Z Holding หรือ Yahoo Japan โดย Softbank Crop บริษัทระดับTop ด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารสัญชาติญี่ปุ่นและผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Alibaba ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับเคมเปญ 11.11 ได้เผยว่ามีการเจรจาข้อตกลงควบรวมกิจการกับ Line Corp โดย Never Corp Z Holding หรือ Yahoo Japan โดย Softbank Crop บริษัทระดับTop ด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารสัญชาติญี่ปุ่นและผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Alibaba ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับเคมเปญ 11.11 ได้เผยว่ามีการเจรจาข้อตกลงควบรวมกิจการกับ Line Corp โดย Never Corp และทาง Line ก็ยืนยันว่ามีการเจรจากันจริงแต่ยังไม่มีการตัดสินใจ โดย Reuter ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า น่าจะมีข้อตกลงภายในสิ้นเดือนและ Softbank Corp และ Never Corp อาจจะควบรวมกิจการกันในสัดส่วน...
ตามรายงานผลกำไรสามไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆในตลาดหลักทรัพย์ของเวียดนาม 85% ยังมีผลกำไรที่เติบโต รายงานผลกำไรไตรมาสที่สาม ในส่วนภาคการธนาคาร Vietcombank (VCB) เป็น Best performer ทำกำไรสุทธิได้ทะลุเกิน 5 ทริลเลี่ยนVND ขึ้นมา 72% เทียบเป็นรายปี ตามรายงานผลกำไรสามไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆในตลาดหลักทรัพย์ของเวียดนาม 85% ยังมีผลกำไรที่เติบโต จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยบริษัทที่ให้บริการด้านการเงิน Stockplus' Fiinpro Platform มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ 832 บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เท่ากับ 95% ของมูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดทั้งหมด ซึ่งในส่วนที่เหลือก็ทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ รายงานผลกำไรไตรมาสที่สาม ในส่วนภาคการธนาคาร Vietcombank (VCB) เป็น Best performer ทำกำไรสุทธิได้ทะลุเกิน 5 ทริลเลี่ยนVND ขึ้นมา 72% เทียบเป็นรายปีตามด้วย Techcombank (TCB)...
WHAUP บริษัทสาขาของ WHA Utilities and Power บริษัทที่ทำธุรกิจด้านสาธารณูปโภคและธุรกิจด้านพลังงานของไทย ได้ทำข้อตกลงซื้อขายหุ้นกับ Do Tat Thang ผู้ถือหุ้นของ โรงผลิตน้ำ Duong River Surface Water Plant JSC ในเวียดนาม และได้ถือหุ้น 34% ( 33,986,774 หุ้น)ในที่สุดDuong River Surface Water Plant JSC โรงผลิตน้ำขนาดใหญ่ที่ผลิตน้ำประปาให้กับเมือง Hanoi ที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของเวียดนาม และมีความต้องการการใช้น้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคอย่างมาก ซึ่งโรงผลิตน้ำที่ผลิตน้ำจากพื้นผิวดินขนาด65 เฮกตาร์นี้ มีการลงทุนในระยะแรกทั้งหมด 5 ทริลเลี่ยน VND (217.39 ดอลลาร์สหรัฐฯ) จากผู้ถือหุ้นคือ Hanoi Water Co.Ltd.(10%), New Technology Application and Tourism One-Member LLC (Newtatco)(5%), Vietnam-Oman Investment JSC (entrusted...
