โลกในมุมมองของ Value Investor       29 กรกฎาคม 2566 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วันที่ 1 มกราคม ปี 2008 บัฟเฟตต์ประกาศ “ท้าพนัน” คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมบริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งเขาบอกว่าตั้งค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุน “แพงเกินความสามารถ” และส่วนใหญ่ก็จะใช้สูตร “2-20” คือค่าธรรมเนียมแน่นอนที่ 2% ต่อปีของเงินกองทุนหรือ NAV  และอีก 20% ของกำไรในแต่ละปี  โดยที่บัฟเฟตต์ท้าว่า  ผลตอบแทนของเฮดจ์ฟันด์จะแพ้ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนอิงดัชนีที่ไม่ต้องมีคนเลือกหุ้น  และเขาเลือกกองทุน S&P 500 ของแวนการ์ดกรุปที่คิดค่าธรรมเนียม “ต่ำที่สุด” ที่ 0.04% ต่อปี คนที่รับคำท้าคือ Ted Seides ผู้ก่อตั้งและบริหารกองทุน Protégé ซึ่งเป็น “Fund of Fund” คือกองทุนที่ลงทุนในเฮดจ์ฟันด์อื่น ๆ  โดย จะมีการวัดผลตอบแทนเมื่อครบ 10 ปี ตอนสิ้นปี 2017  เงินพนันคือ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ  และนี่ก็คือเรื่องที่จะ  “ท้าพิสูจน์”...
โลกในมุมมองของ Value Investor      22 ก.ค. 66 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ตั้งแต่เริ่มเป็น VI เมื่อเกือบ 30 ปี ก่อน  ความคิดในการมองโลกของผมหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก  แน่นอนว่าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยทันทีทุกอย่าง  แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ  ในแบบของ “Evolution” หรือเป็น  “วิวัฒนาการ” ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแบบแทบจะไม่รู้ตัวในช่วงแรก ๆ จนถึงจุดหนึ่งก็จะพบว่าตนเองนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก  และต่อไปนี้ก็คือ  ความคิด 3 เรื่องในการมองโลกที่ไม่เหมือนเดิมเมื่อเริ่มหันมาเป็น  “VI พันธุ์แท้” เรื่องแรกก็คือสิ่งที่ผมพูดมาบ่อย ๆ  ว่าช่วย “เปลี่ยนชีวิต” ของผมมากที่สุด  นั่นก็คือ  การเปลี่ยนจาก  “นักสู้” เป็น  “นักเลือก” โดยที่ “นักสู้” ก็คือคนที่ทุ่มเทความพยายามให้กับสิ่งที่ตนเองทำอย่าง “สุดกำลัง” เช่น  ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จโดยเฉพาะจากการทำงานหาเงินและชื่อเสียง  ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีหรือก่อนหน้านั้นคือระดับมัธยมศึกษา  ผมก็มุ่งหน้าเรียนในสาขาวิชาที่จะ “ทำเงินมากที่สุด” ในช่วงเวลานั้น  เมื่อเรียนจบก็เริ่มทำงานที่ให้รายได้ต่อเดือนสูงสุดเท่าที่จะหาได้  เมื่อเริ่มทำงานก็จะทำอย่างขยันขันแข็งและรับผิดชอบต่องานสูงมาก  ทั้งหมดนั้นก็ทำให้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง  แต่ก็เป็นได้แค่ “วิศวกร”  ที่เป็น  “ส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่ง”...
