นักลงทุนตื่นตระหนก VN Index ตก 15% ในครึ่งเดือนในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา VN-Index ลดลงจาก 1,200 จุดเหลือ 1,026 จุด นับเป็นการลดลง ถึง 15% 5 ปัจจัยหลัก ที่มีอยู่นักลงทุนต้องพิจารณาในช่วงนี้ Margin Call สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น สิ้นปี 2020 มียอดการให้กู้ยืมมาร์จิ้นประมาณ 81,000 ล้านด่อง เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 3 และ เพิ่มขึ้น 84% เทียบกับช่วงที่ตลาดทำจุดต่ำสุดที่ 660 จุด แม้ว่ามาร์จิ้นบาลานซ์ในตลาดจะสร้างสถิติใหม่ แต่ตัวเลขนี้ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับขนาดของตลาดหุ้นเวียดนามในปัจจุบันยอดเงินกู้มาร์จิ้น/มูลค่าธุรกรรมเฉลี่ยในไตรมาส 4/2020 อยู่ที่ประมาณ 7.4 เท่า ซึ่งต่ำกว่าตอนที่ VN-Index ที่จุดสูงสุดที่ 1,204 จุด (ไตรมาส 2 ปี 2018) ที่ 12 เท่าด้วยเหตุนี้หลายคนจึงเชื่อว่ามาร์จิ้นบาลานซ์ที่สูงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับตลาด การซื้อขายวันนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างมากจาก Margin Call เริ่มเข้าสู่ฤดูรายงานผลประกอบการ เราพบว่าหลายบริษัทมีผลกำไรสูง แต่บางผลประกอบบางธุรกิจก็ไม่ดีแบบที่คิดเราขอแนะนำให้นักลงทุนอ่านงบการเงินของธุรกิจอย่างละเอียดเพื่อหาหุ้นที่สดใส เพราะในช่วงที่ตลาดฟื้นตัวหุ้นเหล่านี้จะฟื้นตัวได้เร็วกว่านักลงทุนจำนวนมากต้องการถอนเงินเพื่อใช้จ่ายในช่วงวันหยุด Tet พวกเขารีบขายทำกำไร และออกจากตลาดหุ้นชั่วคราวก่อนวันหยุดยาวอย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดคิดว่าตลาดหุ้นที่กำลังพุ่งจะตกลงเร็วขนาดนี้...
โลกในมุมมองของ Value Investor       24 มกราคม 64 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร             คนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอย่างจริงจังและมุ่งหวังที่จะ “รวย” จากตลาดหุ้นหรือมีอิสรภาพทางการเงินก่อนเกษียณจากการทำงานประจำนั้น  ควรที่จะมี “ยุทธศาสตร์” การลงทุนตั้งแต่เริ่มต้นมิฉะนั้นเวลาลงทุนก็จะเกิดความสับสนและไม่สามารถสร้างสไตล์การลงทุนที่จะเกิดความเชี่ยวชาญและนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้             จุดเริ่มต้นก็คือ  เราควรที่จะต้องมี “ยุทธศาสตร์หลัก” ก่อนว่า  เราจะ “รวยเร็วแต่มีความเสี่ยงสูง”  หรือ “รวยช้าแต่มีความเสี่ยงต่ำ”  เราจะต้องเลือกว่าจะเอาแบบไหน?  