Fund Talk: 20 ปีของการลงทุนในเวียดนาม

แอดมินเริ่มลงทุนในหุ้นเวียดนามตั้งแต่ปลายปีค.ศ. 2015  รวมเวลาเกือบ 3 ปี
กองทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่ได้ทยอยลงทุนในเวียดนาม ในช่วง ปีค.ศ. 2017

แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแอดมินได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้จัดการกองทุนแห่งหนึ่งที่สวิสเซอร์แลนด์
ซึ่งกองทุนแห่งนี้เริ่มลงทุนในเวียดนามมาแล้ว 20 ปี ก่อนตลาดหุ้นเวียดนามจะเริ่มเสียอีก!

เขาคิดยังไงกับภาวะหุ้นเวียดนามที่ผันผวนช่วงนี้? เขาชอบหุ้นแบบไหนในเวียดนาม? แล้วเค้าลงทุนที่ไหนในเอเชียบ้าง?

ขอเชิญเพื่อนๆ  Take off จากกรุงเทพ บิน 10 ชั่วโมงตรงมายังเมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์  เพื่อมาคุยกับ Ms.Shasha Li Mafli,
Asia/Vietnam Portfolio Manager & Asian hedge funds researcher ที่  Bellecapital ด้วยกันกับแอดเลยตอนนี้เลยนะคะ
(ภาพ Office Bellecapital  และ คุณ Shasha ตามโพสต์นี้เลยค่ะ)

—-

เริ่มจากคำถามแรกกันเลยดีกว่าค่ะ

Q: ช่วยเล่าประวัติคุณให้เราฟังหน่อยค่ะ
ฉันมาจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มาอยู่สวิตเซอร์แลนด์ 20 ปีแล้ว
ฉันลงทุนในเอเชียมา 14-15 ปี เน้นในประเทศจีน โดยช่วงเวลานั้นจะเห็นได้ชัดว่าจีนมีความสำคัญในเศรษฐกิจโลก
มีบริษัทของรัฐวิสาหกิจจำนวนมากที่แปรรูปเข้าตลาดหุ้นซึ่งคล้ายกับเวียดนามในปัจจุบัน

วันนี้เวียดนามเหมือนจีนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว
เป็นคอมมิวนิสต์ แต่เป็นระบบเปิด นโยบายของรัฐบาลเอื้อต่อการลงทุนของต่างประเทศ
ทุกครั้งที่ฉันไปเวียดนาม มันเปลี่ยนไปเร็วมาก

ฉันสามารถจินตนาการเวียดนามใน 15-20 ปีข้างหน้าเช่นจีน
แน่นอนขนาดแตกต่างกันมาก  ประเทศจีนมีขนาดใหญ่กว่าทั้งในแง่ของประชากร
แต่เวียดนามก็เป็นประเทศที่ใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีประชากรเกือบ 100 ล้านคน เติบโตขึ้นจากฐานที่ต่ำมาก
และรัฐบาลตัดสินใจถูกมากกว่าผิด ว่าประเทศควรจะไปข้างหน้า

ชาวเวียดนามเป็นคนที่ทำงานหนัก อยากจะประสบความสำเร็จ พวกเขาต้องการที่จะสร้างธุรกิจของพวกเขา
ถ้าเปรียบเทียบประชากรในประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฉันคิดว่าพวกเขาใกล้เคียงกับจีนมากสุด   ทำงานหนัก – ประหยัด – ลงทุนเพื่อการศึกษาของเด็ก รากฐานของประเทศมั่นคง

Q: ช่วยเล่าเกี่ยวกับการลงทุนเวียดนามของ Bellecapital ให้เราฟังหน่อย

Bellecapital เริ่มลงทุนในเวียดนามในปีค.ศ.  1997 (กว่า 20 ปีแล้ว) ตอนนั้นเป็น Fund of Fund โดยลงทุนใน  Dragon Capital ต่ออีกที

ในปี 2007 มีหุ้น P/E เกือบ 70 หลายหุ้น หุ้นจำนวนมากขายพร้อมพรีเมี่ยม 30%
พวกเราลดการลงทุนในเวียดนามในปีนั้น ซึ่งนั่นสามารถสร้างความปลอดภัยให้กับเราเมื่อยามที่ตลาดตกในปี 2008

