เมื่อวานนี้เวียดนามรายงานผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 738 ราย (วันนี้ 126 ราย) นับเป็นเคสรายวันมากสุดตั้งแต่มีการระบาด โดยมีการระบาดครั้งใหญ่ในเมืองสำคัญอย่าง Ho Chi Minh city ด้วย  รัฐบาลเวียดนามกำลังเผชิญกับการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันอาทิตย์ Samsung Electronics บริจาคเงินประมาณ 2.8 พันล้านวอนให้กับรัฐบาลกลางและรัฐบาลระดับภูมิภาคของเวียดนาม Samsung บริจาคทั้งเงินสดและเงินช่วยเหลือทางการแพทย์ให้กับจังหวัดทางภาคเหนือของอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตหลักของ Samsung Electronics  จำนวนเงินบริจาคทั้งหมดของ Samsung นั้นสูงที่สุดในบรรดาบริษัทต่างชาติอื่นๆ ที่มีการดำเนินงานในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   SK ยังบริจาคเงิน 1.1 พันล้านวอนให้กับรัฐบาลกลางของเวียดนามด้วย  LG Electronics บริจาค 1.5 พันล้านวอนให้กับรัฐบาลภูมิภาค Hai Phong ซึ่งเป็นที่ตั้งของสายการผลิตของบริษัท Toyota Motor ของญี่ปุ่นและ Foxconn ของไต้หวันก็มีรายชื่อผู้บริจาคจากต่างประเทศเช่นกัน  บริษัทข้ามชาติต่างๆ บริจาคเงินจำนวนมหาศาล เนื่องจากมีการดำเนินงานจำนวนมากในเวียดนาม  แต่ Samsung, LG Electronics และ SK รู้สึกเป็นภาระที่ใหญ่ขึ้น การไม่ตอบสนองต่อคำขอของเรื่อง(บริจาคเงินเข้าโครงการ)วัคซีนอาจส่งผลกระทบต่อโครงการธุรกิจที่กำลังดำเนินอยู่และในอนาคต ตามแหล่งข่าว เกาหลีเป็น FDI อันดับต้น ๆ ในเวียดนาม  ภายในเดือนมีนาคมปีนี้...
ความแตกต่างหุ้นไทยเวียดนาม
โลกในมุมมองของ Value Investor 26 มิถุนายน 64 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ตั้งแต่เริ่มสนใจและเขียนถึงตลาดและหุ้นเวียดนามมาหลายปี  ผมมักจะบอกว่าเวียดนามมีคุณสมบัติหรือเส้นทางการพัฒนารวมถึงวัฒนธรรมหลาย ๆ  อย่างเหมือนไทยมาก  เพียงแต่เวียดนามตามหลังไทยอยู่อย่างน้อยเป็น 10 ปีขึ้นไป  อย่างไรก็ตาม  ผมคิดว่าในไม่ช้าก็จะตามทันและน่าจะแซงไทยไปด้วย  บทความเรื่อง  “The Next Thailand (and beyond)” ที่ผมเขียน  ซึ่งน่าจะเป็นบทความแรกที่ “ปลุกกระแส” การลงทุนของนักลงทุนไทยในตลาดหุ้นเวียดนามนั้น  ถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 6 ปีเต็มแล้ว  ถ้าจะให้สรุปก็คือ  ทุกอย่างของเวียดนามนั้นเป็นไปตามที่คาด  การพัฒนาประเทศและตลาดหุ้นของเวียดนามในช่วง 6 ปีที่ผ่านมานั้นต้องเรียกว่า  “สุดยอด” และสวนทางกับประเทศไทยที่โตช้าลงมาก พูดโดยเฉพาะตลาดหุ้นนั้น  ตลาดเวียดนามก้าวหน้าไปมากจนจำแทบไม่ได้  บริษัทจดทะเบียนใหม่ ๆ  ที่โดดเด่นมากและมีศักยภาพที่จะกลายเป็น  “Super Stock” ในหลาย ๆ  อุตสาหกรรมในอนาคตปรากฏตัวขึ้นและ “ก้าวข้าม” บริษัทที่เคยใหญ่ที่สุดในช่วง 6 ปีก่อนอย่างหุ้นวีนามิลค์ไปหลายบริษัทแล้ว  เช่นเดียวกับความหลากหลายของหุ้นใหญ่ ๆ  ในเวียดนามที่มีมากขึ้นใกล้เคียงกับบริษัทในตลาดหุ้นไทยแล้ว  ปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันที่มีแค่ 4-5,000 ล้านบาท ก็กลายเป็น 30,000 ล้านบาท นี่ยังไม่ได้พูดถึงว่าเมื่อ 6...
หุ้นเวียดนาม
เวียดนามพบผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่ 305 รายวันนี้ (แถมมีข่าววงในว่า 24 ชม. นี้ มีผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อใน Ho Chi Minh City  667 คน) แต่ดูเหมือนตลาดหุ้นจะเวียดนามจะปิดสวนทางกับข่าวร้าย  ปิดที่ 1390.12%  อีก 0.8% ก็จะทะลุ 1400 จุด แล้ว  ผลตอบแทน 1 ปี ??VN index +63%   ขณะที่ ?? SET index +19%  ตอนนี้ดัชนีหุ้นเวียดนาม +14% ก็จะเท่าไทย  (VN INDEX 1390 จุด  VS SET INDEX 1583 จุด - น่าจะเป็นช่วงที่ดัชนีเวียดนามเขยิบใกล้ไทยมากสุดตั้งแต่แอดมินลงทุนมาค่ะ) ---- ?? สนใจเรียนรู้ออนไลน์ ลงทุนหุ้นเวียดนามเชิงลึก สามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่: https://bit.ly/316AyPX ท่านสามารถติดตามข่าวสารจาก VietnamVI ได้ที่ Website: https://www.vietnamvi.com Facebook: https://www.facebook.com/vvinvestor/ Line: @vietnamvi https://lin.ee/47V0kep YouTube: https://youtube.com/c/vietnamvi FB กลุ่มคุยหุ้นเวียดนามฯ: https://web.facebook.com/groups/4738903604867
โลกในมุมมองของ Value Investor     19 มิถุนายน 64 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  ในโลกปัจจุบันที่ “ต้นทุนในการสื่อสาร” ลดลงมาต่ำมากจนแทบเป็นศูนย์  เราก็ได้เห็น  Content หรือข้อมูลข่าวสารถูกส่งออกไปมากมายมหาศาลจน “รับไม่ไหว”  บางเรื่องก็เป็นเรื่องจริง  จำนวนพอ ๆ  กันก็เป็นเรื่องไม่จริงหรือที่เราเรียกว่า “Fake News”แต่ที่จริงแล้วคนที่ส่งออกไปก็ไม่รู้ว่าข่าวต่าง ๆ  นั้นจริงหรือไม่  ถ้าเขาชอบข่าวหรือข้อมูลนั้น  เขาก็เพียงแต่ส่งมันต่อไป  เพื่อที่จะให้คนอื่นรู้และเห็นด้วย  นี่คงเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากให้คนอื่นคิดและเห็นเหมือนกับตนเอง  เพราะคนที่มีความคิดความเห็นเหมือนกันจะช่วยส่งเสริมให้ “ยีน” ของพวกเขาสามารถเอาตัวรอดและเผยแพร่เผ่าพันธุ์ได้ดีขึ้น ผมเอง  หรือที่จริงน่าจะเกือบทุกคนต่างก็มี “กลุ่มไลน์”  หลาย ๆ  กลุ่ม  เช่น กลุ่มเพื่อนโรงเรียนเก่า  กลุ่มชมรมกิจกรรม  กลุ่มคนทำงานในแผนกหรือในโครงการ  กลุ่มนักลงทุน  และกลุ่มสนใจการเมือง  เป็นต้น   ข้อมูลข่าวสารแต่ละวันที่ผมได้รับนั้น  ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้และความคิดเห็นโดยเฉพาะในเรื่องที่ผมสนใจและ “เห็นด้วย”  ผมก็มักจะดูหรืออ่านแบบตั้งใจมากกว่าเรื่องที่ผมไม่สนใจหรือไม่เห็นด้วย  นี่ก็เป็นเรื่องปกติ  เป็นธรรมชาติของยีน  เวลาทำไปมาก ๆ  นาน  ๆ  ความรู้และความคิดเหล่านั้นก็จะถูก “ย้ำ” เข้าไปในสมองซึ่งอาจทำให้ความรู้ของเรามากขึ้น  แต่ถ้าเป็นความคิดเห็นมันก็มักจะ “แรง” ขึ้น  และเราก็จะปฎิเสธความคิดเห็นที่ “แตกต่าง” มากขึ้น ...
กฎ 20 ข้อในการลงทุนที่เวียดนามในหนังสือ คุณแบ่งเป็น 4 ส่วนได้แก่ พื้นฐานกิจการสิ่งที่ห้ามทำเชื่อมั่นแต่ต้องตรวจสอบการถอนตัวช่วยอธิบายเพิ่มหน่อย ? บอกตามตรงมีกฎเพราะว่าพวกเราเคยพลาดและสะดุดมาก่อนเราเกาหัวแล้วถามตัวเองว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง เพื่อที่เราจะไม่พลาดซ้ำในส่วนของ Fundamental เราต้องมั่นใจกับผู้บริหาร เมื่อพวกเขาทำเงิน เราก็ทำเงินเมื่อเค้าเสียเงินหรือเจ็บปวด เราก็เจ็บปวดไปด้วย พวกเขาผ่านเรื่องที่เลวร้ายและได้ประสบการณ์ เพื่อลงทุนได้ดีขึ้นในอนาคต นี่คือเหตุผลที่มีกฏขึ้นเพราะพวกเราผ่านมันมา อะไรที่เราควรทำ ไม่ควรทำ อะไรที่พวกเราควรจะตรวจสอบและอะไรที่เราควรพิจารณาเมื่อต้อง Exit เพราะสุดท้าย เราต้องคืนเงินให้ผู้ถือหุ้น อะไรเป็นกฎยากสุดที่คุณเรียนรู้ อะไรเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดในเวียดนาม ? เราเคยมั่นใจมากในการสร้างโรงแรมในเวียดนาม