อย่าบอกว่าเราอยาก “รวยเร็วและมีความเสี่ยงต่ำ”  เพราะในความเป็นจริงของการลงทุนนั้น  มันเป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ยากที่คนธรรมดาที่ไม่ได้มีความสามารถเป็นพิเศษจะสามารถสร้างผลตอบแทนดีเลิศมาก ๆ โดยที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงที่สูงกว่าปกติ  วอเร็น บัฟเฟตต์ อาจจะเป็นนักลงทุนน้อยคนมากในโลกที่สามารถทำได้  คนที่ “รวยเร็วมาก” อาจจะเร็วกว่าบัฟเฟตต์หลายเท่าในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น คนที่รวยจากบิทคอย หรือคนที่รวยจากหุ้นดิจิตอลในช่วงเวลาหนึ่งนั้น  สุดท้ายมักจะไม่สามารถรักษาความมั่งคั่งในระดับที่ดีเลิศได้  เพราะในไม่ช้าก็อาจจะขาดทุนอย่างวอดวายเพราะสิ่งที่พวกเขาทำนั้นมีความเสี่ยงสูงเกินไป  หุ้นหรือตราสารที่ลงทุนอาจจะตกลงมาอย่างหนัก  ทำให้เกิดการขาดทุนแทบจะเป็น “หายนะ” ซึ่งผลก็คือ  ที่คิดว่าจะรวยเร็วก็กลายเป็นรวยช้าหรือ “เจ๊ง” ไปเลยก็เป็นได้             ถ้าคิดจะ “รวยเร็วแต่ความเสี่ยงสูง” สิ่งที่จะต้องทำก็คือ  ลงทุนหุ้นแบบน้อยตัวหรือ “Focus Investment” มาก ๆ   การเล่นหุ้นน้อยตัวในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่าถือหุ้นแค่ 2-3 ตัวหรือเป็นสิบ ๆ ตัว ...
"เปิดพอร์ตหุ้นเวียดนามยังไง ที่ไหนดี?" เป็นคำถามยอดฮิตที่ inbox มาหาแอดในช่วงนี้ ช่วงที่ดัชนีหุ้นเวียดนามเริ่มพุ่งใกล้ New High เดิม ผลตอบแทนจากดัชนี 6 เดือนล่าสุด VN index ของเวียดนาม +36.2% ขณะที่ SET index ของไทย +10.2% โพสต์นี้แอดยังไม่ขอพูดเรื่อง Valuation หรือ ตอบว่าซื้อหุ้น/ ETF เวียดนามตอนนี้แพงไหม แต่สิ่งที่แอดอยากบอกในโพสต์นี้คือ ถ้าเพื่อนๆ ตั้งใจลงทุนหุ้นเวียดนามแบบโฟกัสในระยะยาว  “การเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นเวียดนามมีความสำคัญมาก และควรรีบเปิด” เพราะ 1 การเปิดพอร์ตหุ้นเวียดนามจะช่วยให้เราได้รับบทวิเคราะห์และข้อมูลประกอบการลงทุน การรีบเปิดพอร์ต ไม่ได้แปลว่าต้องรีบซื้อหุ้น (รอให้ชัวร์ก่อนแล้วค่อยซื้อหุ้นเวียดนามนะคะ) แต่การเปิดพอร์ตหุ้นเวียดนามจะช่วยให้เราได้รับบทวิเคราะห์และข้อมูลประกอบการลงทุน ทั้งทาง E-mail ที่โบรกเกอร์ส่งให้รายวัน อีกทั้งเราก็สามารถขอ Username Password อ่านบทวิเคราะห์ย้อนหลังในเว็บของโบรกเกอร์เวียดนามด้วย (ข้อมูลหุ้นเวียดนามจะไม่ค่อย Publish เหมือนหุ้นไทย-อเมริกา-จีน ส่วนใหญ่ต้องเป็นลูกค้าเค้าก่อนถึงจะมี access บทวิเคราะห์ค่ะ) 2. การเปิดพอร์ตเป็นการเตรียมความพร้อมในการซื้อหุ้นเมื่อมีจังหวะลงทุน แม้ตลาดหุ้นเวียดนามจะดูดีมีอนาคต แต่ก็ยังเป็นตลาด Frontier ที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง แต่หากเรามีพอร์ตหุ้นเวียดนามแล้ว เราสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนในการซื้อหุ้นตอนที่ตลาดตกหนัก ทั้งหุ้นรายตัว และ ETF ได้...