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของเวียดนามยังคงฟื้นตัวได้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ถือเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญที่สุดของประเทศเวียดนาม และเวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์มากกว่าประเทศอื่นๆ จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอีกด้วย  อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ 2 ประการต่อการไหลเข้าของ FDI ในอนาคตของเวียดนาม ซึ่งเป็นที่สนใจสำหรับนักธุรกิจท้องถิ่นและผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาล ได้แก่: 1) เวียดนามอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในฐานะ จุดหมายปลายทางของการลงทุน FDI เมื่อเทียบกับอินเดีย มาเลเซีย และ/หรือ อินโดนีเซีย 2) โครงการกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก จะลดความน่าดึงดูดใจของเวียดนามในฐานะแหล่งลงทุน FDI ปลายทาง เนื่องจากนักลงทุนจะถูกโดยจำกัดสิทธิประโยชน์ทางภาษี การเยือนอินเดียของ Tim Cook ในเดือนเมษายนทำให้เกิดข่าวคราวมากมายเกี่ยวกับความตั้งใจของ Apple และผู้ลงทุนรายอื่นๆ เกี่ยวกับการสร้างโรงงานใหม่ในประเทศ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ผลิตในโรงงานเหล่านั้นจะถูกขายไปยังตลาดอินเดีย  กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การลงทุนใหม่ๆ ไปยังอินเดียไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยกลยุทธ์การลงทุน “จีน + 1” ที่ผลักดันให้ FDI ไหลเข้าเวียดนามในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตั้งแต่เริ่มสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ผู้สังเกตการณ์บางคนยังตั้งข้อสังเกตว่า โครงการ FDI ที่ไหลเข้าสู่มาเลเซียและอินโดนีเซียพุ่งสูงขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ในขณะที่ FDI ที่ยอดลงทะเบียน FDI ของเวียดนามนั้นค่อนข้างทรงตัว อย่างไรก็ตาม ดังที่เราจะอธิบายเพิ่มเติมด้านล่าง การลงทุนในมาเลเซียและอินโดนีเซียส่วนใหญ่มุ่งไปที่การผลิตสินค้าที่เวียดนามไม่ได้ผลิต รวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สุดท้ายแล้ว...
หัวกระไดไม่แห้ง บลิงเคนไป-เยลเลนมา Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กำลังเยือนเวียดนามเป็นเวลา 3 วัน เพื่อพบกันนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ผู้ว่าการธนาคารกลาง ประธานสภาแห่งชาติ “เวียดนามเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับสหรัฐ การค้าของเราพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว และสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ฝ่ายบริหารเราต้องการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงกับเวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เราสนับสนุนจากการลงทุนในเวียดนามในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงชิปคอมพิวเตอร์และพลังงานหมุนเวียน “ เยลเลนยังได้พบกับเหงียน ถิ ฮง ผู้ว่าการธนาคารกลางเวียดนาม " สหรัฐฯ สนับสนุนการเติบโตของเวียดนาม และขอบคุณธนาคารกลางเวียดนามที่จัดการกับข้อกังวลของ สหรัฐฯ เกี่ยวกับ สกุลเงินด่อง หรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนการเติบโตของเวียดนาม และสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งชาวเวียดนามและชาวอเมริกันสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งชาวเวียดนามและชาวอเมริกัน" 3 เดือนก่อน แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐก็ได้เยือนเวียดนาม และให้คำมั่นว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ เวียดนามได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญอย่างรวดเร็วสำหรับผู้ผลิตระดับโลก บริษัทต่างๆ ได้ขยายการลงทุนนอกประเทศจีนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการเมือง แม้ระบบการปกครองเวียดนามจะเป็นสังคมนิยมแบบจีน แต่ก็เปิดรับแนวคิด-วิธีการแบบทุนนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้น่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเวียดนามในระยะยาว งานรวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนาม 27 ส.ค. นี้ ดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ https://www.vietnamvi.com/2023/07/03/vvi2023/ https://www.vietnamvi.com/2023/07/03/vvi2023/