หุ้นของธนาคารเวียดนามที่อยู่บนอันดับเชิงบวก (overweight)ของ JP Morgan มี Vietcombank (HoSE:VCB), Techcombank (HoSE:TCB), ACB(HNX:ACB) และในผลประเมินระดับกลาง(neutral) คือ VP Bank(HoSE:VPB) ได้รับการคาดการณ์การเติบโตที่ 14-68% ในอีก12 เดือนข้างหน้า เมื่อไม่นานมานี้ Asia-Pacific Securities Research Department ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของ JP Morgan ได้เปิดเผยรายงานแรกที่เป็นความคิดเห็นเชิงบวก เกี่ยวกับภาคส่วนการธนาคารของเวียดนาม โดยเฉพาะที่ยักษ์ใหญ่ด้านการเงินกล่าวว่า ธนาคารของเวียดนามกำลังกลายเป็นหนึ่งตัวอย่างเล็กๆที่รวมทั้งการเติบโตแบบ high profit และ stable profit ในระยะยาวไว้ด้วยกัน จากมุมมองของ JP Morgan สิ่งเหล่านี้พร้อมกับวงจรเครดิตที่ดี จะเป็นปัจจัยที่จะนำมาซึ่งผลกำไรที่สำคัญให้กับการธนาคารของเวียดนามตลอดทั้งปี หุ้นของธนาคารเวียดนามที่อยู่บนอันดับเชิงบวก (overweight)ของ JP...
โลกในมุมมองของ Value Investor      10 พฤศจิกายน 62 ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ​สำหรับคนที่เกาะติดตลาดหุ้นและลงทุนหรือเล่นหุ้นตลอดเวลามานานหลาย ๆ  ปีและ “จำได้” ก็จะพบว่าผลตอบแทนการลงทุนและความนิยมของหุ้นกลุ่มต่าง ๆ นั้น  บ่อยครั้งก็จะมี “รอบ” ของมัน  ความหมายก็คือ  ในช่วงเวลาหนึ่งซึ่งมักจะเป็นเวลาเกินปีหรือบางครั้งก็หลายปี  จะมีหุ้นกลุ่มหนึ่งหรือบางทีมากกว่านั้นที่ผลตอบแทนหรือราคาหุ้นจะเติบโตโดดเด่นเป็นพิเศษ   ตอนเริ่มแรกก็อาจจะมีแค่หุ้นบางตัวในกลุ่มที่วิ่งขึ้นไปแรงมากด้วยเหตุผลต่าง ๆ  ซึ่งรวมถึงผลประกอบการที่เติบโตขึ้นมาก  และเรื่องราวหรือสตอรี่ของบริษัทที่สดใส  รายได้และ/หรือโครงการในอนาคตนั้นจะเพิ่มพูนขึ้นมากจากโครงการทั้งปัจจุบันและอนาคตที่มั่นคงอานิสงค์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เป็น“เมกาเทรนด์”  ประกอบกับความสามารถของบริษัทที่ได้มีการพิสูจน์แล้ว ต่อมาหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมหรือธุรกิจเดียวกันก็เริ่มวิ่งตามมา  เหตุผลก็แบบเดียวกันนั่นคือ  บริษัทก็มีกำไรที่ดี  มีโครงการใหม่ไม่น้อยไปกว่ากันเท่าไร  และก็เช่นเดียวกัน  มีความสามารถในการแข่งขันไม่ด้อยไปกว่ากันนัก   หลังจากนั้นก็จะมีหุ้นตัวที่สาม  ที่สี่ และต่อ ๆ ไปที่ยังไม่ขึ้นก็จะปรับตัวขึ้นตามกันไป  เหตุผลคงเป็นเพราะว่านักลงทุนและนักเล่นหุ้นต่างก็เชื่อว่าหุ้นในกลุ่มนี้ที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันจะต้องดีเหมือนตัวแรกและเหมือนกันหมด  เพราะฉะนั้นจะต้องรีบซื้อก่อนที่มันจะขึ้น  ดังนั้นหุ้นจึงขึ้น  และเมื่อหุ้นเริ่มขึ้น  นักเล่นหุ้นคนต่อมาก็จะรีบเข้าซื้อเพราะกลัว  “ตกรถ” ดังนั้น  หุ้นจึงต้องขึ้นต่อไป  กลายเป็น  “รอบ” ของหุ้น  ซึ่งล่าสุดของปรากฏการณ์นี้ก็คือรอบของ “หุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่”  ที่เราเห็นหุ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่เกือบทุกตัววิ่งขึ้นไปอย่างแรงเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว รอบของหุ้นนั้นมักจะมาเมื่อภาวะทางอุตสาหกรรมเอื้ออำนวย  และภาวะทางอุตสาหกรรมนั้นก็มักจะอิงอยู่กับภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย  แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจปีต่อปีแต่มักจะเป็นเรื่องของสถานะหรือระดับของความมั่งคั่งของคนไทยที่ก่อให้เกิด “เมกาเทรนด์” ที่เอื้ออำนวยให้กับอุตสาหกรรมนั้น ๆ ดังนั้น  “รอบของหุ้น”ในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจจึงมักจะไม่ใช่ลักษณะของวัฏจักรที่จะวนกลับมาเป็นรอบ ๆ  แต่มักจะเป็นลักษณะที่มาแล้วก็อาจจะหายไปเลยไม่หมุนเวียนกลับมาอีกหรือกว่าจะกลับมาก็นานจนลืมไปเลย  ลองมาดูรอบของหุ้นในธุรกิจต่าง ๆ  ที่เคยเกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ก่อตั้งดู ยุคแรก ๆ  ของตลาดหลักทรัพย์นั้น  หุ้นที่มารอบแรกนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นหุ้น “Finance” หรือกลุ่มบริษัท “เงินทุนหลักทรัพย์” ที่เป็นทั้งโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นและเป็นบริษัทเงินทุนซึ่งมักจะปล่อยเงินกู้เช่าซื้อรถยนต์  ปล่อยเงินกู้มาร์จินซื้อขายหุ้น  และต่อมาก็ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังร้อนแรงเนื่องจากผู้บริโภคคนไทยกำลังเติบโตเป็นหนุ่มสาวจำนวนมากที่ต้องการซื้อบ้านเป็นครั้งแรก  ด้วย   เหตุผลในตอนนั้นก็ชัดเจน  บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์มีการเติบโตมหาศาล  บางบริษัทใหญ่ขึ้นมากและเริ่มใช้เทคนิคทางด้านตลาดทุน “สมัยใหม่” เช่น  การเทคโอเวอร์กิจการอื่นที่อาศัยเงินจากการระดมทุนในตลาดหุ้น  ในช่วงท้ายของ “รอบ” นั้น  แม้แต่ธนาคารพาณิชย์เองก็กลายเป็นเป้าหมายของการถูกเทคโอเวอร์  ในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์นั้น  บางบริษัทก็อาศัยความได้เปรียบที่ตนเองอยู่ใน “ศูนย์กลางของตลาด” ทำการ  “ปั่นหุ้น”  ทั้งหุ้นของบริษัทอื่นและหุ้นของตนเองซึ่งทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมหาศาลโดยที่พื้นฐานของกิจการไม่รองรับ พวกเขาทำได้เพราะว่ากฎหมายหลักทรัพย์ยังไม่มีประสิทธภาพ  กลต. ก็ยังไม่เกิด...
Vietnam Dairy Products Joint Stock Company (VNM) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมชั้นนำของเวียดนาม รายงานผลกำไรสุทธิจาก 9 เดือนแรกของปี 2019 โดยหลังจากไตรมาสที่สาม Vinamilk มีรายได้สุทธิรวมทั้งหมดมากกว่า 42 ทริลเลี่ยน VND ขึ้นมา 7% เทียบเป็นรายปี Vietnam Dairy Products Joint Stock Company (VNM) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมชั้นนำของเวียดนาม รายงานผลกำไรสุทธิจาก 9 เดือนแรกของปี 2019 โดยหลังจากไตรมาสที่สาม Vinamilk มีรายได้สุทธิรวมทั้งหมดมากกว่า 42 ทริลเลี่ยน VND ขึ้นมา 7% เทียบเป็นรายปี ...
