โลกในมุมมองของ Value Investor 29 กรกฎาคม 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
วันที่ 1 มกราคม ปี 2008 บัฟเฟตต์ประกาศ “ท้าพนัน” คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมบริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งเขาบอกว่าตั้งค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุน “แพงเกินความสามารถ” และส่วนใหญ่ก็จะใช้สูตร “2-20” คือค่าธรรมเนียมแน่นอนที่ 2% ต่อปีของเงินกองทุนหรือ NAV และอีก 20% ของกำไรในแต่ละปี โดยที่บัฟเฟตต์ท้าว่า ผลตอบแทนของเฮดจ์ฟันด์จะแพ้ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนอิงดัชนีที่ไม่ต้องมีคนเลือกหุ้น และเขาเลือกกองทุน S&P 500 ของแวนการ์ดกรุปที่คิดค่าธรรมเนียม “ต่ำที่สุด” ที่ 0.04% ต่อปี
คนที่รับคำท้าคือ Ted Seides ผู้ก่อตั้งและบริหารกองทุน Protégé ซึ่งเป็น “Fund of Fund” คือกองทุนที่ลงทุนในเฮดจ์ฟันด์อื่น ๆ โดย จะมีการวัดผลตอบแทนเมื่อครบ 10 ปี ตอนสิ้นปี 2017 เงินพนันคือ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และนี่ก็คือเรื่องที่จะ “ท้าพิสูจน์”...
โลกในมุมมองของ Value Investor 22 ก.ค. 66
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ตั้งแต่เริ่มเป็น VI เมื่อเกือบ 30 ปี ก่อน ความคิดในการมองโลกของผมหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก แน่นอนว่าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยทันทีทุกอย่าง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ ในแบบของ “Evolution” หรือเป็น “วิวัฒนาการ” ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแบบแทบจะไม่รู้ตัวในช่วงแรก ๆ จนถึงจุดหนึ่งก็จะพบว่าตนเองนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก และต่อไปนี้ก็คือ ความคิด 3 เรื่องในการมองโลกที่ไม่เหมือนเดิมเมื่อเริ่มหันมาเป็น “VI พันธุ์แท้”
เรื่องแรกก็คือสิ่งที่ผมพูดมาบ่อย ๆ ว่าช่วย “เปลี่ยนชีวิต” ของผมมากที่สุด นั่นก็คือ การเปลี่ยนจาก “นักสู้” เป็น “นักเลือก” โดยที่ “นักสู้” ก็คือคนที่ทุ่มเทความพยายามให้กับสิ่งที่ตนเองทำอย่าง “สุดกำลัง” เช่น ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จโดยเฉพาะจากการทำงานหาเงินและชื่อเสียง ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีหรือก่อนหน้านั้นคือระดับมัธยมศึกษา ผมก็มุ่งหน้าเรียนในสาขาวิชาที่จะ “ทำเงินมากที่สุด” ในช่วงเวลานั้น เมื่อเรียนจบก็เริ่มทำงานที่ให้รายได้ต่อเดือนสูงสุดเท่าที่จะหาได้ เมื่อเริ่มทำงานก็จะทำอย่างขยันขันแข็งและรับผิดชอบต่องานสูงมาก ทั้งหมดนั้นก็ทำให้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็เป็นได้แค่ “วิศวกร” ที่เป็น “ส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่ง”...