กําไรของธุรกิจค้าปลีกอาจแตะจุดต่ำสุดตั้งแต่ครึ่งแรกของปีนี้ 1H2023 VN-Index เพิ่มขึ้น 11.2% ในขณะที่หุ้นค้าปลีกลดลง 1.3% SSI Research มองว่าราคาหุ้นไม่ค่อยขึ้นจากผลกําไรที่ลดลงของกลุ่มค้าปลีก ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 กําไรของธุรกิจค้าปลีกลดลงอย่างมากจากปัญหามากมายในระบบเศรษฐกิจ การส่งออกที่ซบเซาทําให้ธุรกิจต้องเลิกจ้างแรงงานอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นผู้บริโภคลดการใช้จ่ายที่ไม่จําเป็น "เราคาดว่ากําไรของอุตสาหกรรมค้าปลีกจะเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2023 ถึง 2024 การฟื้นตัวมีแนวโน้มที่จะได้รับแรงหนุนจากสินเชื่ออุปโภคบริโภค เศรษฐกิจมหภาคขยายตัว ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทที่เพิ่มขึ้น  การเงินที่แข็งแกร่งและอัตรากําไรที่ดีขึ้นเนื่องจากสินค้าคงเหลือที่ลดลง" ในช่วงหกเดือนแรกของปียอดขายและรายได้ของภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้นในอัตราที่ตํ่ากว่าปีที่แล้ว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ากําลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ดีขึ้นมากนัก แต่คิดว่าจะฟื้นตัวเด้งกลับในช่วงครึ่งปีหลัง" SSI เชื่อว่าโอกาสระยะยาวของค้าปลีกขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนเป็นการค้าสมัยใหม่ และแผนการระดมทุน ModernTrade สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงคิดเป็นประมาณ 70-75% ของตลาดทั้งหมด แต่ประเภทห้างสรรพสินค้าและร้านขายยายังคงมีสัดส่วนเล็กมาก SSI Research กล่าวว่า บริษัทต่างๆ สามารถหาเงินทุนจากภายนอกในการขยายสาขาได้ เครือข่ายร้านขายยา Long Châu ของ FPT Digital Retail JSC (FRT) มีกําไรแล้ว และอาจต้องระดมทุนเร็วๆนี้เพื่อขยายเครือข่ายร้านค้าเป็น 3,000 ร้านค้า Mobile World (MWG) จะระดมทุนเพื่อขยายสาขา Bách Hóa Xanh (ร้านสะดวกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค) เมื่อใกล้จุดคุ้มทุน นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ลดแรงกดดันดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ในขณะเดียวกันการฟื้นตัวของการส่งออก (คาดว่าในไตรมาสที่สี่) จะช่วยกระตุ้นการบริโภคในช่วงปลายปี VN Direct "การลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 10 เป็น 8 เปอร์เซ็นต์สําหรับสินค้าจําเป็นหลายอย่าง เช่น...
ปีที่แล้วดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN INDEX) เคยทำจุดสูงสุดที่ 1,525 จุด ปัจจุบันดัชนีอยู่ที่ 1,168 จุด คิดเป็นการติดลบถึง 23.4% นักลงทุนหุ้นเวียดนามหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าการลงทุนระยะยาวในหุ้นเวียดนามดีจริงหรือ? เพราะในโลกอินเตอร์เน็ตหลายคนบ่นขาดทุน ยิ่งปลายปีที่แล้ว-ต้นปีนี้ บางสื่อบอกว่าเวียดนามจะเป็นเหมือนต้มยำกุ้ง หุ้นกำลังดิ่งยาว หุ้นเวียดนามผลตอบแทนแย่จริงหรือ? วันนี้แอดอยากชวนเพื่อนๆ มาวัดระยะดูผลตอบแทนดัชนีหุ้นเวียดนามที่ผ่านมา เรียงอันดับผลตอบแทน ทั้งแบบ YTD แบบ 5 ปี และแบบ 10 ปี กัน YTD-ปัจจุบัน (ต้นปี-16 ก.ค.66) 1. LAOS +38.9% 2. VIETNAM +11.93% 3. PHILIPPINES +0.6% 4. INDONESIA +0.3% 5. SINGAPORE +0.1% 6. MALAYSIA -4.3% 7. THAILAND -9.6% 5 ปี-ปัจจุบัน 1. VIETNAM +25.18% 2. INDONESIA +17.0% 3. LAOS +12.0% 4. SINGAPORE -1.5% 5. THAILAND -9.2% 6. PHILIPPINES -10.5% 7. MALAYSIA -19.5% 10 ปี-ปัจจุบัน 1. VIETNAM +134.9% 2. INDONESIA +52.3% 3....
โลกในมุมมองของ Value Investor     15 กรกฎาคม 2566 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในช่วง 4-5 ที่ผ่านมานี้  การลงทุนในตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะยากขึ้นทุกที  ไม่ใช่เพราะว่าดัชนีหุ้นไทยไม่ไปไหนเลยเพียงอย่างเดียว  แต่เป็นเพราะว่ากลยุทธ์การลงทุนแบบ VI แนว “ซุปเปอร์สต็อก” ที่ผมใช้มานานและได้ผลดีมากมาตลอดนั้น  เริ่มได้ผลน้อยลงมาก  เหตุผลสำคัญผมคิดว่าเกิดจากการที่หุ้นซุปเปอร์สต็อกในตลาดหุ้นไทยเดิมนั้น  “อิ่มตัว” แล้ว  ราคาได้ปรับตัวขึ้นมามากจนราคาไม่ถูกอีกต่อไป  บางตัวก็อาจจะเรียกว่าแพงแล้ว ในขณะเดียวกัน  หุ้นซุปเปอร์สต็อก “รุ่นใหม่” ก็หาแทบไม่ได้ในสายตาของผม  จริงอยู่  ยังมีกิจการที่ดีเยี่ยมที่อาจจะกำลังเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง  แต่ราคาหุ้นกลับปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าพื้นฐาน  นอกจากนั้น  การเติบโตระยะยาวมากก็ยังไม่แน่นอน  เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ  ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีหุ้นดิจิทัลหรือไฮเทคที่มีความสามารถและ/หรือความได้เปรียบที่ยั่งยืนจริง ๆ  ดังนั้น  การลงทุนก็เป็นความเสี่ยงเพราะหุ้นมี Margin of Safety ต่ำมาก  ผมจึงไม่ลงทุน  และก็พลาดที่จะได้ปผลตอบแทนที่รวดเร็วแบบ VI รุ่นใหม่หลาย ๆ  คนทำได้ในช่วงที่ผ่านมา  อย่างไรก็ตาม  ผมก็ไม่เจ็บตัวเมื่อหุ้นเหล่านั้นหลายตัวตกลงมาจนแทบหายนะในช่วงเร็ว ๆ  นี้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร  ผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาน่าจะอย่างน้อย 5 ปี  ของผมต้องถือว่าย่ำแย่  ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1.8% ต่อปี  แม้ว่าจะยังดีกว่าดัชนีตลาดที่...
โลกในมุมมองของ Value Investor      8 กรกฎาคม 2566 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นตกลงมาอย่างช้า ๆ  ต่อเนื่องในช่วงเร็ว ๆ นี้  แต่ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายตัวที่เคยเป็นหุ้น  “ดารา” ที่ราคาวิ่งขึ้นไปสูงเป็น “จรวด” ก่อนหน้านี้  กลับตกลงมาแรงต่อเนื่องจนแทบเป็น “หายนะ”  ทำให้ผมรู้สึกว่า  กลยุทธ์การลงทุน “ระยะยาว” ที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนอย่างมั่นคงจริง ๆ  นั้น  คงไม่ใช่การเลือกหุ้นลงทุนในหุ้นที่กำลังวิ่งขึ้นแรงและขายหุ้นก่อนที่มันจะลงไปอย่างหนักซึ่งเป็นกลยุทธ์ของ “นักเทรด” หรือ “นักซื้อขายหุ้น” ไม่ว่าจะเป็นนักเก็งกำไรหรือเป็น Value Investor  เพราะผมคิดว่า  คนที่ทำแบบนั้นคงจะ “เจ็บตัว” อย่างหนักเพราะขายไม่ทันและขาดทุนไปมาก  ซึ่งน่าจะทำให้ผลตอบแทน “ระยะยาวแบบทบต้น” ของเขาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  ทั้งที่ก่อนหน้านั้นอาจจะสูงมาก ผมคิดว่ากลยุทธ์การลงทุนระยะยาวที่จะให้ผลตอบแทนที่ดี  มีความมั่นคง  และคนลงทุนจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของการขาดทุนอย่างหนักอย่างที่กำลังอาจจะเกิดขึ้นกับนักลงทุนบางคนในช่วงนี้ควรจะเป็นแนวการลงทุนแบบวอเร็น