นักลงทุนบอกเซ็งเป็ด Diamond ETF All Time High
หลังจากวันก่อนที่แอดโพสต์เรื่องหุ้นเวียดนามตก -3.19%ทำเอานักลงทุนในเพจที่ตั้งใจเก็บ Diamond ETF บ่น“ ETF Diamond ไม่ค่อยลงเลย รอเก้อ”“ ไดมอนไม่ค่อยลงเลยครับแอด รออยู่”
เมื่อวานเพื่อนในกลุ่ม Line ก็บ่นต่อ“ ไดมอนไม่ลง เซ็งเป็ด”
สุดท้ายปิดตลาดเมื่อวาน (ศุกร์) Diamond ETF ทำ All Time High ที่ 21,180 VND (+2.17%)
เรื่องน่ารู้Diamond ETF (ชื่อหุ้นตอนสั่งซื้อ : FUEVFVND) จะขึ้นหรือลงนั้นจะแปรผันตามการขึ้นลงของหุ้นรายตัวในกอง 13 ตัว ตามสัดส่วนน้ำหนัก NAV - Net Asset Value หรือ ทรัพย์สินสุทธิทั้งหมดที่กองทุน ETF นั้นมี
โดย NAV (%) Diamond ETF ปัจจุบัน ดังนี้ ค่ะ
1 FPT 16.39%2 MWG 15.26%3...
https://youtu.be/vR_iDc5G2S8
พิเศษสำหรับผู้สมัครสัมมนาชมย้อนหลัง- คลิป VDO สัมมนาคนลงทุนหุ้นเวียดนาม 62 และปีก่อนที่ไม่เคยเผยแพร่มาก่อน- บทความ/คลิปไอเดียลงทุนของวิทยากรสุดว้าว- ไลฟ์ชวนคุยกับกูรูทั้งในและต่างประเทศ
เริ่มศึกษาเรียนรู้ได้ทันทีเดี๋ยวนี้ใน Facebook กลุ่มปิด! ปรับทัพลงทุนหุ้นเวียดนาม อเมริกา จีน เท่านั้น
สมัครดูสัมมนาย้อนหลังได้ที่:https://bit.ly/316AyPXสอบถามเพิ่มเติม line: @vietnamvi หรือ Inbox มาที่ facebook.com/vvinvestor
โลกในมุมมองของ Value Investor 17 เมษายน 64
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งเป็นปีวิกฤติ “ต้มยำกุ้ง” มาจนถึงปัจจุบันและผ่านวิกฤติรุนแรงมาอย่างน้อยอีก 3 ครั้ง คือวิกฤติไฮเท็คในตลาดหุ้นสหรัฐในปี 2000 วิกฤติซับไพร์มของอเมริกาปี 2008 และล่าสุดคือวิกฤติโควิด-19 ในปี 2020 หรือปีที่แล้วที่ยังถือว่าไม่สงบ- อย่างน้อยในประเทศไทย แต่หลังจากวิกฤติทุกครั้งที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตกลงมาอย่างรุนแรงขนาดอย่างน้อย 40-50% มันก็ปรับตัวกลับขึ้นมาได้เท่าเดิมและปรับตัวขึ้นต่อไปหลังจากที่วิกฤติผ่านพ้นไปและเศรษฐกิจกลับมาเติบโต “อย่างแรง” และโตเกินกว่าช่วงก่อนวิกฤติในที่สุด
ถ้าจะพูดอย่างถูกต้องในช่วงเวลานี้เกี่ยวกับวิกฤติโควิด-19 เราก็คงจะต้องบอกว่า “โลก” กำลังจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปแล้ว ตัวเลขการเติบโตของ GDP ล่าสุดจากประเทศจีนคือ ในไตรมาศแรกจะโตประมาณ 18.3% ซึ่งเป็นการโตที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี จากการตกต่ำลงเนื่องจากปัญหาโควิด-19 ในไตรมาศ 1 ของปีที่แล้ว และต่อจากนี้เศรษฐกิจก็จะเติบโตเป็นปกติและอย่างรวดเร็วต่อไปตามที่เคยเป็นมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์เองนั้น ดัชนีตลาดหุ้นของประเทศซึ่งรวมถึงเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นต่างก็ปรับตัวขึ้นสูงกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ไปมากแล้ว เช่นเดียวกัน เศรษฐกิจของสหรัฐเองก็กำลังฟื้นตัว-อย่างแรง ตัวเลขการบริโภค การผลิต การจ้างงานและอื่น ๆ เติบโตขึ้นมากในไตรมาศแรกและการเติบโตของ GDP โดยรวมน่าจะอยู่ที่...
