทศและต่างประเทศ super early bird ในราคาสมาชิกส่วนลด 10-20 % ก่อนใคร
Tour learn earn more...
อัพเกรดตลาด MSCI: เวียดนาม... ยังเหมือนเดิม
เวียดนามพลาดการยกระดับสู่ตลาดemerging market และไม่ได้ปรับปรุงเกณฑ์ MSCI ใดๆ
MSCI (Morgan Stanley Capital International) เป็นบริษัทวิจัยการลงทุนที่ให้บริการผลิตภัณฑ์ดัชนีทางการเงิน การวิเคราะห์ความเสี่ยงและประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอ และเครื่องมือการจัดการแก่นักลงทุนสถาบันและกองทุนเฮดจ์ฟันด์
ในเช้าวันที่ 23 มิถุนายน MSCI ประกาศผลการจัดประเภทตลาดเป็นระยะสำหรับตลาดหุ้น 84 แห่งในโลก ซึ่งเวียดนามยังไม่ปรากฏในรายการการพิจารณาให้ยกระดับจากตลาด Frontier Market เป็นตลาด Emerging Market
ผลลัพธ์นี้ไม่น่าแปลกใจเพราะการประเมินของ MSCI สำหรับเวียดนามยังคงเหมือนเดิมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ประเด็นของการยกระดับตลาดได้รับการกล่าวถึงเมื่อเร็ว ๆ นี้และเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เรียกร้องโดยรัฐบาล หากปรับปรุงจะทำให้เงินทุนไหลเข้าเวียดนามมากขึ้น จากการประเมินเงินประมาณ 3.5-4 พันล้านเหรียญสหรัฐจะไหลเข้าสู่ตลาดเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม หลังจากความพยายามหลายครั้งของทางการถึงการให้คำปรึกษากับธนาคารโลก (WB) และ FTSE Russell MSCI ยังคงมีการประเมินตลาดเวียดนามในเชิงบวกมากขึ้น
ปัญหาในเวียดนามคืออะไร?
เมื่อเร็วๆ นี้ ประธานคณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งรัฐ Vu Thi Chan Phuong นั่งคุยกับผู้อำนวยการทั่วไปของ Asian Securities and Financial Markets Association (ASIFMA) เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาที่ขัดขวางไม่ให้เวียดนามเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่
อลิซ ลอว์ - ผู้อำนวยการทั่วไปของ ASIFMA -...
ตามรายงานผลประกอบการ FPT Corporation ( HOSE : FPT ) บันทึกรายได้และกำไรสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปี 19,943 พันล้านดอง (เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเวลาเดียวกัน) และ 2,518 พันล้านดองเวียดนาม (เพิ่มขึ้น 20 % YoY)
ส่วนธุรกิจเทคโนโลยียังคงมีสัดส่วน 58% ของโครงสร้างรายได้ของ FPT และ 43% ของกำไรก่อนหักภาษี
ซึ่งส่วนบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ในตลาดต่างประเทศยังคงเติบโตอย่างน่าประทับใจโดยมีรายได้ 9,245 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเวลาเดียวกัน นำโดยการเพิ่มขึ้นของตลาดญี่ปุ่น (เพิ่มขึ้น 41%) และ APAC ( เพิ่มขึ้น 50%)
ตัวแทนของ FPT กล่าวว่าตลาดญี่ปุ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเงินเยนถึง 51% โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้จ่ายด้านไอทีจำนวนมากในตลาดนี้ คำสั่งซื้อใหม่ที่ลงนามในตลาดต่างประเทศสูงถึง 13,729 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 35%
ผลงาน 5 เดือนแรก 2023 ของ FPTที่มา:
ส่วนบริการด้านไอทีในประเทศมีรายได้ 2,386 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น...
ธนาคารพาณิชย์ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2566
หลังจากการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม (SBV) ธนาคารต่างๆ ได้เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2566
ธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ เช่น BaoVietBank , NCB, ABBank, Bac A Bank, OCB , VIB , Sacombank ...
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในครั้งนี้เป็นไปตามกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศเวียดนาม
โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ใช้กับเงินฝากที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 1 เดือนถึงน้อยกว่า 6 เดือนจาก 5.0%/ปี เป็น 4.75% /ปี
OCB ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 1 เดือน 0.3 จุด เป็น 4.4%/ปี 3 เดือนเหลือ 5.6%/ปี 6 เดือนเหลือ 7.1%/ปี และ 12 เดือนเหลือ 7.6%/ปี
ในขณะเดียวกัน VIB ใช้ตารางอัตราดอกเบี้ยใหม่ เงินฝากอายุต่ำกว่า 6 เดือนเป็น 4.75%/ปี 6 เดือนคือ 7.2%/ปี 9 เดือนเท่ากับ 7.3...