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของเวียดนามยังคงฟื้นตัวได้
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ถือเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญที่สุดของประเทศเวียดนาม และเวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์มากกว่าประเทศอื่นๆ จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ 2 ประการต่อการไหลเข้าของ FDI ในอนาคตของเวียดนาม ซึ่งเป็นที่สนใจสำหรับนักธุรกิจท้องถิ่นและผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาล ได้แก่:
1) เวียดนามอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในฐานะ จุดหมายปลายทางของการลงทุน FDI เมื่อเทียบกับอินเดีย มาเลเซีย และ/หรือ อินโดนีเซีย
2) โครงการกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก จะลดความน่าดึงดูดใจของเวียดนามในฐานะแหล่งลงทุน FDI ปลายทาง เนื่องจากนักลงทุนจะถูกโดยจำกัดสิทธิประโยชน์ทางภาษี
การเยือนอินเดียของ Tim Cook ในเดือนเมษายนทำให้เกิดข่าวคราวมากมายเกี่ยวกับความตั้งใจของ Apple และผู้ลงทุนรายอื่นๆ เกี่ยวกับการสร้างโรงงานใหม่ในประเทศ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ผลิตในโรงงานเหล่านั้นจะถูกขายไปยังตลาดอินเดีย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การลงทุนใหม่ๆ ไปยังอินเดียไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยกลยุทธ์การลงทุน “จีน + 1” ที่ผลักดันให้ FDI ไหลเข้าเวียดนามในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตั้งแต่เริ่มสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ผู้สังเกตการณ์บางคนยังตั้งข้อสังเกตว่า โครงการ FDI ที่ไหลเข้าสู่มาเลเซียและอินโดนีเซียพุ่งสูงขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ในขณะที่ FDI ที่ยอดลงทะเบียน FDI ของเวียดนามนั้นค่อนข้างทรงตัว อย่างไรก็ตาม ดังที่เราจะอธิบายเพิ่มเติมด้านล่าง การลงทุนในมาเลเซียและอินโดนีเซียส่วนใหญ่มุ่งไปที่การผลิตสินค้าที่เวียดนามไม่ได้ผลิต รวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV)
สุดท้ายแล้ว...
หัวกระไดไม่แห้ง
บลิงเคนไป-เยลเลนมา
Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กำลังเยือนเวียดนามเป็นเวลา 3 วัน เพื่อพบกันนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ผู้ว่าการธนาคารกลาง ประธานสภาแห่งชาติ
“เวียดนามเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับสหรัฐ การค้าของเราพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว และสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม
ฝ่ายบริหารเราต้องการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงกับเวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เราสนับสนุนจากการลงทุนในเวียดนามในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงชิปคอมพิวเตอร์และพลังงานหมุนเวียน “
เยลเลนยังได้พบกับเหงียน ถิ ฮง ผู้ว่าการธนาคารกลางเวียดนาม
" สหรัฐฯ สนับสนุนการเติบโตของเวียดนาม และขอบคุณธนาคารกลางเวียดนามที่จัดการกับข้อกังวลของ สหรัฐฯ เกี่ยวกับ สกุลเงินด่อง หรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนการเติบโตของเวียดนาม และสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งชาวเวียดนามและชาวอเมริกันสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งชาวเวียดนามและชาวอเมริกัน"
3 เดือนก่อน แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐก็ได้เยือนเวียดนาม และให้คำมั่นว่าจะยกระดับความสัมพันธ์
เวียดนามได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญอย่างรวดเร็วสำหรับผู้ผลิตระดับโลก บริษัทต่างๆ ได้ขยายการลงทุนนอกประเทศจีนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการเมือง
แม้ระบบการปกครองเวียดนามจะเป็นสังคมนิยมแบบจีน แต่ก็เปิดรับแนวคิด-วิธีการแบบทุนนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้น่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเวียดนามในระยะยาว
งานรวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนาม 27 ส.ค. นี้
ดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ https://www.vietnamvi.com/2023/07/03/vvi2023/
https://www.vietnamvi.com/2023/07/03/vvi2023/
กําไรของธุรกิจค้าปลีกอาจแตะจุดต่ำสุดตั้งแต่ครึ่งแรกของปีนี้
1H2023 VN-Index เพิ่มขึ้น 11.2% ในขณะที่หุ้นค้าปลีกลดลง 1.3%
SSI Research มองว่าราคาหุ้นไม่ค่อยขึ้นจากผลกําไรที่ลดลงของกลุ่มค้าปลีก
ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 กําไรของธุรกิจค้าปลีกลดลงอย่างมากจากปัญหามากมายในระบบเศรษฐกิจ
การส่งออกที่ซบเซาทําให้ธุรกิจต้องเลิกจ้างแรงงานอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นผู้บริโภคลดการใช้จ่ายที่ไม่จําเป็น
"เราคาดว่ากําไรของอุตสาหกรรมค้าปลีกจะเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2023 ถึง 2024
การฟื้นตัวมีแนวโน้มที่จะได้รับแรงหนุนจากสินเชื่ออุปโภคบริโภค เศรษฐกิจมหภาคขยายตัว ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทที่เพิ่มขึ้น การเงินที่แข็งแกร่งและอัตรากําไรที่ดีขึ้นเนื่องจากสินค้าคงเหลือที่ลดลง"
ในช่วงหกเดือนแรกของปียอดขายและรายได้ของภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้นในอัตราที่ตํ่ากว่าปีที่แล้ว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ากําลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ดีขึ้นมากนัก แต่คิดว่าจะฟื้นตัวเด้งกลับในช่วงครึ่งปีหลัง"
SSI เชื่อว่าโอกาสระยะยาวของค้าปลีกขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนเป็นการค้าสมัยใหม่ และแผนการระดมทุน
ModernTrade สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงคิดเป็นประมาณ 70-75% ของตลาดทั้งหมด
แต่ประเภทห้างสรรพสินค้าและร้านขายยายังคงมีสัดส่วนเล็กมาก
SSI Research กล่าวว่า บริษัทต่างๆ สามารถหาเงินทุนจากภายนอกในการขยายสาขาได้
เครือข่ายร้านขายยา Long Châu ของ FPT Digital Retail JSC (FRT) มีกําไรแล้ว และอาจต้องระดมทุนเร็วๆนี้เพื่อขยายเครือข่ายร้านค้าเป็น 3,000 ร้านค้า
Mobile World (MWG) จะระดมทุนเพื่อขยายสาขา Bách Hóa Xanh (ร้านสะดวกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค) เมื่อใกล้จุดคุ้มทุน
นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2023
ลดแรงกดดันดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ในขณะเดียวกันการฟื้นตัวของการส่งออก (คาดว่าในไตรมาสที่สี่) จะช่วยกระตุ้นการบริโภคในช่วงปลายปี
VN Direct "การลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 10 เป็น 8 เปอร์เซ็นต์สําหรับสินค้าจําเป็นหลายอย่าง เช่น...
ปีที่แล้วดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN INDEX) เคยทำจุดสูงสุดที่ 1,525 จุด ปัจจุบันดัชนีอยู่ที่ 1,168 จุด คิดเป็นการติดลบถึง 23.4%
นักลงทุนหุ้นเวียดนามหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าการลงทุนระยะยาวในหุ้นเวียดนามดีจริงหรือ?
เพราะในโลกอินเตอร์เน็ตหลายคนบ่นขาดทุน
ยิ่งปลายปีที่แล้ว-ต้นปีนี้ บางสื่อบอกว่าเวียดนามจะเป็นเหมือนต้มยำกุ้ง หุ้นกำลังดิ่งยาว
หุ้นเวียดนามผลตอบแทนแย่จริงหรือ?
วันนี้แอดอยากชวนเพื่อนๆ มาวัดระยะดูผลตอบแทนดัชนีหุ้นเวียดนามที่ผ่านมา
เรียงอันดับผลตอบแทน ทั้งแบบ YTD แบบ 5 ปี และแบบ 10 ปี กัน
YTD-ปัจจุบัน (ต้นปี-16 ก.ค.66)
1. LAOS +38.9%
2. VIETNAM +11.93%
3. PHILIPPINES +0.6%
4. INDONESIA +0.3%
5. SINGAPORE +0.1%
6. MALAYSIA -4.3%
7. THAILAND -9.6%
5 ปี-ปัจจุบัน
1. VIETNAM +25.18%
2. INDONESIA +17.0%
3. LAOS +12.0%
4. SINGAPORE -1.5%
5. THAILAND -9.2%
6. PHILIPPINES -10.5%
7. MALAYSIA -19.5%
10 ปี-ปัจจุบัน
1. VIETNAM +134.9%
2. INDONESIA +52.3%
3....