แต่ประเมินต้นทุนต่ำเกินไป ประเมินเวลาก่อสร้างต่ำไป ประเมินกฏที่อนุมัติต่ำไป มันเป็นโรงแรมห้าดาว เห็นได้ชัดว่าเราไม่ได้รู้อะไรเลย ในมุมมองทางการเงินคงไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะสร้าง โรงแรม หรือแม้แต่โรงพยาบาล ให้คนอื่นทำดีกว่า มันถูกกว่าถ้าใช้วิธีซื้อต่อจากคนอื่น เพราะโรงแรม โรงพยาบาลมักจะขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีแต่ตอนนั้นพวกเราคิดต่าง เราเลือกที่จะสร้างโรงแรมที่ดีมากๆ แต่สุดท้ายมันมืดมน รวมทั้งปัญหาตอนสร้างโรงพยาบาลที่ต้นปี 2010 ที่ไม่ใช่แค่อัตราเงินเฟ้อสูงเท่านั้น แต่อุปกรณ์ที่ผ่านการอนุมัติให้ใช้ในตอนแรก ไม่มีแล้วในสามปี ต่อมากระทรวงสาธารณสุขเพิ่มมาตรฐานให้โรงพยาบาลอีกดังนั้นคุณต้องเปลี่ยนแปลงการออกแบบและก่อสร้าง รวมถึงการซื้ออุปกรณ์เครื่อง MRI เครื่องผ่าตัด จาก GE หรือ มิตซูบิชิ ที่รุ่นเดิมไม่มี ต้องเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ และต้องปรับห้องใหม่ด้วยยังไงเราก็ได้เรียนรู้ ถ้ามีครั้งต่อไปรอบ ๆ เราจะสร้างห้องให้กว้างๆ ไว้มากกว่าจะระบุรายละเอียดในห้องไปเลย คุณลงทุนหลากหลายบริษัท ตั้งแต่ธุรกิจเพื่อสุขภาพถึงร้านขายขนม คุณมุ่งเน้นไปที่การพยายามค้นหาธุรกิจ? สิ่งที่เราทำคือเราก้าวไปย้อนกลับไปดูภาคต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ...
ถ้าไทยเป็นแดนแห่งสตรีตฟู้ด อเมริกาเป็นแดนแห่งเสรีภาพ แอดขอยกให้เวียดนามเป็นแดนแห่ง “มอเตอร์ไซต์” ที่ทำให้การข้ามถนนแต่ละครั้งมันทั้งวุ่นวายและเสี่ยงชีวิต หากเทียบการลงทุนก็คงเหมือนหนังสือที่แอดเพิ่งสั่งซื้อ  “Crossing the Street: How to make a success of investing in Vietnam” เวียดนามเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักลงทุน แต่เช่นเดียวกับตลาดชายขอบอื่นๆ “โอกาสไม่ได้หมายความว่ามันจะง่าย” การลงทุนในประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และน่าตื่นเต้นนี้อาจเปรียบได้กับประสบการณ์ในการพยายามข้ามถนนที่เต็มไปด้วยมอเตอร์ไซต์ที่ต้องเผชิญกับความกลัวและใช้ประสบการณ์ Crossing the Street โดย Andy Ho คือคู่มือการลงทุนในเวียดนามที่ตรงไปตรงมาและนำไปปฏิบัติได้ เขียนโดยนักลงทุนที่มีประสบการณ์เกือบสองทศวรรษ ความท้าทายและการก้าวข้ามนำไปสู่รางวัลอย่างปลอดภัย ปัจจุบัน เวียดนามติดอันดับหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เช่นเดียวกับจีนเมื่อสองทศวรรษก่อน ประเทศกำลังประสบกับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีประชากรที่ร่ำรวยเพิ่มขึ้นเกือบ 100 ล้านคน เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญในเอเชีย และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้จะมีการระบาดใหญ่ทั่วโลก นักลงทุนจากทั่วโลกได้รับทราบถึงโอกาสที่มีมากมายในระบบเศรษฐกิจของเวียดนาม Crossing the Street น่าจะให้ประโยชน์กับพวกเราโดยไม่ต้องถูกรถชน ผลตอบแทน VOF:LSE (VINACAPITAL) ที่คุณ Andy Ho สีส่วนดูแล 10 ปีนี้ เพิ่มถึง +365.4% ทีเดียว การศึกษาแนวคิดของคนที่ประสบความสำเร็จในเวียดนาม น่าจะเป็นหนึ่งใจ Shortcut ให้เรา แต่เนื่องจากหนังสือเปิดตัว 22 มิ.ย. นี้ แอดมินเลยแปลบทสัมภาษณ์คุณ Andy Ho เกี่ยวกับหนังสือและการลงทุนในเวียดนาม...

MOST POPULAR

Thai Nguyen International Hospital

~ Xin Chao! หุ้น TNH ~

หุ้น Holding Company

หุ้น Corner-Extreme