ในปี 2009 หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกรัฐบาลได้ทำผิดพลาดจากการกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไปทำให้อัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้ตลาดหุ้นตกหนักในปี 2009

ช่วงปี 2009-2012 พวกเราไม่ได้ทำอะไรกับเวียดนามนัก

แต่ปี 2012 เดือนกุมภาพันธ์ พวกเราคิดว่า Valuation เวียดนามน่าสนใจอีกครั้ง
ตอนนั้นไม่มีใครมองเวียดนาม นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ออกจากตลาด พวกเราจึงเริ่มลงทุนในเวียดนามอีกครั้งกับผลิตภัณฑ์ของเราเองด้วย Morgan Stanley certificated

Q: คุณเคยลงทุนใน ETF เวียดนามแล้วหรือยัง?

ยังไม่เคยค่ะ  เราเลือกหุ้นของเราเอง 20-30 หุ้นเข้าพอร์ต
ฉันจำพอร์ตหุ้นฉันในปี  2012 ได้ดี ว่าตอนนั้น P/E= 5 ปันผล= 14%  Balance sheet มีเงินสดสูง ความเสี่ยงน้อย

แม้ในวันนี้หลังจากที่ตลาดปรับตัวลดลงหนัก  พอร์ตการลงทุนก็เลยน่าดึงดูดอีกครั้ง P/E ล่วงหน้า (Forward P/E)ประมาณ 9 เท่า ปันผล=  4%
ในแง่ของความคาดหวังสำหรับ 4-5 ปีเราค่อนข้างมั่นใจและเราชอบเรื่องราวของเวียดนาม

เราได้ทำผลตอบแทนได้ 16-17% ต่อปี (เป็นเวลา 6 ปีที่บันทึก)
Valuation กลับมาน่าสนใจอีกครั้งในช่วงตลาดหุ้นตกในช่วงนี้ และเราคิดว่าถ้าคุณเป็นนักลงทุนระยะยาวคุณก็ควรลงทุนในขณะนี้

Q: คุณชอบหุ้นขนาดกลาง-เล็ก-ใหญ่?

มันไม่สำคัญที่ขนาด แต่สำคัญที่มูลค่าและคุณค่าที่แข็งแกร่ง
ตอนแรกเราชอบลงทุนหุ้นใหญ่ แต่ 2 ปีที่ผ่านมาหุ้นใหญ่โดยรวมเริ่มแพง เราจึงเริ่มลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ถูกกว่า

Q: Sector ไหนที่คุณชอบ?

เรากระจายไปในหลายๆ Sector แต่ลงทุนมากในกลุ่มอุตสาหกรรม และพวกนิคมอุตสาหกรรมที่มีที่ดินทำเลดีๆ เยอะๆ ใน Balance sheet

บางนิคมมีธุรกิจวัสดุก่อสร้างด้วย แต่ยังเป็นนิคมอุตสาหกรรมในภาคเหนือ ฉันเชื่อมั่นในการผลิตในเวียดนามและบริษัทที่เข้ามาเวียดนามอาจชอบในภาคเหนือ

Q: บาง บริษัทนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามไม่เจริญเติบโตนักในช่วงนี้ คุณคิดอย่างไร?

บางครั้งการเจริญเติบโตเป็นสิ่งที่ยากที่จะคาดเดาได้เนื่องจากเป็น Asset play
คำถามที่คุณไม่ทราบเมื่อไหร่จะ book ในงบดุล
การเติบโตของไตรมาสมีความสำคัญน้อยกว่า และการที่เราทราบว่า บริษัทต่างๆมีทิศทางที่ถูกต้องสำหรับ 3-5 ปีข้างหน้า

ฉันยังบริหารเงินในเอเชียดังนั้นฉันก็มองไปที่ประเทศจีน
นอกประเทศจีนเป็นตัวเลือกแรกสำหรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมคือเวียดนาม

ความคิดเดิมของการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของฉันมาจากการลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ฉันลงทุนใน BCI ซึ่ง KDH มา Take over พวกเขามีที่ดินขนาดใหญ่ ตอนซื้อราคาต่ำกว่าครึ่งของมูลค่าที่เราประเมิน
เราลงทุนมา 2-3 ปีแล้ว และ 2 ปีที่ผ่านมาทำได้ดีมาก

Q: คุณสนใจ บริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีที่ดินทำเลดีขนาดใหญ่อย่าง Vingroup หรือไม่?
ใน Marco view Vingroup น่าสนใจ แต่ในรายละเอียด ความซับซ้อน และมูลค่า เรามีบริษัทอื่นที่เราสนใจมากกว่า

Q: เนื่องจากคุณเป็นนักลงทุนต่างชาติเหมือนเราคุณเคยซื้อหุ้นที่ Foreign room เต็มโดยจ่าย Premium หรือไม่?

ยังไม่เคย  เราโชคดีที่มีหุ้น MWG MBB REE เป็นเวลานานแล้ว เราไม่เคยจ่าย Premium มาก่อน
บางครั้งก็ยากที่จะยอมรับว่าคุณต้องจ่าย Premium แพงกว่าราคาบนกระดาน
แต่ช่วงที่ผ่านมาที่หุ้นตกหนัก ฉันได้ถาม Broker ตลอดเผื่อว่าเราอาจมีความโชคดีที่จะซื้อหุ้นดีที่ Foreign room เต็ม ในราคาที่ต่ำกว่านี้

Q: ลูกค้าของคุณคือใคร?
ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราคือ เศรษฐี (High Net Worth) และ ธนาคารเอกชนที่สวิสเซอร์แลนด์

Q: ช่วยเล่าผลิตภัณฑ์ของ Fund คุณได้ไหม?

ฉันเป็นผู้จัดการกองทุน Galileo Asia Fund และ Galileo Vietnam Fund

สำหรับ Galileo Asia Fund สัดส่วนการลงทุนแบ่งเป็นประเทศจีน 55% เวียดนาม 16% อินโดนีเซีย 14% อินเดีย 7% อื่น ๆ 8%
ทั้งๆ ที่เศรษฐเวียดนามยังเล็กเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย แต่เราเชื่อในศักยภาพของเวียดนามทำให้เราเวียดนามเราให้สัดส่วนเวียดนามสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากจีนสำหรับกองทุนนี้
ประเทศไทยเคยอยู่ในกองนี้ สัดส่วน 15% เหมือนเวียดนาม แต่เราลบประเทศไทยออกจากกองเมื่อ 2-3 ปีก่อน เนื่องจากมองว่าหุ้นไทยค่อนข้างแพงและการเติบโตค่อนข้างต่ำกว่า

สำหรับ Galileo Vietnam Fund เป็นกองทุนที่ลงทุนเวียดนามโดยเฉพาะ เราไม่ได้เปิดกองลักษณะนี้กับประเทศอื่นในเอเชีย แต่เราชอบเวียดนาม กองทุนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตในระยะยาวของเวียดนามให้กับนักลงทุน ข้อมูลการลงทุนของกองทุนนี้ดูได้ที่
https://www.bellecapital.com/files/files/partner/factsheets/1-Pager-Galileo-Vietnam-Fund.pdf ค่ะ

ระหว่างการพูดคุย แอดสัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นของคุณ Shasha กับการลงทุนหุ้นเวียดนามแม้ตลาดจะผันผวนหนักในช่วงนี้ แต่คุณ Shasha ก็บอกนะคะว่ายิ่งผันผวนยิ่งทำให้มีจังหวะในการลงทุนเพิ่มที่สำคัญสุดคือ “การลงทุนหุ้นเวียดนามต้องเป็นการลงทุนระยะยาว”

—–
“ความไม่แน่นอนคือเพื่อนของนักลงทุนระยะยาว” Warren Buffet
ปีนี้ตลาดหุ้นเวียดนามมีความผันผวนสูง ไม่รู้นักลงทุนที่เพิ่งเริ่มลงทุนไม่นานจะเริ่มท้อกันบ้างแล้วหรือเปล่าคะ ?
-การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนเป็นคำเตือนที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป
การศึกษาข้อมูลจากประสบการณ์การลงทุนของผู้ลงทุนเวียดนามที่ยาวนาน ถึงมุมมอง แนวคิดในการลงทุนย่อมมีประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้การพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลการฟังสัมมนาจากผู้มีประสบการณ์การลงทุนก็มีประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน  เตรียมพบการการสัมมนารวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนามได้ ในวันที่ 16 กันยายน 2561 เปิดรับ สมัคร วันที่ 16 สิงหาคม 2561 นี้ค่ะ