โลกในมุมมองของ Value Investor 15 กรกฎาคม 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ในช่วง 4-5 ที่ผ่านมานี้ การลงทุนในตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะยากขึ้นทุกที ไม่ใช่เพราะว่าดัชนีหุ้นไทยไม่ไปไหนเลยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะว่ากลยุทธ์การลงทุนแบบ VI แนว “ซุปเปอร์สต็อก” ที่ผมใช้มานานและได้ผลดีมากมาตลอดนั้น เริ่มได้ผลน้อยลงมาก เหตุผลสำคัญผมคิดว่าเกิดจากการที่หุ้นซุปเปอร์สต็อกในตลาดหุ้นไทยเดิมนั้น “อิ่มตัว” แล้ว ราคาได้ปรับตัวขึ้นมามากจนราคาไม่ถูกอีกต่อไป บางตัวก็อาจจะเรียกว่าแพงแล้ว
ในขณะเดียวกัน หุ้นซุปเปอร์สต็อก “รุ่นใหม่” ก็หาแทบไม่ได้ในสายตาของผม จริงอยู่ ยังมีกิจการที่ดีเยี่ยมที่อาจจะกำลังเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ราคาหุ้นกลับปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าพื้นฐาน นอกจากนั้น การเติบโตระยะยาวมากก็ยังไม่แน่นอน เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีหุ้นดิจิทัลหรือไฮเทคที่มีความสามารถและ/หรือความได้เปรียบที่ยั่งยืนจริง ๆ ดังนั้น การลงทุนก็เป็นความเสี่ยงเพราะหุ้นมี Margin of Safety ต่ำมาก ผมจึงไม่ลงทุน และก็พลาดที่จะได้ปผลตอบแทนที่รวดเร็วแบบ VI รุ่นใหม่หลาย ๆ คนทำได้ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่เจ็บตัวเมื่อหุ้นเหล่านั้นหลายตัวตกลงมาจนแทบหายนะในช่วงเร็ว ๆ นี้
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาน่าจะอย่างน้อย 5 ปี ของผมต้องถือว่าย่ำแย่ ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1.8% ต่อปี แม้ว่าจะยังดีกว่าดัชนีตลาดที่...
โลกในมุมมองของ Value Investor 8 กรกฎาคม 2566
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นตกลงมาอย่างช้า ๆ ต่อเนื่องในช่วงเร็ว ๆ นี้ แต่ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายตัวที่เคยเป็นหุ้น “ดารา” ที่ราคาวิ่งขึ้นไปสูงเป็น “จรวด” ก่อนหน้านี้ กลับตกลงมาแรงต่อเนื่องจนแทบเป็น “หายนะ” ทำให้ผมรู้สึกว่า กลยุทธ์การลงทุน “ระยะยาว” ที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนอย่างมั่นคงจริง ๆ นั้น คงไม่ใช่การเลือกหุ้นลงทุนในหุ้นที่กำลังวิ่งขึ้นแรงและขายหุ้นก่อนที่มันจะลงไปอย่างหนักซึ่งเป็นกลยุทธ์ของ “นักเทรด” หรือ “นักซื้อขายหุ้น” ไม่ว่าจะเป็นนักเก็งกำไรหรือเป็น Value Investor เพราะผมคิดว่า คนที่ทำแบบนั้นคงจะ “เจ็บตัว” อย่างหนักเพราะขายไม่ทันและขาดทุนไปมาก ซึ่งน่าจะทำให้ผลตอบแทน “ระยะยาวแบบทบต้น” ของเขาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นอาจจะสูงมาก
