โลกในมุมมองของ Value Investor 27 เมษายน 67
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เดือนเมษายนปีหน้าจะเป็นปีที่ตลาดหุ้นไทยมีอายุครบ 50 ปี หรือเป็นเวลา 5 ทศวรรษของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น ผมก็อยากจะตรวจสอบหรือทบทวนว่าในแต่ละทศวรรษที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีวิวัฒนาการและผลงานเด่น ๆ อย่างไรบ้าง พอจะกำหนดเป็นภาพใหญ่ ๆ ได้ไหมว่าแต่ละยุคควรจะเรียกว่าอย่างไร
เริ่มเปิดตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนเมษายน 2518 ซึ่งเป็นเวลาที่เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตจากเศรษฐกิจที่ยังเล็กมากและยังเป็นประเทศที่อิงกับการเกษตรเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ด้วยภูมิรัฐศาสตร์ที่โลกแบ่งเป็น 2 ขั้ว คือฝ่ายโลกเสรีนำโดยสหรัฐอเมริกาและคอมมิวนิสต์ซึ่งนำโดยสหภาพโซเวียตรัสเซีย ที่มีการต่อสู้และทำสงครามเย็นแย่งชิงประเทศต่าง ๆ ในโลกมาเป็นฝ่ายของตนเอง ประเทศไทยซึ่งเป็นฝ่ายโลกเสรีก็ได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกาทางด้านเศรษฐกิจและเป็นฐานในการต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์ที่กำลังทำสงครามกันในประเทศเวียตนาม
หนึ่งทศวรรษก่อนปี 2518 เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตสูงมาก อานิสงค์ส่วนหนึ่งจากการช่วยเหลือจากอเมริกาที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้พ้นจากความยากจนที่มักเป็นบ่อเกิดให้คนสนใจในลัทธิสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์ อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือการใช้จ่ายทางทหารของสหรัฐในประเทศไทยที่เป็นฐานทัพอากาศที่สำคัญของอเมริกาในการรบกับคอมมิวนิสต์ในเวียตนาม เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากในช่วง 10 ปี ตั้งแต่ปี 2508 ถึง 2518 GDP โตเฉลี่ยถึงปีละประมาณ 7.8% และเริ่มมีการพัฒนาประเทศจากเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องการ “ตลาดทุน” มาสนับสนุน และนั่นก็คือการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างเป็นทางการ
ตลาดหลักทรัพย์เริ่มเปิดการซื้อขายหุ้นด้วยดัชนีที่ถูกกำหนดไว้ที่ 100 จุด ในวันสิ้นเดือนเมษายน 2518 ซึ่งบังเอิญตรงกับวันที่ไซ่ง่อน เมืองหลวงของประเทศเวียตนามใต้หรือเมืองโฮจิมินซิตี้ในปัจจุบัน “แตก”...
💊 มุ่งสู่อนาคตการดูแลสุขภาพ:▪️ FPT Retail (FRT) กำลังเปลี่ยนโฉมเป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ▪️ ครอบคลุม: ป้องกัน (ศูนย์ฉีดวัคซีน Long Chau ปัจจุบันมี 50 แห่ง)วินิจฉัย รักษา (ร้านขายยา Long Chau >1600 แห่งสิ้นปีคาด 1900 แห่ง)ฟื้นฟูสมรรถภาพ การดูแลที่บ้าน (Long Chau247) และการประกัน▪️ ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในระบบนิเวศด้านสุขภาพ
—————💊 กลยุทธ์หลัก:▪️ ใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของ FPT Retail (Long Chau)▪️ นำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
▪️ ขายหุ้น 10% ให้กับหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์(อัตราส่วนเงินทุนต่อสินทรัพย์รวม 13% ในปี 2566 นั้นไม่ดีนัก จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพื่อช่วยให้มีโครงสร้างทางการเงินที่ดีขึ้น ลดแรงกดดันด้านหนี้ และมีเงินมากขึ้นสำหรับการลงทุนระยะยาว)
▪️ ปิดร้านค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์▪️ ขยายธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน▪️ สนับสนุนบริการ Long Chau 247
—————💊 ผลประกอบการไตรมาส 1/2567:▪️ รายได้เพิ่มขึ้น 17% ขับเคลื่อนโดย FPT...
จุดเริ่มต้นตลาดหุ้นไทย:
เริ่มลงทุนหุ้นไทย ปี 2552 โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เป็นแรงบันดาลใจลงทุนระยะยาว เน้นหุ้นปันผล คัดเลือกหุ้นกลุ่มค้าปลีก โรงพยาบาล สนามบินประสบความสำเร็จจากการลงทุนหุ้นไทยช่วงหลังวิกฤติซับไพรม์
การลงทุนในหุ้นเวียดนาม:
เริ่มศึกษาตลาดหุ้นเวียดนาม หลังฟังรายการของ ดร.นิเวศน์ปี 2558 ตัดสินใจบินไปโฮจิมินห์ เพื่อลงทุนหุ้น
อุปสรรค:
ข้อมูล บทวิจัย เป็นภาษาเวียดนาม เข้าถึงยากนักลงทุนรายย่อยเวียดนาม 85% ใช้ปัจจัยเทคนิค ลงทุนระยะสั้นตลาดผันผวน มากกว่าตลาดหุ้นไทย
ข้อดี:
ตลาดหุ้นเวียดนามมีศักยภาพสูง เติบโตเร็วมูลค่าหุ้นหลายตัวน่าสนใจกลยุทธ์:หลีกเลี่ยงการเทรดดิ้ง เน้นลงทุนระยะยาวกระจายความเสี่ยง เลือกหุ้นหลากหลายกลุ่มพิจารณาธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน:
กระจายความเสี่ยง:ลงทุนหุ้นเวียดนามมากกว่า 5 ตัวพิจารณาลงทุน ETF / DR เช่น VN30ETF Diamond ETFและกองทุนรวม (SSF / RMF) ที่ลงทุนหุ้นเวียดนามเพื่อรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเลือกหุ้น:หุ้นที่เคยเป็น Super Stock ในไทยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหุ้นที่ราคาตกลงจากข่าวหรือความกลัว
ข้อควรระวัง:
ตลาดหุ้นเวียดนามมีความผันผวนสูง
อ่านบทความเต็ม: https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/499-tsi-vietnam-stocks-investment-experience
โลกในมุมมองของ Value Investor 30 มี.ค. 67
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
วันที่ศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 ปริมาณการซื้อขายหุ้นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยลดลงมาเหลือเพียง 26,472 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ผมไม่เห็นมานานมาก น่าจะเป็นหลาย ๆ ปี และนั่นเป็นตัวเลขที่ “น่าตกใจ” แม้ว่าเราเพิ่งจะเพิ่มเวลาการซื้อขายหุ้นอีกวันละครึ่งชั่วโมงเมื่อไม่กี่วันมานี้ เพราะปริมาณการซื้อขายหุ้นของตลาดหุ้นไทยเมื่อไม่กี่ปีก่อนบางวันเคยขึ้นไปสูงถึงวันละแสนล้านบาท และถ้านับจากต้นปีนี้ ปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันเฉลี่ยก็ยังอยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาทเศษ
ตรงกันข้าม ปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันของตลาดหุ้นเวียดนามตั้งแต่ต้นปีนั้นสูงถึงประมาณ 30,000 ล้านบาทไปแล้ว และเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากตัวเลขก่อนหน้านั้น ในขณะนี้ ตลาดหุ้นเวียดนามมีปริมาณการซื้อขายเป็นอันดับสองในอาเซียนรองจากประเทศไทยแล้ว และถ้าแนวโน้มยังเป็นแบบนี้ต่อไปอีกซักระยะหนึ่ง ผมคิดว่าตลาดหุ้นเวียดนามจะกลายเป็นอันดับหนึ่งในเร็ววัน ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวเลขนักลงทุนส่วนบุคคลรายย่อยของเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาตลอด และขณะนี้น่าจะมากกว่านักลงทุนรายย่อยไทยไปแล้วที่ประมาณ 7.5 ล้านราย
ปีที่แล้ว ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย “ย่ำแย่ที่สุด” และติดลบไปประมาณ 15.2% ในขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนาม “ดีที่สุด” บวกไปประมาณ 12.2% และตั้งแต่ต้นปีนี้เพียงประมาณ 3 เดือน ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามก็ ดีที่สุด “อันดับ 2 ของโลก” บวกไปแล้วประมาณ 13.6% ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังติดลบประมาณ...
หุ้น MSN - Masan Group บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม #หุ้นเวียดนาม #รู้หุ้นเวียดนามกับคนเวียดนาม VVI Membership 🇻🇳 https://class.vietnamvi.com/
https://www.youtube.com/embed/q1rFTf0D25k
VP Bank แบงค์ใหญ่ ขวัญใจรายย่อย โดดเด่นเรื่อง Consumer Finance #หุ้นเวียดนาม#รู้หุ้นเวียดนามกับคนเวียดนาม VVI Membership 🇻🇳 https://class.vietnamvi.com/
https://youtu.be/Ck-raipi_dE?si=GnEqr212-KRnT-Ss
2 ทริป 2 สไตล์ : ตะลุยเวียดนามพร้อมอัพเดทความรู้ด้านการลงทุน
🔸 โฮจิมินห์ซิตี้ 2-4 มิ.ย. 2024Tour Learn Earn Moreเข้มข้นเรื่องหุ้น ณ เมืองเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของเวียดนาม@Sheraton Saigon Hotel โรงแรม 5 ดาวกลางเมือง(เริ่มต้นที่ 17,900 บาท)
🔸 ดานัง 7-9 มิ.ย. 2024Stocks on the beachดูเศรษฐกิจ-พฤติกรรมคนเมืองรอง ณ เมืองท่องเที่ยวสำคัญที่สุดเวียดนาม@Peninsula Danang Hotel & Mercure Danang French Village Bana Hills โรงแรม 5 ดาว ริมทะเล (เริ่มต้นที่ 18,900 บาท)
✅ เจาะลึก ตรงจุด ด้วยประสบการณ์ 9 ปี ของ VVI ที่เน้นการลงทุนในเวียดนามโดยเฉพาะ✅ Partner ครั้งแรก กับ Dragon...
โลกในมุมมองของ Value Investor 23 มีนาคม 67
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เวลาไปงานชุมนุม งานเลี้ยงหรืองานพิธีต่าง ๆ ที่ประกอบไปด้วยเพื่อนที่อยู่หรือเคยอยู่ในสถาบันเดียวกัน หรือเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน หรือเป็นเพื่อนในวงสังคมเดียวกัน หรืออยู่ในหมู่คนที่มีความสนใจหรือเป็นแฟนคลับอะไรบางอย่างเหมือนกัน เรามักอยากจะได้ฟังหรือได้ร้องเพลงที่เราชอบที่ทำให้เรามีความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความสุข มีพลัง มีความหวังและมองโลกในแง่ดี เพลงนั้นหรือเพลงเหล่านั้นก็คือเพลงที่มีความหมายและคนที่อยู่ในกลุ่มก็คิดและเชื่อแบบเดียวกัน ลองมาไล่ดูอย่างคร่าว ๆ ว่ามีงานชุมนุมอะไรบ้างที่มักจะมีการร้องเพลงและเพลงอะไรบ้างที่เป็นที่นิยมกันกว้างขวางต่อเนื่องยาวนาน
เริ่มตั้งแต่งานเลี้ยงศิษย์เก่าโรงเรียนและวิทยาลัยซึ่งก็เป็นมาตรฐานที่ทำเหมือนกันหมด นอกจากเพลงประจำสถาบันแล้ว แต่ละแห่งก็อาจจะมีเพิ่มเพลง “ยอดนิยม” ที่มักจะมีและร้องกันเป็นประจำ อย่างของผมก็คือเพลง “ปราสาทแดง” ที่พูดถึงตึกสีแดงเก่าแก่ทรง “วินด์เซอร์” ที่ทุกคนรู้สึกว่าเป็นสัญลักษณ์ของคณะ ทำเพลงและขับร้องโดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ที่เด่นดังที่สุดสมัย 50 ปีก่อน
ตั้งแต่เด็ก ผมถูกสอนให้ร้องเพลง “สามัคคีชุมนุม” เวลาฝึกลูกเสือตั้งแต่ชั้นประถม ซึ่งก็เป็นเพลงเวอร์ชั่นภาษาไทยของ “โอลด์แลงไซน์” เพลงเก่าอายุกว่าสองร้อยปีที่เล่นหรือร้องกันทั้งโลกจนถึงวันนี้ เพลงนี้เป็นเพลงที่มักจะร้องกันวันสิ้นปีของฝรั่ง เป็นวันที่รำลึกถึงวันเก่า ๆ เพื่อนเก่า ๆ ที่ไม่ได้เจอกันนาน เป็นเพลงแห่ง “มิตรภาพ” และการทำความดี
อย่างเช่นคนทั้งโลกมาร่วมกันทำสิ่งที่ดี ๆ การช่วยคนอดหยากหิวโหย หรือช่วยกันรักษ์โลกอะไรแบบนั้นก็จะเปิดหรือร้องเพลง “Auld Lang Syne” นอกจากนั้น งานจบการศึกษาและรับปริญญาของสถาบันการศึกษาก็มักจะเปิดเพลงนี้ เช่นเดียวกับงานศพที่จะเป็นการรำลึกถึงเวลายาวนานที่ผ่านไปของเพื่อนและคนที่ตายอะไรแบบนั้น และก็ต้องถือว่าเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงยอดนิยมตลอดกาลเพลงหนึ่ง
เพลงการชุมนุมที่มีการเปิดหรือร้องกันหลาย ๆ...
🌟 10 หุ้นเด็ดจาก Special Guest VVI4 เดือน ผ่านไปมาดูกัน 🌟
เทียบผลตอบแทนหุ้น 10 ตัว ที่ Special guest วีไอLive วันที่ 6 พ.ย. 66 ในกลุ่ม VVI Membership บอกว่าน่าสนใจ
เน้นดู Macro + VN Consumer + FDI + ผู้บริหาร ( หุ้นที่เลือกตามภาพ Post นี้ )
จากวันนั้น - วันนี้ (15 มี.ค.67) 4 เดือนเฉลี่ยหุ้น 10 ตัว ที่วีไอเลือก แซงทั้ง Index และ ETF!
หุ้นที่พี่วีไอเลือก +28.9%เทียบ Diamond ETF +24.2%VN30 ETF +15.5%VN Index +17.4%
ส่วนตัวแอดว่าหากมีเวลาการลงทุนแบบผสมผสาน = เลือกหุ้นเอง...
โลกในมุมมองของ Value Investor 17 มีนาคม 67
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ตั้งแต่เป็นนักลงทุนเต็มตัวแบบ VI หลังวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ผมก็ใช้พอร์ตลงทุนแทบจะ “แบบเดียว” มานานมากแทบจะเกือบ 20 ปี นั่นก็คือ ลงทุนเฉพาะในหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเป็นการลงทุนเกือบ 100% แทบจะตลอดเวลา วิธีการลงทุนก็คือการเลือกหุ้นเป็นรายตัวแบบ “VI” พอร์ตเป็นแบบ “Focus” หรือเน้นการถือหุ้นน้อยตัว โดยที่หุ้นตัวใหญ่ ๆ จะมีแค่ 6-7 ตัว ซึ่งคิดรวมกันเป็นประมาณ 75% ของพอร์ต ที่เหลือซึ่งก็มีไม่เกิน 10 ก็จะเป็นหุ้นตัวเล็กที่ไม่มีนัยสำคัญกับผลการดำเนินงานของพอร์ตลงทุน อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงบ้าง หุ้นตัวที่ใหญ่ที่สุดของพอร์ตก็จะไม่เกิน 50% ของพอร์ตในระยะยาวเกิน 4-5 เดือน โดยทั่วไปแล้ว ตัวใหญ่ที่สุดก็มักจะไม่เกิน 30-40% และหุ้นตัวใหญ่อันดับ 2 ก็มักจะใหญ่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของตัวแรก
แนวทางการจัดพอร์ตแบบนั้น ได้ผลดีมากมาจนถึงประมาณเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วที่ตลาดหุ้นไทย และเฉพาะอย่างยิ่งหุ้น VI ที่เป็นแนว “ซุปเปอร์สต็อก” เริ่มทำผลงานตกต่ำลงมากและอนาคตก็ดูไม่สดใสตามภาวะเศรษฐกิจของไทยที่ถดถอยลงเพราะโรคโควิด-19 และการที่คนไทยแก่ตัวลงมาก ซึ่งส่งผลให้หุ้นของบริษัทที่แข็งแกร่งและโดดเด่น ...