ปิดฉากลงแล้วอย่างเป็นทางการ สำหรับ การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 โดย นายกรัฐมนตรีไทย ประธานอาเซียน 2019 ได้มอบค้อนให้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ประธานอาเซียน 2020 ที่รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนในปีหน้าแล้ว เรียกว่าไทย-เวียดนาม เป็นทั้งเพื่อนรักและคู่แข่งที่สำคัญจริงๆ ในช่วงนี้ มาดูอันดับโลก ในด้านต่างๆ ของ 2 ประเทศกันค่ะ GDP ไทย อยู่อันดับที่ 25 ส่วน เวียดนาม อยู่อันดับที่ 46 ดัชนีความสงบสุขโลกไทย อยู่อันดับที่ 117 เวียดนาม อยู่อันดับที่ 57ดัชนีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ไทย อยู่ที่ 40 เวียดนาม อยู่ที่ 67 ความแข็งแกร่งด้านการทหาร ไทย อยู่อันดับ 26 เวียดนาม อยู่ที่ 23 อันดับฟุตบอลโลก ไทย อยู่ที่ 114 ส่วน เวียดนาม อยู่ที่ 99 Credit: https://www.springnews.co.th/news/569554thebangkokinsight,...
โลกในมุมมองของ Value Investor         2 พฤศจิกายน 62 ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร จากแม่ชม้อยถึงแม่มณี แชร์ลูกโซ่ 4.0 ​การต้มตุ๋นทางการเงินจากประชาชนทั่วไปแบบ “แชร์ลูกโซ่” หรือในทางสากลเรียกว่า “Ponzi Scheme” นั้นน่าจะถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยและทำความเสียหายให้กับ “เหยื่อ” มากที่สุดในสังคมไทย  เหตุผลอาจจะเป็นเพราะว่าแชร์ลูกโซ่นั้นมักถูกออกแบบและโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เป็นเรื่องของ “การลงทุน” ที่ให้ผลตอบแทนดีมากและมีความเสี่ยงต่ำซึ่งจะดึงดูดให้คนทั่วไปสนใจเข้ามาลงทุน  โดยที่ธุรกิจหรือการลงทุนที่จะทำนั้นจะเป็นเรื่องที่กำลังโด่งดังอยู่ในกระแส เช่น ในช่วงปี 2520 และต่อมาอีกหลายปีนั้นก็เป็นเรื่องของวิกฤติน้ำมันที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูงมาก  การลงทุนในธุรกิจน้ำมันน่าจะให้ผลตอบแทนที่งดงาม  และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ “แชร์แม่ชม้อย” ที่ถือว่าเป็นแชร์ลูกโซ่รายแรกของเมืองไทย   ​คำว่าผลตอบแทนที่ดีมากนั้น  ในความคิดของคนทั่วไปที่ไม่ได้มีเงินมากมายนักในประเทศไทยผมคิดว่าคงจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 5-10% และเป็นอัตรานี้มายาวนานแม้ว่าดอกเบี้ยที่เป็นทางการในท้องตลาดจะเปลี่ยนไปมาก  นี่เป็นตัวเลขที่ผมประเมินจากประสบการณ์ของตนเองตั้งแต่สมัยที่ทำงานในโรงงานขนาดใหญ่ในต่างจังหวัดเมื่อกว่า 40 ปีมาแล้วที่คนงานต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณเดือนละ 10% จากหนี้นอกระบบ  นอกจากนั้น  แชร์แม่ชม้อยที่เกิดขึ้นในปี 2520 ก็เสนอผลตอบแทนที่ 6.5% ต่อเดือน  ในขณะที่ “แชร์แม่มณี” ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็ว ๆ  นี้ก็จ่ายผลตอบแทนประมาณ 9-10% ต่อเดือน  หรือสรุปง่าย ๆ ก็คือ   การลงทุนควรจะได้ทุนคืนในเวลาประมาณ 1 ปี ซึ่งทำให้คนอยาก “เสี่ยง” เพราะดูแล้วคนที่เสนอก็น่าเชื่อถือเป็นที่รู้จักในวงสังคม “ไฮโซ” คงไม่ล้มไปได้ง่าย ๆ วงเงินขั้นต่ำในการลงทุนเองนั้นก็ดูเหมือนจะไม่มากเกินกำลัง  ในสมัยแชร์แม่ชม้อยนั้นเริ่มต้นครั้งแรกก็ประมาณ 160,000 บาทต่อ “น้ำมันหนึ่งคันรถ” แต่หลังจากนั้นก็ลดลงเหลือเพียงประมาณ 1 ใน 4 คือ 40,000 