โลกในมุมมองของ Value Investor 17 มิถุนายน 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ช่วงเร็ว ๆ นี้เราได้พบเห็นหุ้นที่ “เคยดีมาก” คือราคาเคยขึ้นไปอย่างรวดเร็วและสูงมาก หลายตัวขึ้นไปหลายเท่าในเวลาเพียงไม่กี่เดือนหรือแค่ปีสองปี แต่แล้ว หลังจากนั้น มันก็ตกลงมาอย่างรวดเร็ว หลายตัวลดลงมา 30-40% ขึ้นไป บางตัวลดลงมาถึง 90% และราคาเหลือแค่เศษสตางค์หรือหมดค่าไปเลยภายในเวลาไม่กี่เดือนหรือแค่ 2-3 ปี
คนที่ซื้อหุ้นก่อนที่ราคาจะขึ้นและขายก่อนที่มันจะตกลงมาแรง ทำกำไรได้มโหฬาร พวกเขาคงเรียกมันว่า “หุ้นสุดยอด” คนที่สังเกตการณ์หรือนักลงทุนในตลาดหุ้นเรียกพวกเขาว่า “เซียน” ส่วนคนที่เข้าไปซื้อตอนที่หุ้นขึ้นไปสู่จุดสูงสุดและขายตอนที่หุ้นตกลงมาต่ำสุดนั้นคงเรียกว่ามันเป็น “หุ้นสุดยอดหายนะ” เพราะขาดทุนหุ้นหนัก อย่างไรก็ตาม หุ้นตัวนั้นก็ไม่ทำให้พวกเขาล้มละลายหรือต้องเลิกเล่นหุ้นไปเลย พวกเขาก็มักจะ “Move On” หรือไปหาหุ้นตัวใหม่ที่เขาคิดว่าจะทำกำไรได้รวดเร็วและขายออกไปทัน นักสังเกตการณ์บางคนเรียกพวกเขาว่า “เม่า” ที่เป็นนักเล่นหุ้นรายย่อยจำนวนมากที่ชอบเล่นหุ้นที่ขึ้น-ลงรวดเร็วที่พวกเขาจะสามารถ “ทำกำไร” ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ
จากการสังเกตการณ์ของผมเองนั้นพบว่า หุ้นที่มีลักษณะหรืออาการดังกล่าวนั้น มักจะมาจากหุ้นอย่างน้อย 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ผมเรียกว่า “Pseudo Growth” หรือหุ้นกลุ่ม “เติบโตเทียม” กลุ่ม “Pseudo Super Stock” หรือหุ้น...
เวียดนามมุ่งยกระดับตลาดหลักทรัพย์เป็น Emerging Market
เมื่อวันที่ 13-15 มิถุนายน International Organization of Securities Commissions (IOSCO) จัดการประชุมประจำปีครั้งที่ 48 ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย
ประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เวียดนาม Ms. Vu Thi Chan Phuong และคณะเข้าร่วมและกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม
Ms. Phuong กล่าวว่า ตลาดหุ้นเวียดนามมีพัฒนาการที่น่าประทับใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สภาพคล่องดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นช่องทางการระดมเงินทุนระยะกลางและระยะยาวที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจและธุรกิจ
นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วไป ดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนามได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนจำนวนมากทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ไม่เพียงแต่เพิ่มทุนผ่านตลาดหุ้นได้สะดวกมากขึ้นเท่านั้น ธุรกิจของเวียดนามมีความก้าวหน้าอย่างโดดเด่นในด้านธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และการพัฒนาที่ยั่งยืน”
เพื่อสนับสนุนธุรกิจและพัฒนาตลาดหุ้นในทิศทางของคุณภาพและความยั่งยืนต่อไป
เวียดนามมุ่งมั่นที่จะยกระดับตลาดเป็นตลาดเกิดใหม่ Emerging Market
ดำเนินการปรับโครงสร้างตลาดอย่างต่อเนื่องตาม 4 ข้อหลัก: คือ ผลิตภัณฑ์; การตลาด; ฐานนักลงทุน องค์กรธุรกิจหลักทรัพย์
นอกจากการประชุมประจำปีแล้ว IOSCO ยังได้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการจัดสัมมนาหลัก 4 หัวข้อ ได้แก่
Marginal และแนวโน้มของตลาดเกิดใหม่
การสร้างอนาคตของการเงิน-สินทรัพย์ดิจิทัล
ตลาดทุน - พลังขับเคลื่อนโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน
สร้างความตระหนักและการลงทุนในโลกดิจิทัล
IOSCO ก่อตั้งขึ้นในปี 2526 สถาบันสมาชิกของ IOSCO บริหารจัดการตลาดหุ้นมากกว่า 95% ของโลกในกว่า 130 เขตเศรษฐกิจ คณะอนุกรรมการหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ (GEMC) คิดเป็น 75% ของการเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของ...