โลกในมุมมองของ Value Investor 16 กันยายน 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผมเป็นคนที่ชอบอ่าน Quote หรือ “คำคม” ของคนที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะในเรื่องที่ผมสนใจ ผมคิดว่ามันให้ข้อคิดที่ดีและทำให้เราจำได้เวลาที่ผมประสบกับเรื่องนั้น ผมจะได้คิดตรึกตรองอย่างลึกซึ้งขึ้น และ “คำคม” เกี่ยวกับการลงทุนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมชอบและก็มักจะจำได้ แม้ว่าจะไม่ตรงกับคำพูดของคนนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมก็มักจะจำเนื้อหาหลักของมันได้ ลองมาดูกันว่า “เซียนหุ้น” หรือนักเลือกหุ้นชั้นนำเขาพูดหรือคิดอะไรกันบ้าง
คนแรกที่ผมคิดและจดจำเสมอเวลาจะลงทุนในหุ้นแต่ละตัวก็คือคำคมของ วอเร็น บัฟเฟตต์ที่ว่า “กฎข้อแรกของการลงทุนก็คือ อย่าขาดทุน และกฎข้อสองของการลงทุนก็คือ อย่าลืมกฎข้อแรก และนั่นก็คือกฎทั้งหมดที่มี” นี่เป็นกฎที่ดูไม่ได้มีอะไรโดดเด่น เพียงแต่เป็นการเล่นคำ อย่างไรก็ตาม เพราะมันเป็นคำพูดของบัฟเฟตต์ เซียนหุ้นหมายเลข 1 ของโลก มันจึงมีความหมายและกลายเป็นคำคมที่คนรู้จักมากที่สุด—แม้ว่าน้อยคนจะปฏิบัติติตามจริง ๆ
สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่านี่เป็นหลักการที่ผมยึดถือมากที่สุด ผมเชื่อว่าเขาพูดอย่างมีความหมายและจริงจัง เบื้องหลังของมันก็คือ การลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์ของบัฟเฟตต์ทุกครั้งจะต้องมีการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในด้านที่ว่ามันจะมีโอกาสผิดพลาดและทำให้ขาดทุนในระยะยาวหรือไม่ ถ้ามี เขาก็จะไม่ซื้อ แม้ว่าโอกาสที่จะกำไรมหาศาลจะสูงกว่า และนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งว่าเขาจะลงทุนในหุ้นจำนวนน้อยตัวมากเมื่อเทียบกับนักลงทุนอื่นที่มีพอร์ตใหญ่เช่นกัน และก็แทบจะไม่ขายหุ้นเลยหลังจากซื้อแล้ว
สิ่งที่ทำให้ผมเชื่อหลักคิดของบัฟเฟตต์ข้อนี้ก็คือ สถิติการลงทุนของบัฟเฟตต์ในช่วงเวลากว่า 70 ปี ของเขานั้น มีหุ้นหรือหลักทรัพย์ที่เขาลงทุนและต้องขายขาดทุนน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วหุ้นแต่ละตัวจะกำไรมหาศาลเนื่องจากเขาถือมายาวนาน แน่นอนว่ามีหุ้นหลายตัวที่ “น่าผิดหวัง”และเขาต้องขายออกไป ...
โลกในมุมมองของ Value Investor 9 กันยายน 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
สมัยเริ่มเป็น VI ใหม่ ๆ คือประมาณ 30 ปีมาแล้ว ผมเชื่อในหลักการลงทุนแบบที่เรียกว่า “Bottom Up” คือการลงทุนที่เน้นที่ตัวกิจการเป็นหลัก และไม่ได้สนใจเรื่องของภาพใหญ่หรือที่เรียกว่าภาพ “Macro” ที่บอกว่าเราควรต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ภาพของเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมก่อนว่าเอื้ออำนวยแค่ไหน จากนั้นจึงมาดูตัวบริษัทว่าเราควรลงทุนหรือไม่ บางคนเรียกการมองหาหุ้นแบบนี้ว่า “Top Down” โดยที่แนวความคิดแบบนี้มาจากความเชื่อที่ว่า ถ้าภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไม่เอื้ออำนวย โอกาสที่บริษัทจะเจริญรุ่งเรืองก็จะยาก
แนวความคิดเรื่องการลงทุนโดยไม่ต้องสนใจภาวะเศรษฐกิจเลยนั้น VI จำนวนมากรวมถึงผมด้วยในยุคบุกเบิกของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยผมคิดว่าสิ่งสำคัญส่วนหนึ่งมาจากหนังสือการลงทุนยอดนิยมของปีเตอร์ลินช์ 2 เล่มนั่นก็คือ “One Up on Wall Street” และ “Beating the Street” ซึ่งปีเตอร์ลินช์บอกว่าการเลือกหุ้นลงทุนของเขานั้น เขาแทบไม่อ่านและไม่สนใจเรื่องของการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจเลย เขาบอกว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เราควรมองแต่เฉพาะตัวกิจการว่ามันจะเติบโตไปได้มากน้อยแค่ไหน ดูจากสินค้าและความนิยมของลูกค้าในท้องตลาด พูดง่าย ๆ ฟังจาก “ชาวบ้าน” ดีกว่าฟังนักเศรษฐศาสตร์
ถัดจากปีเตอร์ ลินช์ หนังสือที่เขียนเกี่ยวกับแนวคิดและการลงทุนของวอเร็น บัฟเฟตต์ ก็ตามมา ดูเหมือนว่าบัฟเฟตต์เองนั้น ก็แทบไม่ได้ใส่ใจกับภาวะเศรษฐกิจหรือภาพใหญ่อะไรทั้งสิ้น จริงอยู่ ...
เปิดแล้วทริปสัมมนา VVI: Tour Learn Earn More in Ho Chi Minh Cityเที่ยวไป-หาหุ้นไป22-24 ต.ค. 2566
สมัครทริปสัมมนา VVI HCMC 2023 ได้เลยhttps://forms.gle/G2fvLSAecgfKP26Z7
=========HIGHLIGHT=========– ได้เวลาปิดจอ แล้วไปเที่ยวหาหุ้นเวียดนามกับ VVI
– Update สาระความรู้ ศึกษาธุรกิจ สภาพการแข่งขันของหุ้นเวียดนามไปพร้อมกับการท่องเที่ยวเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญสุด Ho Chi Minh City
– เรียนรู้-แลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนกับเพื่อนนักลงทุน คุยกันสดๆ พร้อมใช้ชีวิตร่วมกัน
– พบบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ถามตรงกับผู้บริหาร
– Company visit ชมธุรกิจ บริษัทที่น่าสนใจในตลาดหุ้น
- สถานที่จัดสัมมนา Sheraton Saigon Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาว กลางเมือง ทั้งสะดวกทั้งใกล้สถานที่สำคัญในการหาหุ้น และอาหารอร่อย
– อำนวยความสะดวกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเปิดพอร์ตตรงกับโบรกเกอร์ที่เวียดนาม
– อิสระในการเดินทางและจองที่พัก (ยินดีช่วยจองที่พักและประสานการเดินทางสำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคยกับเวียดนาม)
– ทริปนี้สามารถขอใบกำกับภาษีได้
- พิเศษ Live พูดคุย ทำความรู้จัก พร้อมติวเข้มแนะนำสิ่งที่นักลงทุนต้องดูระหว่างทริป...
โลกในมุมมองของ Value Investor 2 กันยายน 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
การโกงหรือฉ้อฉลในตลาดหุ้นนั้น เป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ “VI” หรือนักลงทุนทั่วไปเองต้องระมัดระวังไม่ให้ “ถูกโกง” เพราะความเสียหายนั้นมักจะรุนแรงมาก บางครั้งก็เป็น “หายนะ” เพราะราคาหุ้นอาจจะตกลงมาเกิน 30-40% ขึ้นไป บางตัวหุ้นอาจจะกลายเป็น 0 เพราะบริษัท “ล้มละลาย” เนื่องจาก “ถูกจับ” ได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว คนก็มักจะไม่รู้ว่าตนเอง “ถูกโกง” โดยคนโกงที่วางแผนการโกงอย่างแนบเนียนจนคนอื่นไม่รู้และไม่มีใครสนใจที่จะตรวจสอบ
การโกงอย่างแนบเนียนและมีศิลปะนั้น หลักการใหญ่ที่สำคัญก็คือ ต้องโกงคนจำนวนมากโดยที่แต่ละคนจะถูกโกงหรือเสียหายไม่มากพอที่จะฟ้องศาลหรือหน่วยงานอื่นที่จะเอาเงินคืน และนั่นก็คือ นักลงทุนหรือคนเล่นหุ้นที่มักจะเสียเงินหรือได้เงินจำนวนหนึ่งอยู่แล้วเป็นประจำในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
ข้อสองก็คือ จะต้องพยายามทำให้คนถูกโกงไม่รู้ว่าตนเองถูกโกง แต่คิดว่าเป็นความผิดพลาดในการวิเคราะห์และประเมินมูลค่าของหุ้น ที่ดียิ่งกว่าก็คือคิดว่าสถานการณ์แวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปทำให้หุ้นที่ซื้อขาดทุนอย่างหนัก
สุดท้ายก็คือ การโกงนั้นทำได้ง่ายและมักไม่มีคนสงสัย และดังนั้นก็จะไม่มีคนมาจับ หรือถึงจะพยายามจับก็หาหลักฐานยากเพราะอาจจะอยู่ต่างประเทศ หรือถึงเจอก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการโกงอย่างชัดเจน
ทั้งหมดนั้น ก็นำไปสู่การโกงโดยการ “ปั่นหุ้น” ที่ “ดี” ในตลาดหลักทรัพย์ โดยหุ้นที่ “ดี” ดังกล่าวนั้น ก็จะเป็นหุ้นที่เล่นกันในหมู่นักลงทุน “VI ระดับเซียน” อาจจะเพราะว่ามันเป็นหุ้นที่ดีมากในสายตาของ VI ที่วิเคราะห์ดูพื้นฐานของกิจการและข้อมูลผลประกอบการที่ “ดียอดเยี่ยมและเติบโตอย่างน่าทึ่ง” โดยที่ข้อมูลทั้งหมดนั้น อาจจะไม่ใช่ของจริง ...
ทริปสัมมนา VVI: TOUR LEARN EARN MOREIN HO CHI MINH CITY
=========HIGHLIGHT✨
– Update สาระความรู้ ศึกษาธุรกิจ สภาพการแข่งขันหุ้นไปพร้อมกับการท่องเที่ยวเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญสุดของเวียดนาม
– เรียนรู้-แลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนกับเพื่อนนักลงทุน คุยกันสดๆ พร้อมใช้ชีวิตร่วมกันในต่างแดน
– พบบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ถามตรงกับผู้บริหาร
– Company visit ชมธุรกิจ บริษัทที่น่าสนใจในตลาดหุ้น
สถานที่จัดสัมมนา Sheraton Saigon Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาว กลางเมือง ทั้งสะดวกทั้งใกล้สถานที่สำคัญในการหาหุ้น และอาหารอร่อย
– อำนวยความสะดวกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเปิดพอร์ตตรงกับโบรกเกอร์ที่เวียดนาม
พิเศษ Live พูดคุย ทำความรู้จัก พร้อมติวเข้มแนะนำสิ่งที่นักลงทุนต้องดูระหว่างทริป ผ่าน Zoom ก่อนการเดินทาง
=========
ประกาศรายละเอียดทริป 6 ก.ย.VVI Membership เปิดรับก่อนพร้อมส่วนลด 8 ก.ย. (10.00 น.) เป็นต้นไปบุคคลภายนอก เปิดรับ 9 ก.ย. เป็นต้นไป
(กรุณาอย่าจองตั๋วเครื่องบินและรร.ก่อนสมัคร)
ผ่านไปแล้วกับงานรวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนาม 2023ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนรวมในงานสัมมนานี้
ขอบคุณวิทยากรดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากรคุณเอก ธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ (ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศเวียดนาม)คุณณัฐ ณัฐกิติ์ สุนทรบุระคุณบอล ภาคย์ภูมิ ศิริหงษ์ทองคุณดรีม Krittayaporn Dhadasih ( Head of Business Development & Global Investment, Global Trading Department, Finansia Syrus )คุณ Kelly Trang Nguyen ( Assistant Vice President, Global Trading Department, Finansia Syrus )Mr. Eric Levinson ( Head of Business Development, VinaCapital )Mr. Manh Nguyen ( Co-Portfolio Manager, VinaCapital )Mr. Le...
โลกในมุมมองของ Value Investor 26 สิงหาคม 66
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ในมุมมองของผมที่เป็น “นักลงทุนอาชีพ” หรือคนที่ทำงานหลักเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มาหลายสิบปี และก่อนหน้านั้นก็ทำงานเป็นวิศวกรในโรงงาน เป็นพนักงานด้านการวางแผนและบริหารเงินของกิจการให้บริการเงินกู้และเงินร่วมทุนขนาดใหญ่ และต่อมาก็ทำงานในบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ให้บริการเป็นที่ปรึกษาและระดมเงินให้กับบริษัทต่าง ๆ ทั้งที่เป็นบริษัทเอกชนและบริษัทในตลาดหุ้น ผมก็รู้สึกว่า งานแต่ละอาชีพนั้นมีลักษณะและคุณสมบัติไม่เหมือนกัน เฉพาะอย่างยิ่งก็คือ มีความสุขและความทุกข์ไม่เท่ากัน เช่นเดียวกับที่มีรายได้ที่แตกต่างกัน
เมื่อคิดย้อนกลับไป ถ้าผมรู้ว่าเราควรจะเลือกก่อนว่าอาชีพไหนที่จะให้ความสุขมากกว่าและได้เงินดีกว่าสำหรับคนที่มีคุณสมบัติแบบที่ผมเป็น ผมก็คงจะไม่ทำงานแบบนั้นทั้งหมด ผมคงจะพยายามหา “อาชีพในฝัน” ทำแล้วมีความสุข และได้เงินมาก ๆ ตั้งแต่แรก ไม่มาเริ่มทำเมื่ออายุกว่า40 ปี ที่ผม “บังเอิญ” ต้องมาเป็น “นักลงทุนอาชีพ” หลังจากที่ต้องตกงานในวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 และก็พบว่า อาชีพนักลงทุนนั้นก็คือ “อาชีพในฝัน” ที่ทำแล้วมีความสุข อยากทำทุกวัน เหมือนกับที่วอเร็น บัฟเฟตต์พูดว่า เขาแทบจะ “เต้นแท็ปไปทำงาน” ทุกวัน
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การลงทุนก็อาจจะไม่ใช่ “อาชีพในฝัน” ที่ทำแล้วมีความสุขและได้เงินมาก เพราะการทำอาชีพอะไรก็ตาม มันก็จะต้องเหมาะกับคุณสมบัติและนิสัยและความชอบของแต่ละคนด้วย อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ของผม งานหรืออาชีพที่ผมคิดว่าน่าจะมีความสุขหรือมีทุกข์น้อยกว่า และคนไม่ต้องมี IQ สูงก็ทำได้ น่าจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
ข้อแรกก็คือ มันต้องเป็นงานที่ ...
โลกในมุมมองของ Value Investor 19 สิงหาคม 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ถ้าจะถามว่าวัน ๆ หนึ่งผมทำอะไรบ้าง คำตอบของผมก็คือ ส่วนใหญ่มากก็คือ “บริหารเงิน” หรือจริง ๆ ก็คือเรื่องของการลงทุน ซึ่งก็รวมถึงการอ่าน พูด และเขียน นอกจากนั้น เวลา “ว่าง” หรือทำอย่างอื่นเช่น การเดินช้อปปิงก็มักจะเป็นเรื่องของการ “คิด” ไปเรื่อย ๆ ในประเด็นที่หลากหลายมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของมนุษย์และสังคมโดยเฉพาะเรื่องของเหตุผลว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นในประเทศไทยและในโลก และจะเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งหมดนั้นก็มักจะอิงอยู่กับ “พื้นฐานของมนุษย์” ที่ “ถูกควบคุมโดยยีน” และโดยมี “ประวัติศาสตร์” เป็นสิ่งที่จะช่วยยืนยันความคิดนั้น
แต่สิ่งที่ผมทำมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปและผมมีอายุมากขึ้นก็คือ การ “บริหารสุขภาพ” ซึ่งจนถึงวันนี้ก็กลายเป็น “สิ่งสำคัญที่สุด” เพราะโอกาสที่จะเจ็บป่วยหรือตายสูงขึ้นมากเมื่อคนมีอายุมากขึ้นถึงจุดหนึ่ง ถ้าไม่ทำอะไร เราอาจจะป่วยหนักและฟื้นตัวกลับไม่ได้เหมือนตอนที่เป็นหนุ่มสาว ความสุขจะหายไปมากมาย ถ้าไม่ทำอะไรก็อาจจะตายเร็ว และเงินที่มีอยู่ก็ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไป มาดูกันว่าผมมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องของการบริหารสุขภาพอย่างไร
เบื้องต้นเลยผมเห็นว่าการบริหารสุขภาพและการบริหารเงินนั้น เป็นศาสตร์และศิลป์พอ ๆ กัน นั่นก็คือ จะต้องประกอบไปด้วยหลักการใหญ่และสำคัญ...