หากคุณกำลังอ่านสิ่งนี้อยู่ ผมหวังว่าคุณผ่านปี 2020 ที่หนักหนาสาหัสมาได้โดยสวัสดิภาพ ในฐานะนักลงทุน ปี 2020 เป็นปีที่ให้บทเรียนสำคัญกับผม ราวกับว่าการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและสิ่งที่ได้เรียนรู้จากตลาดหลายปีมาอัดรวมอยู่ในปีเดียว ต้นปี 2020 พอร์ตผมประกอบไปด้วยหุ้นสไตล์ Graham และหุ้นเติบโตที่เน้นคุณภาพ แต่กลางกุมภาพันธ์ ผมตัดสินใจปรับวิธีการเลือกหุ้นและค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทใหม่ เข้าเดือนมีนาคมหุ้นสไตล์ Graham ของผมตกหนัก ซึ่งกระทบจิตใจของผมมาก ปลายเดือนมีนาคมผมขายหุ้นสไตล์ Graham ออกทั้งหมด ความผิดพลาดในปี 2020 ของผม เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ 1) ผมเริ่มต้นปีด้วยหุ้นสไตล์  Graham (NYSE: PEI หรือ Pennsylvania Real Estate Invt Trust) เป็นสัดส่วนใหญ่ในพอร์ต ราคาหุ้นดิ่งลงจาก $10.7 ในปี 2018  เหลือ $0.88 ตอนที่ผมขายในเดือนมีนาคม (ลดลง 92% - กล่าวคือหุ้นต้องขึ้นมาอีก 12 เด้ง ถึงจะคืนทุน) 2) ผมถือเงินสดไว้เป็นส่วนใหญ่ของพอร์ตในช่วงครึ่งปีแรก เพราะผมกำลังทดลองวิธีการใหม่ในช่วงเดือนมีนาคมเลยไม่ได้ใช้เงินลงทุนมาก ช่วงเมษายนถึงสิงหาคมผมลงทุนไปแค่ 30-55%ของพอร์ตเงินสดจำนวนมากของผมเพิ่งจะกล้านำมาใช้ในครึ่งปีหลัง เนื่องจากผมยังคงทดลองวิธีการใหม่ในเดือนมีนาคม จึงไม่กล้าใช้เงินทุนมากเกินไป หุ้น 5 ตัวแรกที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดของผมในปีนี้ โดยรวมแล้วผมไม่สามารถพูดได้ว่าผมพอใจในผลงานนัก ...
โลกในมุมมองของ Value Investor        17 มกราคม 64 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร             สิ้นปี 2562 หุ้นเดลต้ามีราคา 53.5 บาท  ต้นปี 2563 เกิดวิกฤติโควิด-19 และต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ที่ 15 มกราคม 2564 เป็นเวลาประมาณ 1 ปีเศษ หุ้นเดลต้ามีราคา 580 บาท  มูลค่าหุ้นทั้งหมดหรือ Market Cap. เพิ่มขึ้นจากประมาณ 6.7 หมื่นล้านบาทเป็น 7.2 แสนล้านบาท คิดแล้วเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงกว่า 10 เท่าในเวลาเพียงปีเดียว  และทำให้หุ้นเดลต้ากลายเป็นหุ้นที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากหุ้นขนาดกลางที่ยังไม่ติดเข้ามาในดัชนี SET 50 ที่ไม่ไปไหนมาหลายปี             ในเวลาเดียวกันนั้น  หุ้นเทสลา มีราคาประมาณ 86 เหรียญสหรัฐและก็ไม่ได้ไปไหนมานานก็ขยับขึ้นฝ่าวิกฤติโควิด-19 มาจนถึงวันนี้มีราคา 826 เหรียญหรือโตขึ้นเกือบ 10 เท่า ในเวลาเพียงปีเดียว และทำให้หุ้นมี Market Cap. หรือมูลค่าตลาดประมาณ 7.8...