บาทหรือ  “ลงทุน 1 ล้อ”  ซึ่งเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำในกรณีของแชร์แม่มณีและล่าสุดก็คือกรณีของ Forex3D ซึ่งอ้างว่าเป็นเรื่องของการลงทุนเล่น “ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ”  ก็อยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท เม็ดเงินขั้นต่ำที่ “พอรับได้” นี้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนที่ไม่เคยเล่นอยากจะลองดู  และนั่นทำให้จำนวนคนที่เข้าไปเล่นนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะหลังจากที่มีการพูดกัน  “ปากต่อปาก” ในกรณีของแม่ชม้อยและ “ไลน์ต่อไลน์” ในกรณีของแม่มณีและ Forex3D ​ความ “น่าเชื่อถือ” เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญและอาจจะมากที่สุดในการที่จะชักชวนให้คนมาลงทุนหรือมาเล่น  กรณีแม่ชม้อยนั้น  เธอเป็นคนที่อยู่ใน “แวดวงเกี่ยวกับน้ำมัน” คือเป็นเจ้าหน้าที่ในองค์การเชื้อเพลิงสมัยนั้นและมีสามีเป็นทหารอากาศ  ดังนั้น  คนกลุ่มแรก ๆ ที่เข้ามา...
ทะลุ 1000 จุดแล้ว vn index กลับมาทะลุ 1000 จุดอีกครั้งหนึ่ง แล้ว สำหรับหุ้นเวียดนาม. . vn index ซึ่งก่อนหน้านี้เคยปรับฐานลงไปอยู่แถวที่ 900 จุด. โดยช่วงต้นปี 2018เคยขึ้นไปทำสถิติสูงสุด 1200 จุดและเคยติดอันดับเป็นตลอดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดมาแล้วในปีนั้น . ก่อนที่จะมีการปรับฐานในปลายปี2018 วันนี้ vn index ได้กลับมาอีกครั้ง. โดยได้ทะลุ 1000จุดะมาปิดตลาดที่ 1015 จุดในช่วงสิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา 5 เหตุผลที่คุณต้องสนใจหุ้นเวียดนามตอนนี้ ++ด่วน….เปิดรับสมัครแล้ว++ ? 1 ปีมีครั้งเดียวเท่านั้น! วันรวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนามปี 62 รวมพลรับความรู้-รับศักราชใหม่ กับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และกูรูการลงทุนหุ้นเวียดนามชั้นนำ ? วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2562 ? เวลา 9.00-17.00 น. ? โรงแรมเอเชีย (ติดรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี) ? ค่าสัมมนารวมอาหารว่าง 2 มื้อ และอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ ...
Cisco บริษัทใหญ่ที่ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์และอื่นๆที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งหมด มีแผนที่จะให้บริการ 5G ซึ่งก็คือเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายใหม่ล่าสุด ที่เวียดนามและสิงคโปร์เป็นประเทศแรกๆ ในอาเซียน โดยจะเริ่มที่สิงคโปร์ในปี2020 และมีแผนที่จะเริ่มใช้ในเวียดนามในปี 2021 ตามรายงานการศึกษาตลาดของ Ciscoแสดงให้เห็นว่า การเปิดให้บริการ 5G จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทคมนาคมในเวียดนาม มากขึ้นถึง 300 ล้านดอลลาร์ฯต่อปี เริ่มจากปี 2025 และคาดไว้ว่าภายในปี 2025 5G จะแพร่หลายในประเทศหลักๆของอาเซียน 25-40% และมีจำนวนผู้ใช้งาน 5G เกินกว่า 200 ล้านคน ซึ่งจะมีจำนวนผู้ใช้งาน 5G ในเวียดนามมากกว่า 6% ในโลกปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีและระบบเน็ตเวิร์คนั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและการค้า ซึ่ง...

MOST POPULAR