เหลือแค่ 2 วัน พบกันในสัมมนา รวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนาม กับคำถามตรงไปตรงมาที่ต้องรอคำตอบ จาก ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และเหล่ากูรูหุ้นเวียดนาม
กลยุทธ์หุ้นเวียดนาม จัดพอร์ตยังไงให้ไปต่อ
ผ่านไปแล้วเกือบปีซื้อขายหุ้นอะไรกันไปบ้าง
5 ชื่อหุ้นเวียดนามที่ชอบสุด เพราะอะไร
มุมมอง 5 หุ้นยอดฮิตขวัญใจชาวไทย MWG BHX VRE FPT TNH ชอบไม่ชอบตรงไหน
ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเวียดนาม ตอนนี้ปัญหาจบยังกับพี่เอก คุณเอก ธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ (ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศเวียดนาม) และกองทุนยักษ์ใหญ่ VinaCapital
พบกับกองทุนยักษ์ใหญ่ในเวียดนามเจ้าของ Diamond ETF, VN30 ETF, MidCap ETF โดย Dragon Capital กับการอัปเดทหุ้นใน ETF
และพบกับกองทุนสัญชาติเวียดนาม SSIAM ตลอดจนนักวิเคราะห์จาก SSI และมุมมองหุ้นเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จาก Finansia Syrus
พลาดโอกาสนี้อีกหนึ่งปีถึงจะได้เจอกัน
อ่านรายละเอียดและสมัครที่
https://forms.gle/s7c8eue4WNyrRpaC8
โลกในมุมมองของ Value Investor 5 สิงหาคม 66
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
สภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่แทบจะไม่ให้ผลตอบแทนติดต่อกันมานับ 10 ปี นั้น ทำให้นักลงทุน VI หลายคนเริ่มย้ายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นอื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ บางคนและแม้แต่ที่เป็น “VI พันธุ์แท้” ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างงดงามและ “รวยไปแล้ว” จากตลาดหุ้นไทย ขณะนี้มีเงินลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากกว่าตลาดหุ้นไทยไปแล้ว ส่วนตัวผมเองก็มีหุ้นต่างประเทศเกือบ 30% แล้วและน่าจะเพิ่มขึ้นไปได้อีก อานิสงค์สำคัญส่วนหนึ่งก็คือ มูลค่าของหุ้นเพิ่มขึ้นตามดัชนีหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้นเร็วกว่าตลาดหุ้นไทยมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การ “ย้ายถิ่นฐานไปสู่สถานที่อุดมสมบูรณ์กว่า” ของคนหรือมนุษย์นั้น เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีสิ่งมีชีวิตและมนุษย์ขึ้นในโลก จากประวัติศาสตร์ของคนอย่างพวกเราที่ถูกเรียกว่า “Homo Sapiens” หรือ “มนุษย์ผู้ชาญฉลาด” นั้น พวกเรากำเนิดขึ้นในอาฟริกาและน่าจะอยู่ที่นั่นมาหลายแสนปี แต่แล้ว ในช่วงเวลาน่าจะประมาณ 100,000 ถึง 6-70,000 ปี ที่ผ่านมา พวกเราก็เริ่ม “อพยพครั้งใหญ่” ออกจากอาฟริกาและกระจายไปทั่วโลก โดยทวีปสุดท้ายที่ไปถึงน่าจะเป็นอเมริกาเหนือเมื่อประมาณอย่างน้อย 20,000 ปีที่แล้ว เพราะนั่นเป็นสถานที่ที่ “ไปยากที่สุด”
การที่ Homo Sapiens ย้ายถิ่นฐานออกจากอาฟริกานั้น ...