ตลาดหุ้นเวียดนามร่วงหนักในเดือนมีนาคม 2563 ตามตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19
แทนที่จะตื่นตระหนกกับการร่วงลงของหุ้นอย่างไม่หยุดยั้งนาย Dinh Thanh Cong ตัดสินใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น
เพื่อนบอกเขาว่านี่เป็นโอกาสที่จะซื้อหุ้นราคาถูกดังนั้น Cong จึงเข้าสู่ตลาดพร้อมกับนักลงทุนหุ้นใหม่เกือบ 400,000 คนในเวียดนามเมื่อปีที่แล้ว
จำนวนนักลงทุนมือใหม่เข้าสู่ตลาดเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดหุ้นเวียดนาม
“ ระหว่าง Covid-19 บางครั้งฉันต้องทำงานที่บ้านจึงมีเวลาทำอย่างอื่น” Cong กล่าว ตอนนี้เขาเป็นวิศวกร ได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SSI สำหรับการซื้อขายหุ้น และมักจะตรวจสอบพอร์ตโฟลิโออย่างน้อย 4 ครั้งต่อวัน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายเชื่อว่ากระแสนักลงทุนหน้าใหม่ (F0) ที่เข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนามมาจากสาเหตุ 3 ประการ
ได้แก่
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ฝากเงินออมต้องการมองหาช่องทางการลงทุนอื่น ๆ ชาวเวียดนามมีเงินลงทุนมากขึ้น รวมถึงเงินจากรุ่นปู่ย่าตายายที่เริ่มต้นธุรกิจในช่วงทศวรรษ 1980 การเว้นระยะทางสังคมที่ทำให้คนจำนวนมากติดอยู่กับบ้านพร้อมเงินเพื่อเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น
ในปี 2020 ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (VSD) บันทึกบัญชีส่วนตัวใหม่ 2.7 ล้านบัญชีเพิ่มขึ้น 16.8% เมื่อเทียบกับปี 2019 แนวโน้มนี้แข็งแกร่งขึ้นอีกในปี 2564 โดยเฉพาะเกือบ 114,000 บัญชีที่เปิดในเดือนมีนาคมที่มากสุดเป็นประวัติการณ์
"เราไม่เคยเห็นคนจำนวนมากรีบเปิดบัญชีหุ้นและย้ายเงินออกจากธนาคารเช่นนี้" Lim Shiu Beng รองผู้จัดการทั่วไปของ SBBS Securities กล่าวกับ Nikkei Asia
แม้มีความกังวลว่าหุ้นเวียดนามกำลังแสดงสัญญาณฟองสบู่ แต่นาย Lim ยังคงคิดว่านักลงทุนรายย่อยเข้าถึงข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ
รัฐบาลเวียดนามมีเป้าหมายที่จะยกระดับตลาดจากตลาดชายขอบ (Frontier) ไปสู่ตลาดเกิดใหม่ (Emerging) ในตะกร้าดัชนีหุ้น MSCI...