ชีวิตเลือกได้ - เลือกลงทุน เวียดนาม The Series ?? ตอน ETF ควรมีมูลค่าเท่าไร ตอนที่ 2 ⌛️ ตอนนี้เรามาหา iNAV หรือราคาที่เราควรจะซื้อหรือขายกองทุน ETF กัน โดยแอดจะขอครอบคลุมในกองทุนที่ได้รับความนิยมเป็นหลัก แต่หลักการนี้ก็น่าจะนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกกอง โดยจะมี 2 แนวทาง - - - วิธี 1 ง่ายหน่อย ?เริ่มจากกอง ETF ขวัญใจมหาชนออกโดยค่าย DCVFM (ซึ่งเพิ่งควบรวมกันเสร็จหมาดๆระหว่าง Dragon Capital และ VietFund Management) ได้แก่ E1VFVN30 & FUEVFVND (หรือเรียกๆกันว่า Diamond Fund ?) ?วิธีหา iNAV ง่ายมาก (จริงๆ) คือ คนขายบอกมาเลยโต้งๆ (ดูภาพใน comment ประกอบ) ว่า iNAV เป็นเท่าไร ซึ่งจะอัพเดตแบบ Real Time (กด...
อยากลงทุน Diamond etf แบบ 100% ต้องเปิดพอร์ต offshore ที่เปิดเทรดหุ้นเวียดนามนะคะ โดยเพื่อนๆ สามารถ เปิดพอร์ตผ่านโบรกเกอร์ไทยที่มี Offshore ประเทศเวียดนาม เช่น KTZmico, Finansia Syrus, BUALUANG, CGS CIMB ฯลฯ เป็นต้นค่ะขอย้ำว่า Diamond etf ไม่มี Foreign Ownership Limit - ไม่ต้องจ่าย Premium และไม่มีคำว่า Foreign Room เต็ม ( พอดีว่ามีคนหลังไมค์มาถามแอดมินเรื่องนี้เยอะค่ะ ว่าบางทีซื้อไม่ได้ เหตุผลหลักคือบางทีระบบซื้อขายมันรวนชั่วคราวค่ะ ทางเวียดนามเค้าก็พยายามปรับเรื่องนี้อยู่ค่ะ ) ก่อนซื้อท่านต้องอ่าน 12 เรื่อง VN Diamond ETF แอดมินเขียนไว้แต่วันที่เข้าตลาด ค่ะ คลิกเลย. https://www.vietnamvi.com/2020/05/12/vndiamondetf/ และหากสนใจเรียนรู้ออนไลน์ ลงทุนหุ้นเวียดนาม อเมริกา จีน สามารถดูรายละเอียดและมีLive สดทุกเดือนถึงเดือน กค. 64 สมัครได้ที่: https://bit.ly/316AyPX  ท่านสามารถติดตามข่าวสารจาก vietnamviได้ที่ Website - https://www.vietnamvi.com Facebook -https://www.facebook.com/vvinvestor/ Line @vietnamvi- https://lin.ee/47V0kep YouTube- https://youtube.com/c/Vietnamvi https://www.vietnamvi.com/2020/05/12/vndiamondetf/ สำหรับเพื่อนๆ สนใจเรียนรู้หุ้นเวียดนาม ดูคลิปวีดีโอ...