บัฟเฟตต์ ที่ทุกคนยกย่องชื่นชมว่าเป็นสุดยอดของการลงทุนระยะยาว  แต่เป็นกลยุทธ์ที่น้อยคนที่จะใช้  หลายคนอาจจะคิดว่ามันยากและเหนือความสามารถของตนที่จะวิเคราะห์หุ้นได้เก่งขนาดนั้น  อย่างไรก็ตาม  ผมเองคิดว่าคนจำนวนมากสามารถเลียนแบบกลยุทธ์ของบัฟเฟตต์ที่จะทำให้สามารถทำผลตอบแทนระยะยาวที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังทำอยู่  และต่อไปนี้ก็คือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นหลักคิดและวิธีสำหรับการลงทุนระยะยาวที่น่าจะ “ง่ายและสั้นที่สุด” และก็เป็นกลยุทธ์ที่ผมเองใช้มายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว หลักสำคัญข้อแรกก็คือ  ต้องพยายามหลีกเลี่ยง “หายนะ” ของการลงทุน  ซึ่งก็คือการหลีกเลี่ยงการลงทุนแต่ละครั้งในหุ้นแต่ละตัวที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป  อาจจะเป็นเพราะตัวธุรกิจที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความผันผวนสูงและขณะที่ซื้อหุ้นนั้นราคาสินค้าอยู่ในภาวะสูงผิดปกติ ...
เปิดรับสมัครแล้ว! รวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนาม 2023 27 ส.ค. นี้ 8.30-17.00 น. 1 ปี มี 1 ครั้ง งานนี้ ครบ-จบ-ในวันเดียว - รวมคนที่มี Passion สนใจลงทุนหุ้นเวียดนาม - รวมมุมมอง ความรู้หุ้นเวียดนาม - พบกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรและ Speaker ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ Agenda 8.30 น. ลงทะเบียน 8.45 น. กว่า 7 ปี VVI 7 ปีแห่งโอกาส และความผันผวน แอดมินเต๋า สติมา เมี้ยนละม้าย 8.50 น. หุ้นเวียดนามปัจจุบัน - อนาคต คุณเอก ธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ (ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศเวียดนาม) Mr. Eric Levinson ( Head of Business Development, VinaCapital ) Mr. Manh Nguyen ( Co-Portfolio Manager, VinaCapital...
– การลงทุนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศที่เราอาจต้องใช้เวลาการศึกษาข้อมูลที่มากกว่า จะดีกว่าไหมหากเราจะได้ศึกษาเรียนรู้การลงทุนจากนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ในหุ้น เวียดนาม อเมริกา จีน ทั้งผ่านทางเว็บไซต์ และ facebook group สมัครวันนี้รับพร้อมสิทธิ์พิเศษ ดังนี้ 1 รับชมย้อนหลัง สัมมนา super stock เวียดนาม อเมริกา จีน ยาวกว่า 15 ชั่วโมง จากมากมายหลายกูรูผู้รู้เรื่องการลงทุน 2 เข้าร่วมกิจกรรม คนละตัว นำเสนอหุ้นคนละตัว เรียนรู้ไปด้วยกัน 3 ชมย้อนหลัง Live ที่ผ่านมาแต่ ต้นปี 2565  วิเคราะห์หุ้นรายตัว  ตลอดจนคุยกับกูรูไทย เพื่อนนักลงทุนที่มากประสบการณ์และโบรกเกอร์เวียดนาม 4 พูดคุย ถามตอบในไลฟ์สด ประเด็นที่น่าสนใจที่เราจัดเป็นประจำทุกเดือนทุกเดือน 5 รับรางวัล และสิทธิ์พิเศษอื่นๆ เป็นประจำตามวาระและโอกาสที่เหมาะสม 6 สิทธิ์พิเศษร่วมสัมมนากับเราทั้งในประเทศและต่างประเทศ super early bird ในราคาสมาชิกส่วนลด 10-20 % ก่อนใคร Tour learn earn more...

MOST POPULAR