โลกในมุมมองของ Value Investor 10 เมษายน 64
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ในขณะที่การระบาดของโควิด-19 ในประเทศหลัก ๆ ของโลกเช่นในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่าง ๆ ในยุโรปที่ต้องเผชิญกับปัญหาอย่างรุนแรงมากในปีที่แล้ว กำลังเริ่มลดลงเพราะการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยกลับเลวร้ายลง “อย่างมาก” เนื่องจากเรากำลังประสบกับการระบาดของโรค “โควิดรอบ 3” ที่มีการกระจายและติดเชื้อในหมู่คนค่อนข้างกว้างขวางเมื่อเทียบกับการระบาดรอบแรกที่เกิดจากสนามมวยและรอบสองที่เกิดในหมู่คนงานต่างชาติและในตลาดสดที่อยู่ในต่างจังหวัด แต่การระบาดรอบนี้เริ่มจากสถานบันเทิงระดับหรูที่เกี่ยวข้องกับคนที่มีสถานะทางสังคมสูงที่มักจะมีการติดต่อกับผู้คนจำนวนมาก และยังรวมถึงผู้ให้บริการเช่นนักร้องนักดนตรีที่มักจะเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ และพบกับผู้คนจำนวนมากด้วย การกระจายตัวของการติดเชื้อรอบนี้จึงมีมากและการติดตามและป้องกันก็คงจะยากขึ้นมาก ผู้เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญบางคนถึงกับบอกว่า โควิดรอบนี้อาจจะรุนแรงกว่ารอบก่อนหน้าเป็น 10 หรือ 100 เท่า ผมเองก็รู้สึกว่าคงเป็นอย่างนั้น ว่าที่จริง ใน 2 รอบก่อนนั้น ผมไม่เคยมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ติดจริง ๆ เลย แต่รอบนี้มีและพบว่ามีคนแทบทุกวงการที่ติดเชื้อ มันคง “ใกล้ตัว” เข้ามาทุกทีแล้ว ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดว่าเรื่องวัคซีนเราจะรอ ๆ ไปก่อนเพื่อความมั่นใจว่ามันจะไม่มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจริง ๆ ตอนนี้ผมคิดว่าผมอยากฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ฉีดเมื่อไร
ตลาดหุ้นของแต่ละประเทศนั้น เป็น “เทอร์โมมิเตอร์” หรือเป็น “เครื่องวัด” ที่ทรงประสิทธิภาพมากว่าผลงานการบริหารหรือการจัดการโดยเฉพาะในด้านของเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศนั้นทำได้ดีแค่ไหน ...
ว่าด้วยเรื่องของจดหมายเชิญประชุมผู้ถือหุ้นเวียดนามนั้นเป็นเรื่องที่แอดเองก็ไม่เคยนำมาเขียนเป็นบทความมาก่อน
วันนี้จึงอยากมาเล่าให้เพื่อนๆ VVI ฟังค่ะ
พอร์ตลงทุนหุ้นเวียดนามของแอดมีทั้งผ่านโบรกเกอร์ไทยที่ชื่อผู้ถือหุ้นฝั่งเวียดนามจะเป็นชื่อของโบรกเกอร์
และพอร์ตที่แอดลงทุนตรงกับโบรกเกอร์เวียดนาม ตรงนี้ชื่อผู้ถือหุ้นจะเป็นชื่อเรา จึงทำให้ได้รับหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นรวมทั้งมีสิทธิในการโหวตออกเสียง
วันนี้แอดดูหนังสือเชิญประชุมบางส่วนที่ส่งมา ก็รู้สึกถึงพัฒนาการของหนังสือเชิญประชุมในวันนี้ที่แตกต่างกับ 5-6 ปีที่แล้ว
กล่าวคือ
เดิมหนังสือเชิญประชุมหลายบริษัทเป็นภาษาเวียดนามล้วน แต่ปัจจุบันเป็นแบบ 2 ภาษา (มีภาษาอังกฤษประกอบด้วย) แทบทุกแห่งปัจจุบัน: บริษัทส่วนใหญ่จะมีการ List ประเด็นต่างๆ Publish ข้อมูลสำคัญต่างๆ ทาง website ให้เราอ่าน ก่อนวันประชุมจริงปัจจุบัน: บางบริษัทสามารถเข้าประชุมระบบออนไลน์ได้ด้วย แถมใช้ Zoom ระบบ 2 ภาษา เลือกภาษาฟังได้ปัจจุบัน: วิธีการร่วมประชุม เพียงแค่นำจดหมายเชิญประชุมมาพร้อมกันเอกสารแสดงตัวตน (Passport หรือ บัตรประชาชน) มาในงาน ถ้าให้คนอื่นมาแทนก็ต้องมีฟอร์มตัวแทนร่วมประชุมปัจจุบัน: ในเอกสารเชิญประชุมหลายแห่งมี QR CODE ให้ Download อ่านล่วงหน้า และ QR CODE ที่เป็นเฉพาะข้อมูลของเราเพื่อใช้ SCAN ในงานร่วมประชุม
ตัวอย่างบริษัทที่ส่งจดหมายมาช่วงนี้
VCI (Viet Capital Securities) เชิญประชุม 9 เม.ย. ที่ Park Hyatt...
