Central Retail ทุ่มอีก $800ล้าน ขยายฐานในเวียดนาม

0
970
Central Retail ขยายฐานเวียดนาม
Central Retail ขยายฐานเวียดนาม

.

จากข้อมูลของ Nikkei Asia ล่าสุด กลุ่ม Central Retail ยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกจากประเทศไทย ตั้งเป้าที่จะเพิ่มการลงทุนเป็นสองเท่าในเวียดนาม และวางแผนที่จะใช้จ่ายเงิน ประมาณ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายสาขาอย่างน้อย 710 แห่งภายในปี 2569 จากประมาณ 340 แห่งในปัจจุบัน

“เราต้องการเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคนึกถึง” Olivier Langlet ซีอีโอของ Central Retail Vietnam กล่าวกับ Nikkei เกี่ยวกับเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้ถึง 1 แสนล้านบาท (มากกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์) ภายในปี 2569

นับตั้งแต่การเข้าลงทุนในเวียดนามในปี 2555 ตลาดนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และทำรายได้ให้กับ Central Retail ในปีที่แล้ว 3.86 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้ทั้งหมด นอกจากนี้ สาขาในเวียดนามยังเป็นบริษัทที่สร้างรายได้มากที่สุดให้กับ Central Retail นอกประเทศไทยอีกด้วย

ตามที่ Mr. Langlet กล่าว ภายในปี พ.ศ. 2569 ร้านค้าในเครือ Central Retail จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารและ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แฟชั่น เครื่องใช้ในบ้าน เป็นต้น และบริษัทยังวางแผนที่จะขยายร้านค้าให้ครอบคลุม 55 จังหวัด จากทั้งหมด 63 จังหวัดในเวียดนามภายใน 5 ปีข้างหน้าอีกด้วย

Central Retail ดำเนินธุรกิจภายใต้ 10 แบรนด์ในประเทศเวียดนาม ซึ่งสองในนั้นคือ แบรนด์ GO! และ Tops Market โดยบริษัทคาดว่าความหลากหลายของร้านค้าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับศูนย์การค้าในพอร์ตโฟลิโอ และยังเผยถึงความต้องการ ในการเพิ่มจำนวน GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีพื้นที่ 4,000 – 7,000 ตร.ม. อีกกว่า 70 แห่ง

อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น -AEON Retail Group- ก็กำลังวางแผนที่จะมีซูเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 100 แห่งในเวียดนามภายในปี 2568 จุดแข็งของฝ่าย AEON คือศูนย์การค้าที่มีพื้นที่ประมาณ 300 ตร.ม. พื้นที่เปิดใหม่ของ AEON จะอยู่ที่ประมาณ 500 ตารางเมตรขึ้นไป นอกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่แล้ว AEON ยังต้องการสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ตามสไตล์ญี่ปุ่นอีกด้วย

ส่วนทางด้านกลุ่มค้าปลีก Lotte ของเกาหลีซึ่งมีจุดแข็งในการดำเนินงานศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เองก็วางแผนที่จะเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต Lotte เพิ่มเติมในเวียดนาม Lotte เคยให้ความสำคัญกับตลาดจีนเป็นตลาดหลักที่สามรองจากเกาหลีและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ถอนตัวออกจากประเทศจีนโดยสมบูรณ์แล้ว และหันมาบุกเต็มตัวในเวียดนามแทน

ปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมการลงทุนของธุรกิจค้าปลีกในตลาดเวียดนามคือศักยภาพของเศรษฐกิจ ในปี 2020 GDP ของเวียดนามเติบโต 2.9% และเป็นเศรษฐกิจแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตในปีนั้น

ตัวชี้วัดมหภาคของเวียดนามยังคงน่าประทับใจอย่างต่อเนื่อง GDP ของเวียดนามในไตรมาสที่สามเพิ่มขึ้น 13.67% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุมาจากการเติบโตของชนชั้นกลาง จึงไม่แปลกที่ เวียดนามนั้นได้กลายมาเป็นตลาดสุดเนื้อหอม ที่บรรดากลุ่มค้าปลีกยักษ์ใหญ่ระดับโลกต่างต้องการเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

.

ขอบคุณข้อมูลจาก: ndh.vn (4/10/22)

.

______

.

สนใจสมัครคอร์ส / สัมมนา / VVI Membership

คลิ๊กดูรายละเอียดและสมัครได้ที่
https://class.vietnamvi.com