ผมคิดว่ากลยุทธ์การลงทุนระยะยาวที่จะให้ผลตอบแทนที่ดี มีความมั่นคง และคนลงทุนจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของการขาดทุนอย่างหนักอย่างที่กำลังอาจจะเกิดขึ้นกับนักลงทุนบางคนในช่วงนี้ควรจะเป็นแนวการลงทุนแบบวอเร็น บัฟเฟตต์ ที่ทุกคนยกย่องชื่นชมว่าเป็นสุดยอดของการลงทุนระยะยาว แต่เป็นกลยุทธ์ที่น้อยคนที่จะใช้ หลายคนอาจจะคิดว่ามันยากและเหนือความสามารถของตนที่จะวิเคราะห์หุ้นได้เก่งขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม ผมเองคิดว่าคนจำนวนมากสามารถเลียนแบบกลยุทธ์ของบัฟเฟตต์ที่จะทำให้สามารถทำผลตอบแทนระยะยาวที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ และต่อไปนี้ก็คือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นหลักคิดและวิธีสำหรับการลงทุนระยะยาวที่น่าจะ “ง่ายและสั้นที่สุด” และก็เป็นกลยุทธ์ที่ผมเองใช้มายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว
หลักสำคัญข้อแรกก็คือ ต้องพยายามหลีกเลี่ยง “หายนะ” ของการลงทุน ซึ่งก็คือการหลีกเลี่ยงการลงทุนแต่ละครั้งในหุ้นแต่ละตัวที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป อาจจะเป็นเพราะตัวธุรกิจที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความผันผวนสูงและขณะที่ซื้อหุ้นนั้นราคาสินค้าอยู่ในภาวะสูงผิดปกติ ...
เปิดรับสมัครแล้ว!
รวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนาม 2023
27 ส.ค. นี้ 8.30-17.00 น.
1 ปี มี 1 ครั้ง
งานนี้ ครบ-จบ-ในวันเดียว
- รวมคนที่มี Passion สนใจลงทุนหุ้นเวียดนาม
- รวมมุมมอง ความรู้หุ้นเวียดนาม
- พบกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรและ Speaker ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ
Agenda
8.30 น. ลงทะเบียน
8.45 น. กว่า 7 ปี VVI 7 ปีแห่งโอกาส และความผันผวน
แอดมินเต๋า สติมา เมี้ยนละม้าย
8.50 น. หุ้นเวียดนามปัจจุบัน - อนาคต
คุณเอก ธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ (ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศเวียดนาม)
Mr. Eric Levinson ( Head of Business Development, VinaCapital )
Mr. Manh Nguyen ( Co-Portfolio Manager, VinaCapital...
– การลงทุนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศที่เราอาจต้องใช้เวลาการศึกษาข้อมูลที่มากกว่า จะดีกว่าไหมหากเราจะได้ศึกษาเรียนรู้การลงทุนจากนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ในหุ้น เวียดนาม อเมริกา จีน ทั้งผ่านทางเว็บไซต์ และ facebook group สมัครวันนี้รับพร้อมสิทธิ์พิเศษ ดังนี้
1 รับชมย้อนหลัง สัมมนา super stock เวียดนาม อเมริกา จีน ยาวกว่า 15 ชั่วโมง จากมากมายหลายกูรูผู้รู้เรื่องการลงทุน
2 เข้าร่วมกิจกรรม คนละตัว นำเสนอหุ้นคนละตัว เรียนรู้ไปด้วยกัน
3 ชมย้อนหลัง Live ที่ผ่านมาแต่ ต้นปี 2565 วิเคราะห์หุ้นรายตัว ตลอดจนคุยกับกูรูไทย เพื่อนนักลงทุนที่มากประสบการณ์และโบรกเกอร์เวียดนาม
4 พูดคุย ถามตอบในไลฟ์สด ประเด็นที่น่าสนใจที่เราจัดเป็นประจำทุกเดือนทุกเดือน
5 รับรางวัล และสิทธิ์พิเศษอื่นๆ เป็นประจำตามวาระและโอกาสที่เหมาะสม
6 สิทธิ์พิเศษร่วมสัมมนากับเราทั้งในประเทศและต่างประเทศ super early bird ในราคาสมาชิกส่วนลด 10-20 % ก่อนใคร
Tour learn earn more...