โลกในมุมมองของ Value Investor 4 เมษายน 64
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผมเข้าใจว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เปลี่ยนเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูล “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่” ของบริษัทจดทะเบียนตั้งแต่ต้นปี 2564 จากที่เคยรายงานชื่อผู้ถือหุ้นทุกคนที่ถือหุ้นตั้งแต่ 0.5% ขึ้นไป เป็นการรายงานเฉพาะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดเพียง 10 อันดับ ผมเองไม่รู้ว่าเหตุผลจริง ๆ คืออะไร แต่ก็รู้สึกว่าข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นคงจะ “น้อยลง” เพราะ “ผู้ถือหุ้นใหญ่” 10 อันดับแรกนั้น ส่วนใหญ่จะมีหุ้นมากกว่า 0.5% ของบริษัท ที่จะมีน้อยกว่า 0.5% ก็มักจะเป็นบริษัทที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนไม่นานและ/หรือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่เจ้าของเดิมไม่ขายหุ้นออกมา เช่นหุ้น AOT OR หรือ BCPG เป็นต้น
การ “ลด” การเปิดเผยข้อมูลชื่อผู้ถือหุ้นครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ปรากฏขึ้นหลังจากบริษัทปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิเข้าประชุมใหญ่ประจำปีผู้ถือหุ้นและการจ่ายปันผล ได้ทำให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยรู้สึก “หงุดหงิด” และเห็นว่าตลาดไม่ควรเปลี่ยน เพราะสำหรับนักลงทุนแล้ว ข้อมูลรายชื่อ “ผู้ถือหุ้นใหญ่” มีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนอยู่ไม่น้อย แม้แต่ในตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ เวลาที่มีการรายงานว่าบัฟเฟตต์เข้าไปลงทุนในบริษัทไหน หุ้นตัวนั้นก็มักจะวิ่งกระฉูด เช่นเดียวกับเวลาที่กองทุนของอาร์คอินเวสเม้นต์เข้าไปลงทุนในหุ้นตัวไหน หุ้นตัวนั้นก็ปรับตัวขึ้นแรงเหมือนกัน เพราะคนที่ “เล่นหุ้นตามเซียน” นั้น มีมากมายโดยเฉพาะในยามที่ตลาดหุ้นมีการเก็งกำไรสูงมากอย่างในช่วงเร็ว...
โลกในมุมมองของ Value Investor 27 มีนาคม 64
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมานั้น คนในแวดวงธุรกิจและเท็คโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดในโลกคนหนึ่งที่ไม่มีใครสามารถปฎิเสธได้ก็คือ อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัทเทสลาและสเปซเอ็กซ์ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและการบุกเบิกทางอวกาศ และก็แน่นอนว่า ตำแหน่งที่เป็นทางการหรือเป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปก็คือ “Chief Executive Officer” หรือ “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” หรือก็คือ ผู้บริหารที่ “ใหญ่ที่สุด” ในสายงานบังคับบัญชาของบริษัท อย่างไรก็ตาม งานหลักที่อีลอนมัสก์ทำในบริษัทซึ่งทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันและมีชื่อเสียงโด่งดังและหุ้นของบริษัทมีค่ามากที่สุดก็คือ การทำหน้าที่เป็นผู้นำในการค้นคว้าทดลองทางด้านเทคโนโลยีของบริษัท บทบาทของมัสก์นั้นมากเสียจนแทบจะเรียกว่า อีลอนมัสก์ก็คือบริษัท และบริษัทก็คืออีลอนมัสก์ คล้าย ๆ กับสมัยที่สตีป จอบส์ ปั้นบริษัทแอปเปิลจนกลายเป็นผู้นำโลกทางด้านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารอีกหลาย ๆ อย่าง
ความเคลื่อนไหว ความคิดและการแสดงออกของมัสก์นั้น มักเป็น “ข่าวใหญ่” เสมอ แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อยที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อนที่เขาประกาศว่าจะเปลี่ยนชื่อตำแหน่งของตนเองจาก CEO เป็น “Technoking of Tesla” หรือ “ราชันเทคโนโลยีแห่งเทสลา” ซึ่งฟังดูราวกับว่ามาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีที่คนรุ่นใหม่นิยมอ่านกัน ไม่เพียงแต่ตัวเขา แต่ CFO...