โลกในมุมมองของ Value Investor      9 มกราคม 2564 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ข่าว  “น่าตื่นเต้น”  ในแวดวงการเงินการลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็คือการที่ อีลอน มัสก์ เจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลากลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกแทนที่เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซอะมาซอน อานิสงค์จากการที่หุ้นเทสลาปรับตัวขึ้นไปอย่างแรงและรวดเร็วตั้งแต่ต้นปี 2563 ซึ่งหุ้นขึ้นไปถึงกว่า 5 เท่าในเวลาเพียงปีเดียว ทำให้อีลอน มัสก์  ซึ่งในช่วงต้นปี 2563 ที่เคยมีความมั่งคั่งเพียงประมาณ 2.7 หมื่นล้านเหรียญและยังไม่ติด 50 อันดับเศรษฐีโลกด้วยซ้ำ  ร่ำรวยขึ้นมาเป็น 1.88 แสนล้านดอลลาร์หรือประมาณ 5.6 ล้านล้านบาทในวันที่ 7 มกราคม 2564  และนี่น่าจะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของเศรษฐีหมายเลย 1 และหมายเลขต้น ๆ  ของโลก  แต่ถ้าจะพูดไป  การเปลี่ยนแปลงของอันดับเศรษฐีโลกนั้นดูเหมือนว่าจะมีการเร่งตัวขึ้นเรื่อย ๆ  ตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ  ที่ทำให้กิจการไฮเท็คมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้เจ้าของบริษัทร่ำรวยตามกันไป  เรามาดูกันว่าในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา  ใครคือคนที่มั่งคั่งที่สุดในแต่ละปีและเพราะอะไร           เริ่มจากต้นปี 1996 หรือปี 2539 ในช่วงนั้นเป็นยุคต้นของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องมีโปรแกรมเพื่อให้มันทำงานได้และโปรแกรมวินโดว์ของไมโครซอฟท์กำลังเป็นผู้ชนะอย่างชัดเจน  ดังนั้น  บิลเกตเจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัทจึงกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก  มีความมั่งคั่งประมาณ...
diamond etf
ไลฟ์สด! รับปีใหม่ 2021 กับประเด็น Hot ++ เจาะลึก Diamond และ ETF ที่น่าสนใจในเวียดนามโดยแอดมินเพจ Vietnam Value Investor X The Life Chosen10 ม.ค. นี้ (14.00-15.30 น.)ในกลุ่มปิด! ปรับทัพลงทุนหุ้นเวียดนาม อเมริกา จีน เท่านั้น ** -----เนื้อหาไลฟ์- สรุปภาพรวมหุ้นเวียดนามปี 2020 สู่ปี 2021- เจาะ ETF ที่น่าสนใจในเวียดนาม : Diamond , VN30 , DR , VN50 , VNFIN LEAD- Q&A มือใหม่หุ้นเวียดนาม สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน กลุ่มปิด! ปรับทัพลงทุนหุ้นเวียดนาม อเมริกา จีน สามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่: https://bit.ly/316AyPX ค่ะ ดู
โลกในมุมมองของ Value Investor       2 มกราคม 2564 ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร             ปี 2563 เป็นอีกปีหนึ่งที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตกต่ำลงเนื่องจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงอย่างหนักตามการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก  และแม้ว่าการตกลงของดัชนีหุ้นไทยนั้นก็ไม่ถึงกับรุนแรงมากเพราะตกลงมาเพียง 8.3% จากสิ้นปี 2562  แต่ในฐานะนักลงทุนระยะยาวผมก็รู้สึกว่าตลาดหุ้นไทยนั้น “ใกล้สิ้นหวัง” เพราะนี่นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ดัชนีตลาดค่อนข้างย่ำแย่  ปี 2561 ติดลบไป 10.8% ปีที่แล้วบวกเพียง 1% และปีนี้ที่ติดลบไปอีก 8.3% จะบอกว่าไม่แย่ก็ไม่ได้  เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกที่ก็ประสบกับปัญหาโควิด-19 เหมือนกันและโดนหนักกว่า  กลับค่อนข้างดี  หลายแห่งบวกเป็นตัวเลข 2 หลัก  ตลาดหุ้นไทยนั้นอยู่ในกลุ่มที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุดในโลก  สำหรับนักลงทุนระยะยาวแบบผมแล้ว  นี่เป็นอีกปีหนึ่งที่ “หายไป” หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยย่ำแย่มาหลาย ๆ  ปีมาก             มองย้อนหลังกลับไปตั้งแต่สิ้นปี 2008 หรือปี 2551 ที่เกิดวิกฤติซับไพร์มและดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 450 จุดนั้น  ตลาดหุ้นไทยก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 4 ปีเต็ม  พอถึงสิ้นปี 2555 ดัชนีปรับขึ้นเป็น 1,392 จุด หรือเพิ่มขึ้นเป็น...

MOST POPULAR