โลกในมุมมองของ Value Investor 20 มีนาคม 64
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งในตลาดหุ้นไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและดูเหมือนว่าจะเข้มข้นขึ้นในช่วงเร็ว ๆ นี้ก็คือ การเล่นหุ้นเก็งกำไรที่มีฟรีโฟลทต่ำโดยอาศัย “ธีม” หรือเรื่องราวที่คนพูดถึงกันทั่วไปว่าจะเป็น “แนวโน้มใหม่” ของธุรกิจที่จะเติบโตและทำเงินให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่เข้าไปทำหรือเกี่ยวข้องด้วย อย่างเช่นเรื่องของ “กัญชง-กัญชา” ที่เพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายให้เป็นพืชสมุนไพรที่สามารถนำมาผสมหรือสร้างผลิตภัณฑ์ขายให้แก่ผู้ใช้หรือผู้บริโภคได้จากการที่เคยเป็นพืชที่เป็น “ยาเสพติด” ต้องห้ามที่คนรุ่นเก่าหลายคนโดยเฉพาะที่เป็น “ศิลปิน” ชอบที่จะใช้เพื่อช่วยเสริม “จินตนาการ” ในการทำงาน ว่าที่จริงในอดีต ช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ “เสรีนิยม” ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งนำไปสู่การต่อต้านสงครามเวียตนามของเหล่า “ฮิปปี้” หรือ “บุปผาชน” ที่ “ต่อต้านสังคม” โดยการไว้ผมยาวและทำตัวสกปรก “ไร้สาระ” ในช่วงทศวรรษ 1960-1970 หรือเมื่อประมาณ 50-60 ปีมาแล้วนั้น กัญชาก็คือสิ่งที่พวกเขาใช้เป็น “ยากล่อมประสาท” หลัก
ประเทศไทยในช่วงนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศ “อนุรักษ์นิยม” สุด ๆ แต่เราก็มีเด็กวัยรุ่นบางส่วนที่ทำตัวเป็น “ฮิปปี้” อยู่เหมือนกันแม้จะไม่ค่อยรู้ความหมายที่แท้จริงว่าฮิปปี้คืออะไร ส่วนตัวผมเองนั้น ช่วงที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่นเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ปรากฏการณ์ของฮิปปี้ก็เริ่มซาลงแล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะว่าสงครามเวียตนามกำลังจบลง อย่างไรก็ตาม กัญชาก็กลายเป็นสิ่งที่สังคมไทยเริ่มรับรู้ว่าเป็น “ยาเสพติดแบบอ่อนที่ไม่ได้ติดง่าย...
โลกในมุมมองของ Value Investor 13 มีนาคม 64
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ช่วงสิ้นเดือนมกราคมปี 2564 ผมได้เขียนบทความเรื่อง “GameStop สงคราม(หุ้น)ประชาชน” ในบทความนั้นผมได้เล่าเรื่องของหุ้น GameStop หรือ GME ว่าปรับตัวขึ้นมาถึง 19 เท่าในเวลาเพียงเดือนเดียวในช่วงเดือนมกราคม 2564 เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยที่เกาะกลุ่มกันในห้องเกี่ยวกับการลงทุน WallstreetBet ของเวปไซต์ยอดนิยม Reddit ได้เข้ามา “กวาด” ซื้อหุ้น GME เนื่องจากรู้มาว่าหุ้นตัวนี้ถูกชอร์ตเซลจากเหล่า Hedge Fund “นักล่า” จำนวนมากที่เห็นว่า GME กำลังถูก Disrupt จากเทคโนโลยีดิจิทัล ผลของการซื้อหุ้นในตอนนั้นทำให้เฮดจ์ฟันด์ถูก “ต้อนเข้ามุม” หรือถูก “Short Squeeze” ต้องกลับไปซื้อหุ้น GME ในขณะที่ไม่มีหุ้น GME ที่จะเหลือให้ซื้อ ส่งผลให้ราคาขึ้นไปมหาศาล “ชัยชนะ” หรือกำไรก้อนโตตกอยู่กับนักลงทุนรายย่อยแบบไม่น่าเชื่อ เพราะในอดีตนั้น การ “เล่นหุ้น” ถูก “ควบคุม” เกมโดยรายใหญ่ที่มักเป็นสถาบันการลงทุนโดยเฉพาะที่เป็นเฮดจ์ฟันด์
หลายคนบอกว่าโลกของการลงทุนกำลังจะเปลี่ยนไป รายย่อยที่เป็นบุคคลธรรมดานั้น มี “อาวุธ” ...